คัดลอก URL แล้ว
“ไทยสร้างไทย” ค้านการเก็บภาษีคริปโต ที่ไม่เป็นธรรม สร้างภาระให้กับประชาชน

“ไทยสร้างไทย” ค้านการเก็บภาษีคริปโต ที่ไม่เป็นธรรม สร้างภาระให้กับประชาชน

พรรคไทยสร้างไทย โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พร้อมด้วยนายธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ ผอ.ศูนย์ดิจิทัลเพื่อสร้างพลังประชาชน และนายนรุตม์ชัย บุญนาค ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.เขตบางคอแหลม ยานนาวา แถลงจุดยืนคัดค้านการจัดเก็บภาษีที่ได้จากการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ คริปโต พร้อมแสดงจึดยืนสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนของสินทรัพย์ดิจิทัล” หรือ “Digital Asset Hub” ของโลก

คุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่า การเก็บภาษีคริปโต สะท้อนการไม่เข้าใจโอกาสสร้างรายได้เข้าประเทศจาก Digital Asset ที่เป็น New Economy ของรัฐบาล เป็นการปิดกั้นโอกาสในการหารายได้ของคนรุ่นใหม่
 
การที่รัฐมีนโยบายจะเก็บภาษีจากรายได้ของผู้ทำกำไรจาก Digital Asset คงไม่มีใครว่า ถ้าเก็บอย่างเป็นธรรม ไม่เอาเปรียบผู้เสียภาษี ในทางตรงข้ามรัฐควรต้องส่งเสริมให้เกิดการใช้โอกาสในการสร้างรายได้จาก Digital Asset มากกว่า
 
ตามที่มีข่าวออกมาว่ารัฐจะเก็บภาษีคริปโต 2 ขั้นคือ
 
1.เก็บภาษีหัก ณ ที่จ่ายหรือ Withholding Tax 15% ซึ่งผู้ซื้อคริปโตต้องเป็นผู้ทำการหักและนำส่งจากกำไรของผู้ขาย เป็นราย Transaction ซึ่งปฏิบัติได้ยาก ไม่ Practical เพราะเวลาซื้อขายซึ่งมักเกิดจากการทำธุรกรรมผ่านระบบ Exchange และ DeFi ทำเราไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้ซื้อหรือผู้ขายอีกฝั่งคือใคร การออกหนังสือรับรองแก่ผู้ขายจึงแทบเป็นไปไม่ได้ และนักลงทุนที่เป็น Day Trade ซื้อขายหลายรายการต่อวัน หากต้องคำนวนและหักภาษีนำส่งเป็นราย Transaction แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่บุคคลธรรมดาจะทำได้ถูกต้องทุก Transaction ตลอดปีภาษี เพราะไม่มีแผนกบัญชีเหมือนการทำในรูปแบบบริษัทมาคอยช่วยตรวจสอบแบ่งเบาภาระ หากในอนาคตเก็บภาษีจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แบบเดียวกันนี้ เชื่อว่านักลงทุนในตลาดหุ้นส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถปฏิบัติตามได้เช่นกัน
 

  1. เก็บภาษีเงินได้ประจำปีตามอัตราก้าวหน้า (0-35%) ซึ่งก็คิดเฉพาะจาก Transaction ที่กำไรเช่นกัน ดังนั้นถึงแม้ลงทุนรวมแล้วทั้งปีจะขาดทุน แต่หากมี Transaction ใดที่กำไร ก็ต้องเสียภาษีอีก ซึ่งอย่างนี้ผิดหลักการ Capital Gain Tax ที่ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกไม่ทำกันแบบนี้ เพราะการเก็บ Capital Gain Tax จะต้องรวมกำไร ขาดทุนทั้งปี หักลบกลบหนี้แล้วกำไรเท่าไหร่ค่อยเสียภาษี จึงจะเป็นธรรมกับประชาชน ทั้งนี้การที่เสีย Witholding Tax 15% ไปแล้ว ก็ไม่มีสิทธิเลือกเลยว่าจะปล่อยให้หักไปเลยแล้วไม่ต้องยื่นประจำปี แต่กลับให้ต้องมาเสียเพิ่มหรือเคลมคืนเมื่อสิ้นปีเอง เป็นการสร้างภาระซ้ำซ้อนอีก
     
    ซึ่งทันทีที่มีการประกาศการเก็บภาษีแบบนี้ ปริมาณการเทรดใน Exchange ไทยลดลงทันทีถึง 25-45% แสดงให้เห็นว่าหากรัฐดึงดันจะใช้แนวปฏิบัตินี้ต่อไป ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะให้ Exchange ไทยเป็นผู้เก็บภาษีแทนอีกด้วย จะส่งผลให้นักลงทุนย้ายไปใช้ Platform ของต่างประเทศเพื่อที่จะไม่ต้องเสียภาษีแน่นอน ซึ่งจะเกิดความเสียหายกับธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทยที่หลายธุรกิจได้ลงทุนจนได้ใบอนุญาตไปแล้ว และสุดท้ายรัฐก็จะไม่สามารถเก็บได้แม้กระทั่ง VAT หรือภาษีเงินได้นิติบุคคลจากธุรกิจไทย
     


ข่าวที่เกี่ยวข้อง