KEY :
- เยอรมนี ประกาศใช้มาตรการประหยัดพลังงาน โดยมีระยะเวลา 6 เดือน สำหรับมาตรการชุดแรก
- โดยมีการกำหนดอุณหภูมิห้องให้อยู่ที่ 19 องศาเซลเซียส (จากเดิม 20 องศาฯ) ปิดไฟที่ไม่จำเป็นเช่น ป้ายโฆษณา สถานที่สำคัญต่าง ๆ
- นอกจากนี้ระบบทำน้ำอุ่นถูกจำกัดการใช้งานในบางสถานที่ บางกิจกรรม และยังคงห้ามใช้น้ำอุ่นที่ใช้แก๊สหรือไฟฟ้าทำความร้อน ในสระว่ายน้ำ
- ภาคท่องเที่ยวหวั่น กระทบการท่องเที่ยว
- แม้ความกังวลกับปัญหาที่เกิดขึ้น และความไม่พอใจรัฐบาลจะเพิ่มขึ้น แต่ชาวเยอรมันส่วนใหญ่ยังสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรต่อไป
…
จากสถานการณ์วิกฤติราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในกลุ่มประเทศยุโรป ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องหลังจากรัสเซียเปิดปฏิบัติการทางทหารต่อยูเครนและนำไปสู่การคว่ำบาตรของชาติต่าง ๆ ในยุโรป
ซึ่งปัญหาเรื่องราคาพลังงานที่เป็นผลกระทบมาจากการคว่ำบาตรก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย ทำให้ราคาพลังงานในหลายประเทศในยุโรปพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและแตะระดับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในหลายประเทศ
เยอรมนีเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการพึ่งพาพลังงานจากก๊าซของรัสเซียเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ราคาพลังงงานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน แม้ว่าเยอรมนีจะสำรองก๊าซไว้ได้ในระดับ 80% แล้วก็ตาม รัฐบาลเยอรมนีจึงจำเป็นที่จะต้อง ออกนโยบายมาตรการประหยัดพลังงานเพิ่มเติม หลังจากที่มาตรการอุดหนุนราคาพลังงงานสิ้นสุดลง ซึ่งมาตรการอุดหนุนที่เกิดขึ้นนั้น ราวครึ่งหนึ่งถูกใช้ในเพื่อเป็นพลังงานความร้อนและพลังงานไฟฟ้าของประเทศ
ซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้ ทำให้เยอรมนีได้ออกกฏการประหยัดพลังงานฉบับใหม่ของประเทศ เพื่อมุ่งเน้นในการลดการใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ ที่จำเป็นต้องใช้ก๊าซในการผลิต เพื่อผ่านพ้นวิกฤติพลังงานในช่วงฤดูหนาวที่กำลังใกล้เข้ามา
แลนด์มาร์กในเยอรมนี ลดเปิดแสงไฟ ประหยัดพลังงาน
ตั้งแต่เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แลนด์มาร์กหลายแห่งในหลายเมืองของเยอรมนี อาทิ เบอร์ลิน มิวนิก และฮันโนเวอร์ พร้อมใจกันลดการเปิดไฟส่องสว่างเวลากลางคืน เพื่อร่วมประหยัดพลังงาน จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาต่อเนื่อง
กฏประหยัดพลังงงานใหม่ของเยอรมนี
มาตรการประหยัดพลังงานฉบับใหม่ได้ผ่านการอนุมัติและมีผลบังคับใช้แล้วจำนวนหนึ่งฉบับ โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่เดือนกันยายนต่อเนื่องไป เป็นระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งจะประกอบไปด้วยมาตรการ
- ปิดไฟโฆษณา หลัง 22.00 น. ยกเว้นป้ายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย
- ปิดไฟประดับอนุสาวรีย์ – อาคารที่ไม่จำเป็นในช่วงกลางคืน ยกเว้นไฟฉุกเฉิน รวมถึงอนุญาตให้มีการเปิดไฟส่องสว่างในบางกิจกรรมหรือสถานที่เท่าที่จำเป็น
- ภายในอาคารสาธารณะ ห้องโถง ทางเดินที่มีการปรับอากาศ ให้ตั้งไว้ที่ 19 องศาเซลเซียส (จากเดิมที่ระดับ 20 องศาเซลเซียส)
- ภายในอาคารที่มีกิจกรรมต่าง ๆ เช่นการออกกำลังกาย อาจจะมีการกำหนดให้อุณหภูมิต่ำกว่าที่กำหนดไว้ในอนาคต โดยอาจจะต่ำถึง 12 องศาเซลเซียส
- อย่างไรก็ตาม ยกเว้นภายในอาคารที่จำเป็นเช่น โรงพยาบาล ศูนย์ดูแล โรงเรียน ที่อาจจะตั้งอุณหภูมิไว้ได้สูงกว่าที่กำหนด ภายใต้ข้อความจำเป็นของผู้ที่อยู่ใช้เวลาอยู่ในสถานที่นั้น ๆ
- ร้านค้าต่าง ๆ จะไม่สามารถเปิดประตูทิ้งไว้ได้ เพื่อเป็นการลดการใช้พลังงาน
- ปิดระบบทำน้ำอุ่นที่ไม่จำเป็นในพื้นที่อาคารสาธารณะ รวมถึงห้องอาบน้ำ สระว่ายน้ำ ห้องพักนักกีฬา ยกเว้นในสถานที่จำเป็นเช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก
- สระว่ายน้ำส่วนตัวจะต้องไม่ใช้ก๊าซ หรือไฟฟ้าในการให้ความร้อน ยกเว้นโรงแรมหรือสถานที่พักผ่อน
ซึ่งมาตรการเหล่านี้ จะมีผลบังคับไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์
มาตรการเพิ่มเติมจะมีการประกาศอีกครั้ง
ซึ่งข้อกำหนดที่เกิดขึ้นและมีผลแล้วนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของมาตรการประหยัดพลังงงานที่ได้ข้อสรุป และประกาศใช้แล้ว และยังคงมีมาตรการอีกบางส่วนที่ยังคงอยู่ในกระบวนการพิจารณาที่จะออกมา ซึ่งเป็นมาตรการในระยะยาว ที่จะมีผลไปจนถึงในช่วงปี 2024 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า เช่น ข้อกำหนดให้เจ้าของอาคารต้องมีการตรวจสอบระบบทำความร้อนด้วยแก๊ส เป็นต้น โดยคาดว่า มาตรการเพิ่มเติมระยะยาว จะได้ข้อสรุปในช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้
ภาคการท่องเที่ยวหวั่น ได้รับผลกระทบ
จากมาตรการที่มีข้อกำหนดให้มีการปิดไฟในสถานที่ต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็น รวมถึงแลนมาร์คสำคัญ ๆ ของเมืองต่าง ๆ ในประเทศเยอรมนี ทำให้หลายฝ่ายกังวลต่อสิ่งที่จะกระทบต่อประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวในเยอรมนี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทศกาลเบียร์ ที่กำลังจะมาถึงในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้
ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวต้องไม่ได้รับความสะดวกสบาย หรือบรรยากาศของเมืองในยามค่ำคืนเหมือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ อาจจะยังต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น เช่น ในเทศกาลเบียร์ Oktoberfest ที่ในปีนี้ ค่าอาหารและเครื่องดื่มจะเริ่มต้นที่ 12 ยูโร จากเดิม 10 ยูโร เมื่อปี 2019
ความไม่พอใจรัฐบาลสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ
นอกจากปัญหาวิกฤติด้านพลังงงานที่ยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาวที่ใกล้เข้ามา แต่ปัญหาเงินเฟ้อจากราคาพลังงานที่เกิดขึ้นแล้วนั้น ยังคงเป็นปัญหาที่สะสมอย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตราเงินเฟ้อในประเทศเยอรมนียังคงอยู่ในระดับที่สูง ส่งผลให้แนวโน้ม ชาวเยอรมันมีความกังวลต่อสิ่งที่กำลังจะเผชิญในช่วงฤดูหนาวนี้มายิ่งขึ้น ควบคู่กับความไม่พอใจรัฐบาลที่เพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ชาวเยอรมันส่วนใหญ่ยังคงให้การสนับสนุนรัฐบาลในการคว่ำบาตรต่อรัสเซียต่อไป