คัดลอก URL แล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต ‘อดีต ผกก.โจ้’ และพวก ในคดีคลุมถุงดำ โดยลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต ‘อดีต ผกก.โจ้’ และพวก ในคดีคลุมถุงดำ โดยลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

KEY :

[อัปเดต]

ศาลพิพากษาว่าจำเลย พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.โจ้จำเลยที่ 1-5 เเละ7 กระทำผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษข้อหาฆ่าโดยโหดร้ายทารุณฯบทหนักสุดให้ประหารชีวิต ซึ่งศาลได้ลดโทษ 1 ใน3 เหลือจำคุกตลอดชีวิต

ส่วนจำเลยที่6 ผิดข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมานอาญามาตรา 157 ตัดสินใจจำคุก 8 ปี ซึ่งให้ลดโทษลงเหลือจำคุก 5 ปี 4 เดือน

โดยสาเหตุให้บรรเทาโทษนั้น ศาลได้ระบุว่า เนื่องจากจำเลยทั้ง 7 รายให้การเป็นประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีปฐมพยาบาลและนำตัวผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาล จนสามารถกู้ชีพกลับคืนมาได้ครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ ยังให้การช่วยเหลือค่าทำศพ 30,000 บาท และบรรเทาผลร้ายให้แก่บิดา-มารดาผู้เสียชีวิตด้วยอีกคนละ 3 แสนบาท

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำพิพากษาคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับโจ้ และลูกน้อง รวม 7 ราย ใช้ถุงดำคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติด จนเสียชีวิต บนสภ.เมืองนครสวรรค์ เมื่อปี 2564

โดยล่าสุดวันนี้ 9.30 น. ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษา หลังสืบพยานจำเลยนัดสุดท้ายเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยมีสื่อมวลชนมารอทำข่าวจำนวนมากและมีพ่อของผู้เสียชีวิตเดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาด้วย ซึ่งระบุว่าหลังจากนี้จะไม่ยื่นอุทธรณ์

ทั้งนี้ศาลไม่ได้เบิกตัวจำเลยทั้ง 7 รายมาฟังคำพิพากษาที่ศาล แต่ให้ฟังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากเรือนจำ ตามมาตรการควบคุมโควิด //ซึ่งจำเลยได้ส่งตัวแทนทนายความมาฟังคำพิพากษาที่ศาล โดยเบื้องต้นยืนยันว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อทันที ตามความต้องการของอดีตผกก.โจ้ที่เคยแจ้งไว้ ไม่ว่าคำพิพากษาศาลจะออกมาอย่างไร

คดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก มีตำรวจชั้นผู้น้อยรายหนึ่ง ร้องเรียนผ่านทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และนำภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุ ความยาวประมาณ 10 นาที มาเผยแพร่ ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างมาก

จากนั้นพลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงนามคำสั่งให้ อดีตผกก.โจ้และพวก ออกจากราชการไว้ก่อน และขออนุมัติศาลออกหมายจับในเวลาต่อมา ซึ่งขณะนั้นผู้ต้องหาได้หลบหนีก่อนจะทยอยติดต่อขอเข้ามอบตัว

สำหรับอดีตผูกก.โจ้และพวกรวม 7 ราย ถูกแจ้ง 4 ข้อหา คือ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเวินการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานของรัฐใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน และร่วมกันตั้งแต่ห้าคนข่มขืนใจผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 90, 157, 288, 289 (5), 309 วรรค 2 และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 4, 172 โดยมีโทษทั้งหมดตั้งแต่จำคุก 1 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ไปจนถึงประหารชีวิต

โดยรายชื่อตำรวจทั้ง 7 นาย ในคดีนี้ ประกอบด้วย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง