KEY :
- เกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในรัฐเท็กซัส
- โดยมือปืนผู้ก่อนเหตุ อายุ 18 ปี พร้อมด้วยปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติและปืนพก ลงจากรถกระบะและเดินเข้าไปก่อเหตุในครั้งนี้
- มีผู้เสียชีวิตแล้ว 19 ราย โดยเป็นเด็กนักเรียนจำนวน 18 ราย และครูประจำชั้นประถม 4 อีก 1 ราย
- ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้วิสามัญฆาตกรรมผู้ก่อเหตุ และยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุในครั้งนี้
…
เมื่อช่วงดึกที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย เกิดเหตุมือปืนอายุ 18 ปีก่อเหตุกราดยิงในโโรงเรียนประถมศึกษา Robb Elementary School ในเมือง Uvalde รัฐเท็กซัส ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 15 ราย โดยเป็นเด็กนักเรียนจำนวน 18 ราย และครู 1 ราย
Greg Abbott ผู้ว่าการรัฐ ได้แถลงผ่านสื่อฯ โดยระบุว่า ผู้ก่อเหตุในครั้งนี้คือ นาย Salvodor Ramos อายุ 18 ปี ได้ขับรถมายังโรงเรียนแห่งนี้ ก่อนที่ถือปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ AR-15 และปืนพกเข้าไปยังภายในโรงเรียนและก่อเหตุสลดในครั้งนี้
จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 19 ราย โดยเป็นเด็กนักเรียนที่มีอายุ 7-10 ขวบจำนวน 18 ราย และเป็นคุณครู 1 ราย คือ Eva Mireles เป็นครูประจำชั้นประถมปีที่ 4 โดยมีรายงานว่า เธอถูกยิงในขณะที่กำลังพยายามปกป้องนักเรียนของเธอ
ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 13 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ใหญ่ 1 ราย ซึ่งจะเห็นว่า ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บนั้น เป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 14 ปีเกือบทั้งหมด
ซึ่งในขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีรายงานถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุในครั้งนี้แต่อย่างใด โดยผู้ก่อเหตุได้ถูกเจ้าหน้าที่สังหาร
เหตุการณ์กราดยิงในครั้งนี้ เกิดขึ้นห่างจากเหตุกราดยิงในซูเปอร์มาร์เก็ต ในรัฐนิวยอร์กไม่ถึง 2 สัปดาห์เท่านั้น และถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์กราดยิงในโรงเรียนที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในสหรัฐฯ นับตั้งแต่เหตุในปี 2012 ที่ Sandy Hook Elementary มีผู้เสียชีวิต 26 ราย ส่วนเหตุการณ์กราดยิงในปี 2018 มีผู้เสียชีวิต 17 ราย
ไบเดนแถลงการณ์
หลังจากเกิดเหตุสลดในครั้งนี้ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ถึงเหตุการ์ที่เกิดขึ้นว่า นี่ถือเป็นเหตุการณ์สังหารหมู่อีกครั้งหนึ่งในโรงเรียนประถมในเท็กซัส ที่ทำให้ต้องมีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
โดยในโจ ไบเดน ยังได้กล่าวถึงประเด็นของการควบคุมอาวุธในประเทศนี้ ซึ่งจะต้องเปลี่ยนความเจ็บปวดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นการกระทำที่ชัดเจนในการควบคุมอาวุธปืนในประเทศ
ซึ่งเฉพาะในปีนี้ สหรัฐฯ มีเหตุการณ์กราดยิงแล้วกว่า 200 ครั้ง