มหานครเซี่ยงไฮ้ ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งมีประชากรมากกว่า 24.87 ล้านคน กำลังทุ่มเทสรรพกำลังรับมือการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่พุ่งพรวดอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน
หากติดตามยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายวันบนแผ่นดินใหญ่ของจีนอย่างใกล้ชิด ตัวเลขหนึ่งที่น่าสนใจคือยอด “ผู้ป่วยไม่แสดงอาการ” (asymptomatic) ซึ่งครองสัดส่วนขนาดใหญ่ของการติดเชื้อในท้องถิ่น
สถิติจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) ระบุว่ายอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ติดเชื้อในท้องถิ่นแบบไม่แสดงอาการรายวันพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 7,090 ราย ในวันอังคาร (29 มี.ค.) หลังจากสูงแตะเลขสี่หลักมามากกว่า 10 วัน
นักระบาดวิทยาชั้นนำของจีนอย่าง “จางโป๋หลี่” จากสถาบันบัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์แห่งชาติจีน (CAE) ได้อธิบายสาเหตุของสภาวการณ์ข้างต้น
จางระบุว่าการระบาดของเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน กอปรกับการตรวจคัดกรองอย่างทันท่วงที และอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ระดับสูง ถือเป็นปัจจัยส่งเสริมการติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ
“เชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน แพร่ระบาดง่ายขึ้น แต่กลับเป็นอันตรายถึงชีวิตน้อยลง” จางกล่าว แต่ไม่ได้หมายความว่าประชาชนจะลดการเฝ้าระวังได้ เพราะมันยังคงเป็นอันตรายต่อผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว และประชาชนกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ
เมื่อไม่นานนี้ คณะกรรมการฯ ได้ปรับปรุงระเบียบการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 โดยผู้ป่วยไม่แสดงอาการและมีอาการเล็กน้อยจะเข้ารักษาตัวในสถานกักตัวที่กำหนดแทนโรงพยาบาล
จางกล่าวว่ายาภายใต้สิทธิบัตรจีนถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาเชิงป้องกันในกลุ่มผู้ป่วยไม่แสดงอาการ ขณะการตรวจคัดกรองตั้งแต่แรกอย่างรวดเร็วและการฉีดวัคซีนขนานใหญ่ยังเป็นเหตุของยอดผู้ป่วยไม่แสดงอาการเพิ่มขึ้นด้วย
สถิติล่าสุดจากคณะกรรมการฯ ระบุว่าเกือบร้อยละ 88 ของประชากรทั้งหมดบนแผ่นดินใหญ่ของจีนได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้ว เมื่อนับถึงวันที่ 21 มี.ค. และมากกว่า 659 ล้านคน ได้รับวัคซีนโดสกระตุ้นแล้ว
อย่างไรก็ดี จางกระตุ้นการสอบสวนทางระบาดวิทยาและแกะรอยแหล่งที่มาของการติดเชื้อที่รวดเร็วยิ่งขึ้นเพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสฯ เพราะผู้ป่วยไม่แสดงอาการอาจเป็นต้นตอแพร่เชื้ออย่างง่ายดายโดยไม่รู้ตัว
แม้หลายพื้นที่บนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงเซี่ยงไฮ้ จี๋หลิน และเซินเจิ้น ต่างเผชิญการกลับมาระบาดของโรคโควิด-19 รอบใหม่ แต่ยอดผู้ป่วยอาการรุนแรงหรือวิกฤตกลับสูงไม่ถึงร้อยละ 0.1 ของการติดเชื้อทั้งหมด
การรับมืออย่างฉับไว การตรวจคัดกรองขนานใหญ่ และการฉีดวัคซีนเป็นวงกว้าง รวมถึงนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีน ช่วยปกป้องชีวิตประชาชนและอุตสาหกรรมการผลิตทั่วประเทศตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่าที่ผ่านมา
ปัจจุบันจีนยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมโรคโควิด-19 ดังเช่นการยับยั้งการกลับมาระบาดหลายรอบก่อนหน้านี้ในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งรวมถึงการกลับมาระบาดในเทียนจินและซีอันเมื่อปีก่อน
กำลังการผลิตและการหมุนเวียนสินค้าโภคภัณฑ์อย่างต่อเนื่องของจีน ช่วยสกัดกั้นปัญหาขาดแคลนสินค้า ปัญหาราคาค้าปลีก และภาวะเงินเฟ้อพุ่งขึ้น ซึ่งล้วนเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ทั้งนี้ จีนยังคงให้ความสำคัญกับชีวิตของประชาชนเป็นอันดับแรก และพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อควบคุมยอดผู้ติดเชื้อโดยเร็วที่สุด โดยอ้างอิงประสบการณ์การต่อสู้กับเชื้อไวรัสฯ และวิธีการที่พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง