สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในเวียดนามยังคงรุนแรง ล่าสุดทางการสั่งล็อกดาวน์พื้นที่เมืองหลวงต่อ 2 สัปดาห์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
ทางการเวียดนาม สั่งขยายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในกรุงฮานอย ต่อไปอีก 2 สัปดาห์ โดยคำสั่งล็อกดาวน์นั้น คือ การให้ประชาชนต้องอยู่แต่ภายในบ้าน และ ห้ามทำกิจกรรมนอกบ้านที่ไม่จำเป็นทั้งหมด พร้อมแบ่งเขตพื้นที่ ที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุด เป็นสีแดง รองลงมาคือสีส้ม และตามด้วย สีเขียว
ทั้งนี้ ผู้ที่อยู่ในเขตสีแดง จะต้องอยู่แต่ในที่พัก และ สมาชิกครอบครัว 1 คน ต้องตรวจหาเชื้อโควิด 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ขณะที่พื้นที่สีอื่นๆ สมาชิกครอบครัว 1 คนต้องตรวจหาโควิด 1 ครั้ง ทุก 5-7 วัน
ทางการกรุงฮานอย ยังตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 50 รายต่อวัน ทำให้ยอดสะสมของผู้ติดเชื้อไปอยู่ที่กว่า 4,000 ราย อย่างไรก็ตาม แม้ยอดผู้ติดเชื้อจะยังไม่สูงมาก แต่ทางการได้ตั้งเป้า จะตรวจหาเชื้อในประชาชนให้ได้ 1.5 ล้านคน ในสัปดาห์หน้า เพื่อไม่ให้ฮานอย มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงเหมือนที่เกิดขึ้นในโฮจิมินห์ ซิตี้
อีกด้านหนึ่ง สำนักข่าว เวียดนาม นิวส์ อะเจนซี หรือ VNA สื่อของทางการเวียดนามรายงานด้วยว่า ชายวัย 28 ปีคนหนึ่ง ถูกศาลจังหวัดก่าเมา ทางตอนใต้สุดของประเทศ สั่งจำคุกเป็นเวลา 5 ปี ข้อหากระทำการแพร่เชื้อโรคติดต่อที่เป็นอันตราย ทั้งนี้ สาเหตุมาจากการที่เขาละเมิดมาตรการกักตัว 21 วัน ตามคำสั่งของทางการ หลังจากเดินทางจากโฮจิมิน ซิตี้ กลับจังหวัดก่าเมา โดยไม่ยอมกักตัว และ ได้แพร่เชื้อโควิดไปยังประชาชนอีก 8 คน โดยหนึ่งในนั้น เสียชีวิตหลังจากรับการรักษาตัวหนึ่งเดือนด้วย
สำหรับสถานการณ์ภาพรวมมทั้งประเทศนั้น เวียดนาม ยังพบผู้ติดเชื้อโดยรวมวันละเกินหลักหมื่นคนอย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13,137 ราย และ เสียชีวิตอีก 281 ราย ทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อทั้งประเทศอยู่ที่กว่า 536,000 ราย และ เสียชีวิตรวม 13,385 ราย
