คัดลอก URL แล้ว
‘บิ๊กป้อม’ ลงใต้ติดตามสถานการณ์น้ำ สั่งเตรียมพร้อมรับมือฤดูฝน

‘บิ๊กป้อม’ ลงใต้ติดตามสถานการณ์น้ำ สั่งเตรียมพร้อมรับมือฤดูฝน

KEY :

วันนี้ (8 สิงหาคม 2565) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อม ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และคณะ เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ จังหวัดตรัง และจังหวัดพัทลุง เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและความพร้อมรับมือฤดูฝนภาคใต้ที่กำลังจะมาถึง รวมทั้งปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดตรังและผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงให้การต้อนรับ ณ ศาลากลางจังหวัด โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

จากการบรรยายสรุปภาพรวมสถานการณ์น้ำภาคใต้ จังหวัดตรังมีลำน้ำย่อย 5 สาย มีปัญหาพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก 4 จุดสำคัญ คือ พื้นที่วัดท่าจีน อ.เมือง พื้นที่ตลาดนาโยง อ.นาโยง พื้นที่อนุสาวรีย์ฯ อ.เมือง และ พื้นที่ตลาดย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว เนื่องจากปัญหาแม่น้ำตรังรับปริมาณน้ำสูงจากฝนตกในพื้นที่

รวมทั้งจากเทือกเขาบรรทัด และ อ.ทุ่งสง ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในแม่น้ำตรัง โดยรองนายกรัฐมนตรีได้เดินทางลงพื้นที่ อ.ห้วยยอด ตรวจสอบความเหมาะสม โครงการเพิ่มศักยภาพอ่างเก็บน้ำคลองท่างิ้ว เพื่อเร่งนำไปผลิตน้ำประปาอีกแห่งในพื้นที่ อบต.หนองปรือ และเดินทางต่อไปตรวจเยี่ยมโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง พร้อมกับพบปะประชาชนในพื้นที่ สอบถามทุกข์ สุข และความต้องการ ของพี่น้องประชาชน

รองนายกรัฐมนตรีขอบคุณและเป็นกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกคนในการทำงาน พร้อมเน้นย้ำว่าแม่น้ำตรังมีความสำคัญกับการระบายน้ำและการเกษตรในพื้นที่ภาคใต้ จึงต้องให้ความสำคัญในการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ไม่ให้เกิดภาวะน้ำท่วมและน้ำแล้ง โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เน้นการป้องกันเชิงรุก พร้อมสั่งการให้กรมชลประทาน เร่งรัดก่อสร้างโครงการระบายน้ำแม่น้ำตรังให้แล้วเสร็จภายใน.เดือนกันยายน 2565 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในฤดูฝนที่จะมาถึง และเร่งเตรียมความพร้อมโครงการประตูระบายน้ำแม่น้ำตรัง รวมถึงช่องลัดและคันกั้นน้ำ เพื่อให้สามารถสร้างได้ในปี 2567 โดยให้ สทนช. ยกระดับเป็นโครงการสำคัญ เพื่อให้สามารถบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ครอบคลุม 7 ตำบลใน 4 อำเภอ

ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้เร่งรัดการศึกษาผังน้ำและจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม น้ำแล้ง ในพื้นที่ลุ่มน้ำ เพื่อให้มีแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกันทั้งภาวะปกติและวิกฤต โดยให้หน่วยเกี่ยวข้อง พร้อมทั้งองค์กรปกครองท้องถิ่น และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำรวจพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม รายงานคณะกรรมการลุ่มน้ำ เพื่อแก้ปัญหาเป็นพื้นที่และภาพรวม พร้อมทั้งกำชับกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เร่งพัฒนาน้ำบาดาลที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้วให้เป็นไปตามเป้าหมาย เพื่อให้ประชาชนมีน้ำใช้ในฤดูแล้งโดยทั่วกัน โดยในบ่ายวันเดียวกันจะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดพัทลุงต่อไป


ข่าวที่เกี่ยวข้อง