กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต. สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล, พ.ต.ท.ปิยะพล แป้นแก้ว, พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิญโย, พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์ รอง ผกก.6 บก.ป. สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ สว.กก.6 บก.ป., ร.ต.อ.พร้อมวุฒิ พร้อมพูล, ร.ต.อ.ไตรรงค์ หน่วยตุ้ย รอง สว.กก.6 บก.ป., ร.ต.อ.วุฒิพงศ์ ทองมาก รอง สว.(สอบสวน) กก.6 บก.ป พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นางสาวณฐพร (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ที่ 417/2563 ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน” ได้ที่ ซ.บางศาลาสามัคคี 1 ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณต้นปี 2562 นางสาวณฐพรฯ ได้ชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนกับแชร์แม่มณี ซึ่งอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนในการฝากเงิน จูงใจผู้คนด้วยการให้ดอกเบี้ยสูงกว่า 93 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังมีระยะเวลาในการฝากเพียง ๑ เดือน โดยคำโฆษณานั้นระบุรายละเอียดว่า ฝาก 1,000 บาท รับคืน 1,930 บาท โดยรับคืนทั้งต้นทั้งดอกเบี้ย บวกกับการโฆษณาชวนเชื่อ “โอนจริง โอนไว 100 % เครดิตแน่นๆ ดอกเบี้ยงาม” จึงทำให้้มีผู้ร่วมลงทุนจำนวนมาก
ต่อมาเมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2562 ผู้เสียหายที่ร่วมลงทุนแชร์ดังกล่าว ไม่ได้รับเงินปันผลคืนตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนางสาวณฐพรฯ จำนวนหลายร้อยราย โดยความเสียหายในส่วนของเหยื่อที่ถูกนางสาวณฐพรฯ หลอกลวง มีมูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้ โดยทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ ซ.บางศาลาสามัคคี ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยพบผู้ต้องหายืนอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุม และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ย่านตาขาว เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับว่าได้กระทำการฉ้อโกงจริง นอกจากนี้ยังพบว่านางสาวณฐพรฯ มีหมายจับติดตัวอื่นๆ อีกดังนี้
- หมายจับศาลอาญา ที่ 509/2563 ลงวันที่ 13 เมษายน 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
- หมายจับของศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ 167/2564 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ซี่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง และ โดยทุจริต หลอกหลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือนำข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
- หมายจับของศาลแขวงภูเก็ต ที่ 43 /2563 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 ซี่งต้องหาว่ากรทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์”
- หมายจับศาลอาญามีนบุรี คดีหมายเลขดำที่ อ 1466/2563 ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2563 ซี่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550