วันที่ 23 ธันวาคม 2567 พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงข่าวส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมพยานหลักฐาน กรณีกล่าวหาบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด (คดีพิเศษที่ 119/2567) กับพวก ไปยังพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ โดยเปิดเผยว่า คณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอใช้เวลาสอบสวน 54 วัน ได้มีมติลงความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 19 ราย เป็นบุคคลธรรดา 18 คน นิติบุคคล 1 ราย (บ.ดิไอคอน กรุ๊ป)
สืบเนื่องจากได้รับสำนวนการสอบสวนจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้สอบสวนไว้เบื้องต้นในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
หลังจากได้รับสำนวน ดีเอสไอได้แต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆมาเป็นที่ปรึกษาในคดีพิเศษ ตามมาตรา 30 ของกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายการสอบสวน ด้านการบัญชี ด้านเทคโนโลยี รวมทั้งนายกรัฐมนตรีได้ตั้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐอื่น มาร่วมสอบสวน ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง., สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, กรมสรรพากร ที่มาร่วมสอบสวนด้วย
ซึ่งเห็นควรสั่งฟ้อง ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา / ความผิด ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน / ความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง / รวมถึง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในส่วนความผิดอาญาฐานฟอกเงิน และความผิดเกี่ยวกับเรื่องภาษีและบัญชี ได้มีการแยกไว้สอบสวนอีกส่วนหนึ่ง
โดยพยานหลักฐานที่รวบรวมไว้ และจะส่งสำนวนให้พนักงานอัยการวันนี้มีเอกสารราว 350,000 แผ่น รวม 900 แฟ้ม จะลำเลียงสำนวนโดยใช้รถตู้ 6 คัน ส่งมอบยังอัยการคดีพิเศษ ช่วง 14.00 น.
ซึ่งคดีนี้ เบื้องต้นได้ยึดอายัดทรัพย์สินไว้ 747 ล้านบาท ที่เป็น อสังหาริมทรัพย์ และรถยนต์หรู หลังจากนี้จะส่งให้พนักงานอัยการทำคำร้องยึดทรัพย์ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ก่อนเฉลี่ยทรัพย์คืนให้เสียหายตามขั้นตอน
ในส่วนสำนวนการฟอกเงินดีเอสไอยังคงสอบสวนอยู่ รวมถึงจะมีการสืบทรัพย์สินเพิ่มเติม ซึ่งหากมีความคืบหน้าจะเรียนให้ทราบอีกครั้ง เพื่อพิจารณาดำเนินการยึดทรัพย์ต่อไป // ส่วนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหากลุ่มแม่ข่ายเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะนี้ อยู่ระหว่างการวิเคราะห์คำให้การว่าจะมีการกล่าวหาใครเพิ่มเติมบ้าง แต่เชื่อว่าน่าจะมีเพิ่มอีกหลังปีใหม่ ตอนนี้จึงยังไม่สามารถตอบได้