KEY :
- ฮังการีประกาศ “งดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง” ให้รถที่ไม่ได้จดทะเบียนในฮังการี
- หลังพบ “นักท่องเที่ยวเชิงน้ำมันเชื้อเพลิง” หรือ Petrol Tourism แห่ข้ามพรมแดนมาเติม
- เนื่องจากราคาน้ำมันในฮังการีมีราคาถูกว่าประเทศเพื่อนบ้าน
- ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการคว่ำบาตรน้ำมัน-ก๊าซต่อรัสเซีย ซึ่งฮังการีนั้นไม่ได้มีมาตรการคว่ำบาตรแต่อย่างใด เนื่องจากต้องพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียเป็นหลัก
…
สถานการณ์การที่เกิดขึ้นหลังหลายชาติในยุโรปประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย จากการเปิดปฏิบัติการทางทหารต่อยูเครน โดยมีการลด หรือ ระงับการนำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิลจากรัสเซียเพื่อตอบโต้ปฏิบัติการทางทหารที่เกิดขึ้น
ซึ่งทำให้หลายชาติในยุโรปต้องหันไปนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่น ส่งผลให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่สูงขึ้น ร่วมกับผลกระทบจากการคว่ำบาตรที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้ในขณะนี้ บางประเทศกำลังพบปัญหา “นักท่องเที่ยวเชิงน้ำมันเชื้อเพลิงหรือ Petrol tourism มากขึ้น
นักท่องเที่ยวเชิงน้ำมันเชื้อเพลง – Petrol Tourism คืออะไร?
ประชาชนในหลายประเทศของยุโรปนั้นสามารถเดินทางข้ามไปมาระหว่างกันได้อย่างสะดวกโดยการขับรถข้ามไปมาระหว่างกัน ทำให้เกิดการเดินทางขับรถข้ามประเทศเพื่อไปเติมน้ำมันเชื้อเพลิงยังประเทศอื่นที่มีราคาถูกกว่า
โดยที่ผ่านมาเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง เช่น ในช่วงปี 1985-1997 ที่ราคาน้ำมันในสวิสเซอร์แลนด์ มีราคาถูกกว่าประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันเกือบ 10% ส่งผลให้มีการเดินทางข้ามแดนจากประเทศต่าง ๆ เพื่อไปเติมน้ำมันที่ถูกกว่า เพิ่มสูงขึ้นคิดเป็นปริมาณน้ำมันเกือบ 10% ใน 3 ภูมิภาคของสวิสเซอร์แลนด์
ซึ่งจากการคว่ำบาตรต่อรัสเซียส่งผลให้ราคาน้ำมันในหลายประเทศปรับตัวสูงขึ้น และเกิดส่วนต่างมาที่มากขึ้น จนทำให้ปัญหา “นักท่องเที่ยวเชิงน้ำมันเชื้อเพลิง” เริ่มกลับมาเป็นปัญหาอีกครั้ง
ฮังการี ประกาศเติมน้ำมันให้กับรถยนต์ในประเทศเท่านั้น
ฮังการีเป็นหนึ่งในประเทศที่ระบุว่า ไม่สามารถคว่ำบาตรรัสเซียด้วยการระงับการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงจากรัสเซียได้ เนื่องจากกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ในขณะที่สหภาพยุโรปก็เข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และปัจจุบันฮังการีก็ยังคงนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงจากรัสเซียอยู่เป็นปรกติ
ซึ่งนั่นทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศฮังการีมีราคาถูกกว่าประเทศอื่น เช่น ออสเตรีย, สโลวาเกีย ซึ่งที่มีราคาน้ำมันแพงกว่า ราวลิตรละ 0.4-0.5 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยราว 14 – 18 บาทต่อลิตร
ทำให้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงในฮังการีที่อยู่ติดกับพรมแดนออสเตรีย มีชาวออสเตรียพยายามขับรถข้ามพรมแดนเพื่อมาเติมน้ำมันเป็นจำนวนมาก จนทำให้ล่าสุด รัฐบาลฮังการี ต้องออกประกาศกฎระเบียบใหม่ ในการที่จะจำหน่ายน้ำมันให้กับรถยนต์ที่จดทะเบียนในฮังการีเท่านั้น
หลายปั้มของฮังการี ติดป้ายระบุว่า “ไม่สามารถจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับชาวออสเตรียได้ และให้กลับไปเติมที่ประเทศออสเตรียเท่านั้น”
ปั้มน้ำมันระบุ สูญเงินหลายแสน จาก “นักท่องเที่ยวเชิงน้ำมันเชื้อเพลิง”
เว็บไซต์ rtl.hu ระบุว่า ราคาน้ำมันของฮังการี ต่ำกว่าสโลวาเกียราวลิตรละ 0.5 ยูโร หรือราว 18 บาทต่อลิตร ทำให้ชาวสโลวาเกียเดินทางข้ามพรมแดนเข้ามาเพื่อเติมน้ำมันราคาถูกเป็นจำนวนมาก ทำให้ปั้มน้ำมันที่อยู่ในเมือง Balassagyarmat ต้องสูญเงินกว่า 13,000 ยูโร หรือ ราวเกือบ 5 แสนบาทต่อเดือนจากน้ำมันที่ขายให้กับรถยนต์ของชาวสโลวาเกีย
“รถยนต์เกือบครึ่งที่มาเติมน้ำมันในปั้ม เป็นรถยนต์ที่มาจากสโลวาเกีย”
นอกจากนี้ ยังมีทางด้านของชาวโรมาเนียที่อยู่ไม่ไกลจากพรมแดนฮังการี ก็เดินทางมาเติมน้ำมันในประเทศฮังการีด้วย โดยหลังจากที่รัฐบาลฮังการีประกาศระงับการจำหน่ายน้ำมันให้กับรถยนต์ทะเบียนประเทศอื่น ส่งผลให้ชาวโรมาเนียก็ต้องผิดหวังกลับไป หลังจากขับรถมาไกลกว่า 20 กม. เพื่อเติมน้ำมัน
รบ.ฮังการี อุดหนุนราคาน้ำมันทำให้ต้องงดจำหน่ายให้ต่างชาติ
ซึ่งน้ำมันเชื้อเพลิงในฮังการีในขณะนี้ รัฐบาลช่วยอุดหนุนอยู่ราว 0.042 ยูโรต่อลิตร หรือคิดเป็นเงินไทยราว 1.47 บาท/ลิตร ซึ่งนั่นหมายความว่า รัฐบาลฮังการีต้องเสียงเงินอุดหนุนราคาน้ำมันเหล่านี้ไปให้แก่ชาวต่างชาติที่เดินทางข้ามพรมแดนมาเติมน้ำมันเชื้อเพลิง