นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอริสันของออสเตรเลีย แถลงวานนี้ว่า วัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรกได้เดินทางออกจากกรุงวอร์ซอของโปแลนด์โดยเครื่องบินของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และถึงออสเตรเลีย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ออสเตรเลียสั่งซื้อวัคซีนดังกล่าว หลังจากการเจรจราต่อรองอยู่หลายสัปดาห์กับทางการโปแลนด์ แต่นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ไม่ได้เปิดเผยว่าซื้อวัคซีนมาในราคาเท่าไร
สำหรับการสั่งซื้อวัคซีนนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากออสเตรเลีย กำลังเผชิญกับการระบาดอย่างหนักในหลายเมืองใหญ่ของประเทศ เช่น ในนครซิดนีย์ เมือที่งมีประชากรมากที่สุด ที่ต้องอยู่ภายใต้การล็อกดาวน์เข้มงวดมาตั้งแต่ ปลายเดือน มิ.ย.แล้ว
ทั้งนี้ วัคซีนไฟเซอร์ที่สั่งซื้อไปใหม่นั้น ราว 530,000 โดส จะนำไปฉีดให้ประชาชนที่มีอายุระหว่าง 20-39 ปี ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดรุนแรงทั้งในใจกลางและโดยรอบนครซิดนีย์ เนื่องจากคนช่วงอายุดังกล่าว เป็นกลุ่มที่จะสามารถแพร่เชื้อได้ง่ายที่สุด ส่วนวัคซีนที่เหลือนั้น จะนำไปฉีดยังรัฐอื่นๆ ของออสเตรเลียต่อไป
ที่ผ่านมาออสเตรเลีย ถือเป็นหนึ่งในประเทศร่ำรวยที่ฉีดวัคซีนได้ล่าช้าที่สุด โดยประชากรที่มีอายุ 16 ขึ้นไป ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วเพียง 25% ของจำนวนประชากรทั้งหมดเท่านั้น
ขณะที่ล่าสุด รัฐนิวเซ้าท์เวลส์ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 415 ราย โดย 35 ราย เป็นการติดเชื้อภายในชุมชน