ประธานาธิบดีตูนีเซีย เข้าสู่ภาวะวุ่นวายทางการเมืองอีกครั้งหลังจากที่ ประธานาธิบดี คาอิส ไซอีด สั่งปลดนายกรัฐมนตรี ฮิเชม เมชิชี และรัฐบาล พร้อมสั่งระงับกิจกรรมและการประชุมของรัฐสภา นอกจากนี้ ยังสั่งปิดสนามบินและพรมแดนทั้งหมดของประเทศด้วย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเมชิชี ถูกปลดจากตำแหน่ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามคำสั่งของประธานาธิบดี หลังปล่อยให้เกิดการประท้วงรุนแรงไปทั่วประเทศ เนื่องจากประชาชนไม่พอใจการรับมือและแก้ปัญหาการระบาดของโควิด-19 รวมทั้ง วิกฤตเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างมาเป็นเวลายาวนาน
ทั้งนี้ ทันทีที่มีประกาศออกมา บรรดาผู้ที่สนับสนุนประธานาธิบดีไซอีด ได้ออกมาเฉลิมฉลองตามท้องถนนในยามค่ำคืน หลังจากเขาประกาศรวบอำนาจการบริหารงานไว้ก่อน และให้คำมั่นว่าจะเร่งหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ นอกจากนี้ เขายังมีคำสั่งยกเลิกการให้เอกสิทธิ์และการคุ้มครองสมาชิกสภาทุกคน โดยอาศัยมาตราพิเศษแห่งรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจในการบริหาร และยุติกิจกรรมของรัฐสภาไว้ได้จนกว่าหน่วยงานสถาบันต่างๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ขณะที่ นักการเมืองฝ่ายตรงข้ามนายไซอีด แสดงความไม่เห็นด้วย และเห็นว่าการกระทำของประธานาธิบดี เท่ากับเป็นการก่อรัฐประหาร โดยนายราเชด กันนูชี ประธานสภา ได้กล่าวปลุกระดมให้มวลชนออกมาประท้วงตามท้องถนน เพื่อต่อต้านการกระทำที่เขาเรียกว่าเป็นการก่อรัฐประหาร จนนำไปสู่การเผชิญหน้ากันระหว่างผู้สนับสนุนของทั้ง 2 ฝ่าย ที่มีเหตุปะทะและขว้างปาก้อนหินใส่กันบริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา ซึ่งขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงคุ้มกันพื้นที่อย่างแน่นหนา
รอยเตอร์รายงานด้วยว่า การเคลื่อนไหวของนายไซอีดที่สั่งล้มรัฐบาลที่เปราะบางอยู่แล้วนั้น ไม่แน่ชัดว่าได้รับการสนับสนุนเพียงใดขณะที่นายไซอีด ได้แถลงผ่านโทรทัศน์ด้วยว่า ใครก็ตามที่ใช้อาวุธ ใครก็ตามที่ยิงกระสุน จะถูกกองกำลังของรัฐตอบโต้ด้วยกระสุนเช่นกัน