คัดลอก URL แล้ว
7 เรื่องเกี่ยวกับ อาร์บอนนีย์ เกเบรียล นางงามจักรวาล ผู้รักษ์โลก มีมุมมองแบบสากล ไม่ตัดสินใคร

7 เรื่องเกี่ยวกับ อาร์บอนนีย์ เกเบรียล นางงามจักรวาล ผู้รักษ์โลก มีมุมมองแบบสากล ไม่ตัดสินใคร

เปิดใจนางงามจักรวาล “มิสยูนิเวิร์ส 2023 (Miss Universe 2023)” คนล่าสุด “อาร์บอนนีย์ เกเบรียล (R’Bonney Gabriel)” สาวสวยชาวอเมริกันเชื้อสายฟิลิปปินส์ จากประเทศสหรัฐอเมริกา เล่าเรื่องราวชีวิตพลิกฝัน จากสายงานอาชีพนางแบบและแฟชั่นดีไซน์เนอร์ สู่นางงามจักรวาลสายการกุศล และการมาประเทศไทยในครั้งนี้ เธอยังเผยมุมมองแบบสากลที่การออกแบบแฟชั่นต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย

1.ไม่เคยฝันอยากเป็น Miss Universe

ที่มาของชื่อเธอ R’Bonney เธอเผยว่า “พ่อชื่อ R.Bon (Remigio Bonzon) ฉันเลยเป็น R’Bonney เธอเป็นเหมือนพ่อของเธอในเวอร์ชั่นผู้หญิง”

และการได้ครองตำแหน่ง Miss Universe นั้น เธอไม่เคยฝันมาก่อน เธอเล่าว่า ตอนนั้นทำงานเป็นนางแบบอยู่ที่เท็กซัส ถ่ายแบบโฆษณาผมและช่างทำผมอยู่ในวงการนางงาม เธอแนะนำให้ฉันสมัคร ฉันไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าไม่เหมาะ แต่หลังจากนั้นปีนึงเธอก็โน้มน้าวฉันสำเร็จและช่างทำผมก็มาเป็นครูฝึกให้ฉันด้วย และก็ได้ตำแหน่งมาจริงๆ

2.ชีวิตเปลี่ยนไปเลยหลังจากได้เป็น Miss Universe

ก่อนหน้าได้รับตำแหน่งนางงามจักรวาล อาร์บอนนีย์ เกเบรียล เธอทำงานให้บริษัทออกแบบที่ไม่เอาผลกำไร ที่บ้านเกิเมืองฮิวตัน ทำอยู่ 2 ปี และก็ทำงานสอนไปด้วย ซึ่งเธอสอนคลาสให้ผู้หญิงที่ประสบปัญหาความรุนแรงจากครอบครัวและการค้ามนุษย์ ซึ่งเธอเผยว่า พอได้ครองตำแหน่งก็สามารถทำอะไรเหล่านี้ในระดับโลกได้ เป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ ถึงแม้ชีวิตจะยุ่งขึ้น กดดัน ท้าทาย แต่ก็มีโอกาสดีๆ เข้ามาหาเธอเยอะขึ้น

3.ข้อดีของการมีครอบครัวต่างวัฒนธรรม

แม่ของ อาร์บอนนีย์ เป็นคนเท็กซัส ส่วนพ่อมาจากมะนิลา เธอเผยว่า ข้อดีคือ ทำให้เธอมีมุมมองแบบสากล เป็นคนไม่ตัดสินใคร เพราะครอบครัวมี ประเพณี อาหาร วัฒนธรรม ทุกอย่างต่างกัน และพ่อแม่ของเธอนั้นเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยวมากๆ ทำให้เธอเองได้เห็นอะไรเยอะแยะในช่วงที่กำลังเติบโต เธอตื่นเต้นกับชีวิตตัวเอง อยากรู้เกี่ยวกับผู้คนและเปิดรับทุกคน ทำให้เธอเป็นคนที่มีใจเปิดกว้าง

4.จากอยากเป็นครู อยากเป็นดีไซเนอร์ และการเป็นนางงามทำให้เธอได้ทำทุกอย่าง

ความฝันจริงๆ ของเธอคือ อยากเป็นครู ซึ่งสุดท้ายเธอก็ได้เป็นครูจริงๆ แต่จุดเริ่มต้นอยากเป็นดีไซเนอร์คือตอนอายุ 15 ปี เริ่มเย็บปักถักร้อย คิดมาตลอดตั้งแต่ตอนนั้นว่าอยากเป็นดีไซเนอร์ แต่ก็อยากให้กลับคืนเป็นการกุศลด้วย จนตอนนี้เธอมีแพลตฟอร์มที่สามารถแชร์ความชอบเรื่องการดีไซน์ แถมได้ร่วมงานกับหลายองค์กรผ่านทาง Miss Universe และได้ช่วยเหลือคนด้วย

5.ทำไมถึงเลือก ออกแบบแฟชั่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ได้รู้ตอนเรียนมหาลัยว่าอุตสาหกรรมแฟชั่น สร้างมลพิษเป็นอันดับสองของโลก มีเสื้อผ้าประมาณ 92 ล้านชิ้น ที่ถูกทิ้งอย่างเปล่าประโยชน์ทุกปี ฉันในฐานะดีไซเนอร์รุ่นใหม่ เลยรู้สึกว่ามันคือหน้าที่ที่ต้องต่อสู้กับปัญหานี้ เพราะฉันรักธรรมชาติ ฉันชอบออกไปข้างนอก อยากปกป้องโลกที่สวยงามของเรา นี่จึงเป็นเป้าหมายของฉัน

6.ผลงานจากวัสดุรีไซเคิลสู่สายตาชาวโลก

ชุดจากขวดพลาสติกที่ใส่บนเวที Miss Universe ฉันเอาขวดมาตัด แล้วเอาไปละลายก็จะทำเป็นรูปทรงใหม่ได้ นี่คือวิธีนำพลาสติกมาทำเป็นชุดของฉัน แต่ปกที่ทำบ่อยๆ คือจะนำเสื้อผ้าที่ใส่ไม่ได้แล้ว หรือที่มีรู จะนำมาตัดแล้วเย็บให้เป็นแบบใหม่ และฉันทำคลิปสิ่งที่ตัวเองดีไซน์ตลอดเพื่อโชว์วิธีทำ จะได้เพิ่มความน่าสนใจและความตระหนักรู้

ทั้งนี้เธอยังได้ไปมหาวิทยาลัยศิลปากรพูดคุยกับนักเรียนดีไซเนอร์ ที่เรียนด้านแฟชั่นและความยั่งยืนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และได้ไปสอนเพิ่มเติม เธอชื่นชมว่านักเรียนที่ศิลปากรทำได้ดีมาก แต่ก็ขึ้นอยู่กับคนรุ่นใหม่ที่จะเปลี่ยนอนาคต และเธอยังบอกอีกว่า มันคือฝันที่เป็นจริงที่เธอได้เจอกับดีไซนเนอร์จากทั่วโลก เธอชอบมาก

7.วงการแฟชั่นการแข่งขันสูง นี่แหละคือความสนุก!

วงการแฟชั่นการแข่งขันสูงมากค่ะ คนเก่งๆ เยอะมาก และเรามักจะสนใจแค่ดีไซน์เนอร์คนเดียว ในขณะที่ดีไซน์เนอร์คนใหม่ก็กำลังเกิดเหมือนกัน ในฐานะศิลปินและครีเอทีฟ เราต้องคอยสร้างสรรค์ผลงานอยู่ตลอด นี่แหละคือความสนุก ฉันมีไอเดียอยู่ตลอด มีอะไรให้ทำอยู่ตลอด

ติดตามเรื่องราวทั้งหมดของ อาร์บอนนีย์ ได้ในรายการ “เดอะ เลดี้ ผู้หญิงแถวหน้า” (The Ladies) วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคมนี้ เวลา 17.30 น. ทางช่อง MONO29


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง