คัดลอก URL แล้ว
จับตา! ครม.เคาะลดจ่ายเงินสมทบประกันสังคมต่ออีก 3 เดือน

จับตา! ครม.เคาะลดจ่ายเงินสมทบประกันสังคมต่ออีก 3 เดือน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เต็มคณะเป็นสัปดาห์​ที่สองหลังมีการผ่อนคลาย​มาตรการ​การป้องกัน​การแพร่ระบาด​เชื้อโควิด-19

สำหรับวาระการประชุม​ที่น่าสนใจ ทางคณะกรรมการประกันสังคม จะมีการขอที่ประชุมอนุมัติ​ให้ความเห็นชอบ ลดจ่ายเงินสมทบ ผู้ประกันตนม.33 และม.39 ปี 2564 ต่ออีก 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.ย.-พ.ย. 64 โดยกำหนดลดอัตราเงินสมทบฝ่ายนายจ้าง ในอัตรา 2.5% และลูกจ้างผู้ประกันตน มาตรา 33 ในอัตรา 2.5% จากเดิมที่ต้องจ่าย 5 % ซึ่งหากที่ประชุม ครม.เห็นชอบ ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมอัตรา 750 บาท ต่อเดือน จะเหลือจ่ายเพียง 375 บาท ต่อเดือนเท่านั้น ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 39 จัดเก็บในอัตราเดือนละ 235 บาท ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการจ้างงาน จากการได้รับผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด19 และบรรเทาภาระของลูกจ้างผู้ประกันตนในสถานการณ์ปัจจุบัน

ขณะที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​การต่างประเทศ เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งฮังการีประจำประเทศไทย (ชานโดร์ ชีโปช) ด้านนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและพลังงาน เตรีนมเสนองบประมาณและแผนการดำเนินงานประจาปี 2565 ขององค์กรร่วมไทย – มาเลเซีย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตีและ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​สาธารณสุข เสนอร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพ ติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา พ.ศ… และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​คมนาคม เสนอร่าง พ.ร.ฎ.กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการให้ได้ที่ดินเพิ่มเติมและการจ่ายเงินค่าทดแทนเพื่อ ชดเชยให้แก่ผู้ถูกเวนคืน

ทั้งนี้ ในส่วนของวาระเพื่อพิจารณาในวันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะขอขยายเวลาประกาศพื้นที่ปรากฎเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่ออีก 3 เดือน

ขณะที่​สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย ทั้งนี้ เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศในระยะยาว ประกอบด้วย กลุ่มประชากรโลกที่มีความมั่งคั่งสูง (Wealthy global citizen) ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ (Wealthy pensioner) (กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย (Work-from-Thailand professional) และ กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ (High-skilled professional)


ข่าวที่เกี่ยวข้อง