สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ เผยว่า กลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเพื่อเข้าถึงวัคซีนโควิดมากยิ่งขึ้น เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตจากโควิดสายพันธุ์เดลตา
ด้าน อเล็กซานเดอร์ มาเธอู ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ เผยว่า กลุ่มประเทศในภูมิภาคนี้รอดพ้นจากการแพร่ระบาดที่เลวร้ายที่สุดของโควิดเมื่อปีที่แล้ว
แต่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิดพุ่งสูงขึ้นจนมากที่สุดในโลก เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ระบบสาธารณสุขเปราะบาง รวมถึงปัญหาการฉีดวัคซีนที่ล่าช้าโดยเฉพาะประเทศไทย และเวียดนามที่มักมีรายงานผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตจากโควิดเป็นสถิติใหม่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ อย่าง แคนาดา สเปน และอังกฤษ มีผู้ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วมากกว่า 60% และสหรัฐฯ มากกว่า 50% แต่ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อัตราการฉีดวัคซีนตามหลังประเทศเหล่านี้อยู่อีกไกล
ตรงกันข้าม ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในภูมิภาคอย่างอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ กลับมีผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วเพียง 10 – 11% ของประชากรทั้งหมด ส่วนเวียดนามฉีดวัคซีนไปไม่ถึง 2%
นอกจากนี้ นายมาเธอู ยังระบุว่า ในช่วงเวลาระยะสั้น มีความจำเป็นต้องใช้ความพยายามมากขึ้นกว่าเดิมของบรรดาประเทศร่ำรวยในการช่วยแบ่งปันวัคซีนที่มีเกินกว่าความต้องการหลายล้านโดสให้กับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นเดียวกับบริษัทวัคซีนและรัฐบาลต่าง ๆ จำเป็นต้องแบ่งปันเทคโนโลยีและเพิ่มกำลังการผลิต
และในอีกไม่กี่สัปดาห์ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญต่อการรักษา การตรวจหาเชื้อ และการฉีดวัคซีนในทุกประเทศของภูมิภาคนี้ และต้องตั้งเป้าการฉีดวัคซีนให้ได้ 70 – 80% ด้วย