เมื่อวานนี้ ซีเอ็นเอ็นรายงานข่าวอ้างข้อมูลจากผู้นำเข้าถุงมือทางการแพทย์ในสหรัฐว่า มีการนำเข้าถุงมือปลอมและถุงมือไนไตรล์มือสองหลายสิบล้านชิ้นจากประเทศไทย ซึ่งตอนนี้ทางการสหรัฐและไทยกำลังสืบสวนเรื่องนี้อยู่
ส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น เพราะสหรัฐมีความต้องการใช้ถุงมือทางการแพทย์เพิ่มขึ้นในช่วงโควิดระบาด และสหรัฐได้หยุดบังคับใช้กฎระเบียบการนำเข้าอุปกรณ์ป้องกันทางการแพทย์ชั่วคราว
สำหรับถุงมือไนไตรล์ในปัจจุบันยังมีราคาสูง เป็นถุงมือที่แพทย์และบุคลากรด้านสาธารณสุขใช้ระหว่างการวินิจฉัยโรคผู้ป่วย ปัจจุบัน ฐานการผลิตถุงมือชนิดนี้อยู่ในประเทศในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งต้องใช้วัตถุดิบสำคัญคือยางธรรมชาติ และโรงงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมปีนี้ มีบริษัทอเมริกันสองรายได้แจ้งต่อสำนักงานศุลกากรและป้องกันพรมแดนสหรัฐ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐว่า บริษัทได้รับถุงมือด้อยคุณภาพจากบริษัทรายหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งหลังจากนั้น บริษัทดังกล่าวก็ยังส่งออกถุงมืออีกหลายสิบล้านชิ้นไปยังสหรัฐ โดยครั้งล่าสุด ไปถึงสหรัฐเมื่อเดือนกรกฎาคม
เมื่อปลายปีที่แล้ว “นายทาเร็ค เคิร์สเชน” นักธุรกิจอเมริกันในไมอามี บอกว่า เขาได้สั่งถุงมือยาง 2 ล้านชิ้นจากบริษัทไทยชื่อ “แพดดี้ เดอะ รูม” เพื่อเอาไปต่อให้ผู้ค้าปลีก ซึ่งลูกค้าได้โทรมาโวยวายว่าถูกหลอก และเมื่อเขาไปเช็กก็พบว่า เป็นถุงมือใช้แล้ว ที่มีการล้างและเอามารีไซเคิล ถุงมือบางส่วนสกปรก บางส่วนมีคราบเลือดติดอยู่ และเขาก็ต้องจ่ายเงินคืนให้ลูกค้า และทำลายถุงมือ พร้อมแจ้ง FDA สหรัฐเมื่อต้นปีนี้
นอกจากนี้ “บริษัทแอร์ควีน” ก็ตกเป็นเหยื่อของ “แพดดี้ เดอะ รูม” เหมือนกัน และสูญเสียเงินไปประมาณ 2 ล้าน 7 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 90 ล้านบาท ส่วนบริษัทอเมริกันอีกรายคือ “ยูเอส ลิเบอร์ตี้ แอลแอลซี” ก็มีประสบการณ์คล้ายกัน แต่เป็นการสั่งซื้อจากบริษัทในเวียดนาม ที่ส่งถุงมือมีรูขาด มีรอยเปื้อน มาให้เหมือนกัน
“นายดักลาส สไตน์” ผู้เชี่ยวชาญที่ซื้อชุดป้องกันทางการแพทย์จากเอเชียมาหลายทศวรรษ บอกกับซีเอ็นเอ็นว่า ได้ติดตามเรื่องการหลอกหลวงนับครั้งไม่ถ้วนทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งแต่โควิดระบาด และตอนนี้ ถุงมือไนไตรล์คือสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีอันตรายที่สุดของโลก
ซีเอ็นเอ็นรายงานด้วยว่า ทางการไทยได้บุกยึดโกดังรีไซเคิลถุงมือยางของบริษัทแพดดี้ เดอะ รูม เมื่อเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว ซึ่งหลังจากนั้น บริษัทก็ได้ย้ายไปรีไซเคิลถุงมือที่โกดังอื่นอีก เพราะยังมีความต้องการถุงมือสูง
