คัดลอก URL แล้ว
จาซินดา อาร์เดิร์น นายกฯ นิวซีแลนด์ ประกาศลาออก เพราะรู้ตัวเองว่าเวลานี้ไม่เหมาะสมเป็นผู้นำ

จาซินดา อาร์เดิร์น นายกฯ นิวซีแลนด์ ประกาศลาออก เพราะรู้ตัวเองว่าเวลานี้ไม่เหมาะสมเป็นผู้นำ

หากดิฉันดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อ จะเป็นการทำร้ายประเทศนิวซีแลนด์ ดิฉันลาออกเพราะบทบาทอันทรงเกียรตินี้ มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ต้องรู้ว่าเวลาใดคุณเหมาะเป็นผู้นำและเวลาใดที่คุณไม่ใช่

วันนี้ (19 ม.ค.) จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีหญิงของประเทศนิวซีแลนด์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ซึ่งเตรียมลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีภายในต้นเดือน ก.พ. นี้ และเธอยังบอกอีกว่าจะไม่ลงสมัครเลือกตั้งทั่วไปที่จะจัดขึ้นวันที่ 14 ต.ค. 2566 ด้วย ทั้งนี้ถือเป็นการลาออกก่อนกำหนดโดยเธอจะครบวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ วันที่ 7 ก.พ. นี้ เธอพิจารณาเรื่องนี้มาแล้วและก็ได้ข้อสรุปกับตัวเองว่า เธอไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศอีกต่อไป และนี่คือเหตุผลที่เธอตัดสินใจลาออก

“ฉันจะลาออก เพราะหน้าที่ที่ได้รับสิทธิพิเศษนั้นต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบ ความรับผิดชอบที่จะรู้ว่าเมื่อใดคุณเป็นคนที่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำและเมื่อใดที่คุณไม่ใช่”

เธอยังเผยอีกว่า “ดิฉันหวังจะพบอะไรที่ทำให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ แต่น่าเศร้าที่ไม่พบสิ่งนั้น และหากยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป น่าจะเป็นการทำร้ายประเทศนิวซีแลนด์”

ดิฉันไม่มีพลังเพียงพอสำหรับงานนี้ ฉันเป็นมนุษย์ นักการเมืองก็คือมนุษย์ เราทุ่มเทและทำทุกอย่างเท่าที่เราทำได้ สำหรับฉันตอนนี้ถึงเวลาแล้ว”

ภาพ : women.mthai

อาร์เดิร์น ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ในปี 2017 ขณะอายุ 37 ปี ถือเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 3 ของประเทศ และเป็นนายกฯ คนที่ 40 อีกทั้งยังเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงที่อายุน้อยที่สุดในโลกด้วย ทั้งนี้ก่อนที่ เจซินดา จะรับตำแหน่งนายกฯ เธอเคยมีดีกรีเป็นดีเจเปิดแผ่นมาก่อนเพราะชื่นชอบในดนตรีมากๆ โดยศิลปินที่เป็นไอดอลของเธอและถูกหยิบยกมาเล่นบ่อยครั้งก็มีหลากหลายตั้งแต่ Spice Girls, The Beatles, Iggy Pop ไปจนถึง Snoop Dogg

ภาพ : women.mthai

ผลงานที่ผ่านมาในฐานะเป็นผู้นำของนิวซีแลนด์ที่ฝ่าวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 และภัยพิบัติครั้งใหญ่ รวมถึงเหตุกราดยิงมัสยิด 2 แห่งในไครสต์เชิร์ชและภัยพิบัติภูเขาไฟระเบิดบนเกาะไวต์ อนึ่ง เหตุการณ์ที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกประทับใจนายกหญิงผู้เก่งกาจคนนี้ก็คือ เหตุโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของประเทศ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2019 กรณีชายผู้หนึ่งกราดยิงชาวมุสลิมที่มาร่วมพิธีละหมาดในมัสยิด 2 แห่ง ใจกลางเมืองไครสต์เชิร์ช เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมดถึง 50 คน เธอไม่ได้แค่รับรู้ถึงความกลัวและความเศร้าโศกเสียใจของชาวมุสลิมเท่านั้น แต่ยังสวมกอดเหยื่อในเมืองไครสต์เชิร์ช สวมผ้าคลุมหัวสีดำเพื่อแสดงความเคารพ และยังเรียกร้องให้ผู้คนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จนทำให้เธอกลายเป็นนายกคนรุ่นใหม่ ผู้กุมหัวใจคนทั่วโลก

ที่มา : bbc, aljazeera, ภาพ : jacindaardern


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง