หนังสือพิมพ์ Dawn ของปากีสถาน อ้างข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ในประเทศที่ระบุว่า ตัวกลายพันธุ์เอปซิลอน พบครั้งแรกที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปีที่แล้ว และพบผู้ติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 34 ประเทศทั่วโลก เชื่อว่า มีความสามารถในการต่อต้านวัคซีนสูง อาจทำให้ประชาชนที่ฉีดวัคซีนแล้วอาจจะกลับมาติดเชื้อได้อีก
ผู้เชี่ยวชาญ พบว่า โควิด-19 สายพันธุ์เอปซิลอนที่พบในเมืองลาฮอร์ แพร่กระจายได้ง่ายพอๆ กับสายพันธุ์ เดลตา ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักที่กำลังระบาดในปากีสถานอยู่ตอนนี้ ซาราห์ อัสลาม เลขาธิการสำนักงานสุขภาพขั้นปฐมภูมิและทุติยภูมิแห่งแคว้นปัญจาบ แถลงว่า ได้เก็บตัวอย่างจากเคสต้องสงสัย 23 คนในเมืองลาฮอร์ และพบว่า 5 เคส เกิดจากเชื้อสายพันธุ์เอปซิลอน
ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ได้จัดให้ 2 สายพันธุ์ย่อยของเอปซิลอน ได้แก่ B.1.247 และ B.1.429 เป็นตัวกลายพันธุ์ที่น่ากังวล หลังจากพบว่าจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างมากในแคลิฟอร์เนีย
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 64 องค์การอนามัยโลก (WHO) ขึ้นบัญชีโควิด-19 สายพันธุ์เอปซิลอนเป็นตัวกลายพันธุ์ที่น่าสนใจ (variant of interest) ก่อนจะประกาศเมื่อวันที่ 6 ก.ค.64 ให้มีการเฝ้าระวังจับตาอย่างใกล้ชิด
ส่วนสถานการณ์ภาพรวมของปากีสถาน
- ทางการประกาศล็อกดาวน์แคว้นสินธ์ (Sindh) ซึ่งรวมถึงเมืองใหญ่อย่างการาจี ตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. 64 ไปจนถึงวันที่ 8 ส.ค. 64 เนื่องจาก จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น แม้จะมีเสียงคัดค้านจากรัฐบาลกลางและภาคธุรกิจก็ตาม
- รัฐบาลท้องถิ่นแคว้นสินธ์ สั่งปิดตลาดทุกแห่ง ยกเว้นเฉพาะร้านค้าที่จำเป็น เช่น ร้านขายยา ร้านขายขนมปัง และร้านขายสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งจะต้องปิดให้บริการในเวลา 18.00 น.
- ห้ามการเดินทางระหว่างเมือง
- อนุญาตให้รถยนต์ส่วนตัวและแท็กซี่มีผู้โดยสารได้ไม่เกิน 2 คน
- เลื่อนการสอบของโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทุกแห่ง