ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้มีการเผยแพร่ภาพ สามเณร โพสต์ท่าถ่ายภาพเซลฟี่ในร้านกาแฟ พร้อมขึ้นแคปชั่นภาพว่า “If you want to date me then buy me a coffee, make me coffee and be coffee! พร้อมคำแปลประโยคดังกล่าวระบุว่า อยากเดทกับฉันใช่ไหม งั้นซื้อกาแฟให้ฉัน,ชงกาแฟให้ฉัน และเป็นกาแฟให้ฉันสิ” ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตที่แสดงความคิดเห็นต่อว่าและแชร์โพสต์ดังกล่าวออกมาเป็นจำนวนมาก พร้อมข้อความระบุว่า “เอาอะไรมาต้าน ขอนแก่น วัด…… ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น สามเณรรูปนี้ไม่เคยเกรงกลัวสื่อ เพราะเป็นข่าวหลายรอบมากแต่ก่อนยืน1ในเพจหลวงพี่จัสตินวัดดูยูมีน แล้วก็เพจเจริญพวง เป็นข่าวดัง แต่ยังเป็นแบบนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลงวงการผ้าเหลืองอ่าเนาะ”
ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่วัดดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยได้พบกับ พระมหาสุขี คัมภีระธรรมโม รักษาการเจ้าอาวาสฯ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวนั้นเพิ่งทราบจากทางสื่อต่างๆ ซึ่งกรณีดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นโลกวัชชะ คือสิ่งที่ชาวโลกติเตียน ไม่ถึงขั้นผิดวินัยร้ายแรงจนต้องอาบัติปาราชิก โดยสามเณรรูปดังกล่าวนั้นอายุ 18 ปี บวชจากวัดแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ และมาศึกษาเล่าเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง วิทยาเขตขอนแก่น โดยพระชั้นผู้ใหญ่ได้ให้เณรในภาพ พร้อมสามเณรรูปอื่นที่บวชเรียนด้วยกันมาจำวัดที่วัดแห่งนี้และเรียนออนไลน์กันตั้งแต่ช่วงเดือน มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา
ซึ่งหลังจากที่เกิดเป็นเรื่องราวขึ้นก็จะรายงานให้กับทางพระชั้นผู้ใหญ่ให้ทราบตามขั้นตอน และจะมีการพูดคุยภายในวัดของคณะสงฆ์ เพื่อ ทำการตักเตือนสามเณรรูปดังกล่าวให้ปรับปรุงตัว ให้ระมัดระวังการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย โดยการกระทำดังกล่าวเป็นโลกวัชชะ หรืออาบัติเบา ที่ต้องติเตียนกันให้แก้ไขยังโทษไม่หนัก ไม่ถึงขั้นอาบัติปาราชิกที่จะต้องให้ลาสิกขาไป
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับสามเณรเพื่อนที่เรียนด้วยกันกับเณรในภาพ โดยสามเณรรูปดังกล่าว ระบุว่า ที่ผ่านมานั้นก็พอจะเห็นเณรรูปนี้โพสต์ภาพตามที่ปรากฎผ่านสื่อฯแบบนั้นในเฟซบุ๊กบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งไม่เหมาะสมกับสมณเพศ โดยการแก้ปัญหานั้นก็ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของแต่ละคน ที่ผ่านมาเพื่อนสามเณรและพระผู้ใหญ่ ได้ตักเตือนมาแล้วหลายครั้ง
เณรในภาพนั้นปกติก็ช่วยงานวัด ความประพฤติดีมาตลอด ตั้งใจเรียน แต่เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องส่วนตัวและมีหลายคนที่ตักเตือนไปซึ่งก็ย้อนมาจุดเดิม คือขึ้นอยู่กับสามัญสำนึกของแต่ละคนที่จะปฏิบัติตัวให้เข้ากับสมณเพศ