นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมข้อมูลเพื่ออภิปรายในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลที่ครดว่าจะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในช่วงวันที่ 19-22 ก.ค.65 นี้ว่า ตนเห็นความผิดปกติของการประมูลโครงการท่อส่งน้ำสายหลักพื้นที่ภาคตะวันออก (อีอีซี) มูลค่า 25,000 ล้านบาท ที่กรมธนารักษ์ ในการกำกับของ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง กำลังรับผิดชอบ และเกิดข้อครหาเรื่องความไม่โปร่งใส ในการประมูลคัดเลือก เพราะหากไม่ผิดปกติและเซ็นสัญญาได้จริงคงเซ็นไปนานแล้ว ซึ่งในญัตติฯได้ระบุข้อกล่าวหานายสันติไว้ว่า “ไม่ซื่อสัตย์สุจริต มีพฤติการทุจริตต่อหน้าที่ ละเลยให้มีการทุจริตและแสวงหาประโยชน์”
“ผมบอกเลยเรื่องนี้เรียกว่า ของดีตอนช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ถ้าเรื่องนี้ไม่มีของดี หรือฝ่ายค้านไม่มีทีเด็ดอะไรนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) จะสั่งให้หยุดไว้ก่อนได้อย่างไร เพราะที่จริงวันที่ 3 พ.ค.65 เขาต้องเซ็นสัญญาไปหมดแล้ว แต่คนที่สั่งให้หยุดคือ นายกฯในฐานะประธานอีอีซี ถ้าฝ่ายค้านไม่มีทีเด็ดอะไรนายกฯจะไปสั่งทำไม” นายยุทธพงศ์ กล่าว
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นที่มาที่ไปของบริษัทที่ชนะการประมูลเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเกิดมาตนเพิ่งเคยได้ยิน หากปล่อยโครงการขุดท่อส่งน้ำทั้งหมดไปให้บริษัทอะไรไม่รู้ ไม่มีที่มาที่ไป เกิดบริษัทไม่มีน้ำมาให้มันไม่พังไปทั้งอีอีซีหรืออย่างไร เพราะน้ำดิบไม่เพียงพอกับการขยายตัวของนิคมอุสาหกรรม และโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ตะวันออกต้องไปผันน้ำจากที่อื่น บริษัทที่เอาเข้ามาทำได้จริงหรือไม่ อีกประเด็นการไปเชิญบริษัทเข้าร่วมประมูลทั้ง 5 ราย ก็แปลกๆอยู่เหมือนกัน
“ผมว่าเรื่องนี้ถ้าไม่แปลก ท่านอาคม (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง) คงให้เซ็นสัญญาไปแล้ว ตอนนี้ไม่ยอมให้เซ็นสัญญา เพราะมันผิดกฎหมาย ตั้งแต่กระบวนการประมูลและวิธีการประมูลแล้ว รวมถึงการปรับแก้ทีโออาร์เพื่อเปิดทางให้บริษัทเล็กๆเข้ามาได้ เป็นบริษัทที่ทิ้งงานก็เข้ามาได้ ที่จริงควรทำเพื่อให้ประโยชน์กับทางราชการคนทิ้งงานเข้ามาได้อย่างไร ผมว่าเรื่องนี้ปล้นชาติปล้นแผ่นดิน ผมขอเก็บข้อมูลเด็ดไว้ตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจก็แล้วกัน” นายยุทธพงศ์ ระบุ
นายยุทธพงศ์ กล่าวย้ำว่า ข้อมูลเด็ดที่ว่าเป็นเรื่องใหม่ ที่ยังไม่เคยอภิปรายมาก่อน ส่วนเรื่องอื่นๆเป็นเรื่องเก่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถไฟฟ้า หรือเรือดำน้ำ และจากที่ถามกระทู้กับการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 วาระ 1 ไป นายสันติ ก็ตอบไม่ตรงคำถาม ถึงชนาดที่ฝ่ายรัฐบาลเองอย่าง นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ หัวหน้ากลุ่ม 16 ยังออกมาบอกว่าเรื่องนี้เป็นจุดแตกหัก ส่วนเรื่องอื่นๆพอคุยกันได้
รายงานข่าวระบุว่า ก่อนหน้านี้ นายยุทธพงศ์ ได้ตั้งกระทู้ถามสดถามนายสันติ เรื่องความไม่โปร่งใส เกี่ยวกับการประมูลโครงการท่อส่งน้ำสายหลักพื้นที่อีอีซีว่า มีข้อครหาเรื่องความไม่โปร่งใสในการประมูล รวมถึงอภิปรายบางประเด็นในการพิจารณาร่างงบประมาณปี 2566 ชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติในระเบียบการใช้พื้นที่ราชพัสดุ ของกระทรวงการคลัง ที่กำหนดว่าหากมูลค่าเกิน 500 ล้านบาทขึ้นไป จะต้องดำเนินการประกวดราคาโดยวิธีการประมูลทั่วไป” แต่โครงการท่อส่งน้ำสายหลักในพื้นที่อีอีซีที่กรมธนารักษ์ กำลังดำเนินการดังกล่าวกลับใช้วิธีการคัดเลือก ทั้งนี้การเปิดซองประมูลครั้งแรก บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) (อีสท์ วอเตอร์) เป็นผู้ชนะประมูล แต่ถูกประกาศยกเลิก โดยคณะกรรมการคัดเลือก จนบริษัทอีสท์ วอเตอร์ ต้องฟ้องร้องต่อศาล ต่อมาได้ตั้งคณะกรรมการคัดเลือกชุดใหม่ โดยเปลี่ยนกรรมการชุดแรก ที่คัดค้านการยกเลิกผลการประมูลครั้งแรกจนทำให้ บริษัท วงษ์สยาม จำกัด ชนะการคัดเลือกรอบที่ 2