หากพ่อแม่ผู้ปกครองเห็นโพสต์ขายกาแฟในโลกออนไลน์ที่ระบุว่า “กาแฟซอง 3,000” คงจะตกใจไม่น้อย แต่ขอให้ตั้งข้อสังเกตไว้เลยว่านี่ไม่ใช่กาแฟธรรมดา เพราะนี่คือการขายยาเสพติดรูปแบบใหม่ในโลกออนไลน์
ล่าสุด นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ออกมาเตือนว่ายาดังกล่าวคือ ยาอี / ยาเลิฟ หรือ เอ็คซ์ตาซี มีฤทธิ์หลอนและกระตุ้นประสาท ล่าสุดพบบรรจุในซองกาแฟ3in1, ซองครีมเทียม โพสต์ขายในโซเชียลมีเดียโดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่น
เมื่อเสพไปแล้วจะออกฤทธิ์ภายใน 30-45 นาที จะกระตุ้นระบบประสาทในระยะเวลาสั้นๆ จากนั้นจะหลอนประสาทอย่างรุนแรง ผู้เสพจะรู้สึกร้อน เหงื่อออกมาก หัวใจเต้นเร็ว ความดันเลือดสูง ได้ยินเสียงและมองเห็นผิดไปจากความเป็นจริง นอกจากนั้นยังเคลิบเคลิ้ม สึกตื่นตัวตลอดเวลา ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ฤทธิ์เหล่านี้จะอยู่ในร่างกายได้นานประมาณ 6-8 ชั่วโมง และหากเสพพร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้ช็อกจนเสียชีวิตได้
จึงขอให้ผู้ปกครองสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับบุตรหลาน หากพบ ให้ใช้วิธีพูดคุยดีๆ จากนั้นปรึกษาแพทย์ ป.ป.ส.พบต้นตอโพสต์ขาย “กาแฟซอง 3,000” เร่งดำเนินคดี
ด้าน สำนักงาน ป.ป.ส.ระบุว่าสืบสวนจนทราบตัวเจ้าของบัญชีโพสต์ขายยาเสพติดแล้ว ตอนนี้กำลังขยายผลซึ่งกรณีนี้เป็นความผิดฐาน “โฆษณายาเสพติดให้โทษ” ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยผู้โพสต์จะมีความผิดฐาน “จำหน่าย” ส่วนผู้ซื้อจะมีความผิดฐาน “ครอบครอง” และหากมีการส่งไปยังต่างประเทศก็จะมีความผิดฐาน “ส่งออก”ด้วย นอกจากนี้ ป.ป.ส. กำลังกำลังประสานให้กระทรวง DES ระงับการเผยแพร่โฆษณาซื้อขายที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์