KEY :
- ศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นฟ้อง กกพ. ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้เพิกถอนมติการขึ้นค่าไฟฟ้า หรือค่า FT งวดเดือนกันยายน – ธันวาคม 2565
- มองว่า เป็นการใช้ดุลยพินิจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นการผลักภาระไปให้ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า 20 กว่าล้านครัวเรือนทั่วประเทศ
- ชี้ หากจะช่วยประชาชนจริง ควรระงับการขึ้นค่าไฟฟ้าแทนการช่วยค่าใช้จ่ายเพียงไม่กี่เดือน
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์ณัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นฟ้องคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้เพิกถอนมติการขึ้นค่าไฟฟ้า หรือค่า FT งวดเดือนกันยายน – ธันวาคม 2565
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า จากกรณีที่ กกพ.มีมติขึ้นค่าเอฟทีใหม่ไปอยู่ที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย หรือปรับเพิ่มขึ้น 68.66 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะส่งผลให้ราคาค่าไฟฟ้าที่ประชาชนต้องจ่ายในงวดใหม่เดือนกันยายน-ธันวาคมปีนี้ ปรับขึ้นไปอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย จากเดิมอยู่ที่ 4 บาทต่อหน่วย ถือเป็นอัตราค่าไฟฟ้าที่สูงสุดตั้งแต่เรียกเก็บมา มองว่า เป็นการใช้ดุลยพินิจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นการผลักภาระไปให้ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า 20 กว่าล้านครัวเรือนทั่วประเทศร่วมรับผิดชอบอย่างไม่เป็นธรรม
นายศรีสุวรรณ บอกอีกว่า การคิดค่าเอฟทีเกิดจากการบริหารพลังงานที่ผิดพลาดของแผน PDP2018 เพราะรัฐบาลปล่อยให้มีโรงไฟฟ้าเอกชนมากเกินไป ทำให้มีไฟฟ้าล้นประเทศกว่า 2 หมื่นเมกกะวัตต์ หรือเกือบ 50% ซึ่งระบบสากลกำหนดให้มีไฟฟ้าสำรองได้เพียงประมาณ 15% เท่านั้น และการที่รัฐบาลปล่อยให้มีไฟฟ้าสำรองมากเกินไป ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้เอกชนตามสัญญาผูกมัด กลายเป็นค่าพร้อมจ่ายที่แม้จะใช้ไฟฟ้าหรือไม่ใช้ ก็ต้องจ่าย ทำให้บริษัทเอกชนได้ประโยชน์ แต่ภาระตกอยู่ที่ประชาชน
นอกจากนี้ยังเป็นการไม่ปฏิบัติตาม รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 56 ที่บัญญัติไว้ชัดเจนว่ารัฐจะต้องดูแลเรื่องสาธารณูปโภคพื้นฐานที่จำเป็น และจะให้เอกชนเข้ามามีสัดส่วนเกินกว่า 51% ไม่ได้ แต่ปัจจุบันกิจการไฟฟ้า ซึ่งเป็นกิจการสาธารณูปโภคที่จำเป็นของประเทศกลับปล่อยให้เอกชนเข้าไปดำเนินการผลิตเกือบ 75% แล้ว วันนี้จึงขอให้ศาลระงับคำสั่ง กกพ.ครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลจะมีมติช่วยเหลือค่าไฟฟ้าให้ประชาชน แต่มองว่า เป็นเพียงยาขมเล็กน้อย เพื่อสร้างภาพของรัฐบาลและ กกพ. เท่านั้น เพราะการขึ้นค่าไฟจะกระทบระบบเศรษฐกิจโดยรวมทั้งหมด ทำให้ราคาสินค้าและบริการทั่วประเทศขึ้นราคาตามไปด้วย เพราะต้นทุนค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ดังนั้นหากจะช่วยประชาชนจริง ควรระงับการขึ้นค่าไฟฟ้าแทนการช่วยค่าใช้จ่ายเพียงไม่กี่เดือน