คัดลอก URL แล้ว
เตือน! มะเร็งปอดคร่าชีวิตหญิงไทย แม้ไม่เคยสูบบุหรี่

เตือน! มะเร็งปอดคร่าชีวิตหญิงไทย แม้ไม่เคยสูบบุหรี่

แม้ไม่เคยสูบบุหรี่ ก็อาจตกอยู่ในความเสี่ยง! มะเร็งปอด เป็นภัยเงียบที่ค่อยๆ จู่โจมโดยไม่แสดงอาการในระยะแรก ทำให้หลายคนตรวจพบเมื่อโรคลุกลามแล้ว ล่าสุด แพทย์ มช. เผยสถิติน่าตกใจ พบว่าหญิงไทยมีความเสี่ยงสูงขึ้น แม้ไม่เคยสูบบุหรี่เลย ปัจจัยสำคัญมาจาก มลพิษทางอากาศ ฝุ่น PM 2.5 และสารพิษในสิ่งแวดล้อม ที่สะสมในร่างกายเป็นเวลานาน ส่งผลให้เซลล์ปอดเกิดความผิดปกติและพัฒนาเป็นมะเร็งได้โดยไม่รู้ตัว

อ.นพ.ปริญญา เรือนวิไล อาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ หน่วยโรคระบบการหายใจ เวชบำบัดวิกฤตและภูมิแพ้ คณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดเผยว่า “มะเร็งปอด เป็นโรคที่เกิดจากการเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติในปอด ความน่ากลัวคือ มักไม่แสดงอาการในระยะแรก และเมื่อแสดงอาการแล้ว มักเข้าสู่ระยะลุกลาม จนยากต่อการรักษา
มะเร็งปอดเป็นหนึ่งในโรคมะเร็งที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด โดยเฉพาะในภาคเหนือที่พบผู้ป่วยใหม่ถึง 2,500 รายต่อปี และเสียชีวิตมากถึง 1,800 ราย ต่อปี ส่วนใหญ่พบในผู้สูงอายุ แต่ในปัจจุบัน เริ่มพบในคนอายุน้อยมากขึ้น”

ชนิดของมะเร็งปอดและความแตกต่าง

มะเร็งปอดแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลักคือ

  1. ชนิดเซลล์เล็ก (Small Cell Lung Cancer – SCLC)
    แพร่กระจายไว พบมากในผู้สูบบุหรี่
  2. ชนิดไม่ใช่เซลล์เล็ก (Non-Small Cell Lung Cancer – NSCLC)
    พบบ่อยกว่า แบ่งย่อยได้อีกหลายชนิด เช่น squamous, adenocarcinoma, neuroendocrine

กลุ่มเสี่ยงที่ควรระวัง

• ผู้ที่สูบบุหรี่ หรืออยู่ใกล้ผู้สูบ (secondhand smoker)
• ผู้สัมผัสฝุ่น PM 2.5 หรือสารก่อมะเร็ง เช่น แร่ใยหิน (asbestos)
• ผู้มีประวัติคนในครอบครัวป่วยมะเร็งปอด
• ผู้หญิงโดยเฉพาะในภาคเหนือ แม้ไม่สูบบุหรี่ ก็มีความเสี่ยงสูงจากมลภาวะทางอากาศ

อาการที่ควรสังเกต

• ไอเรื้อรัง
• ไอมีเลือด
• หายใจลำบากหรือเหนื่อยผิดปกติ
• น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
• เจ็บหน้าอก

หากมีอาการเหล่านี้ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม เช่น เอกซเรย์ทรวงอก, CT scan, PET scan หรือการตัดชิ้นเนื้อเพื่อยืนยัน

แนวทางการรักษา

การรักษาจะขึ้นอยู่กับระยะของโรค เช่น
• ผ่าตัด
• เคมีบำบัด
• การฉายแสง
• การให้ยามุ่งเป้า (Targeted Therapy)
• การใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy)

การป้องกันและดูแลสุขภาพปอด

• หลีกเลี่ยงฝุ่น PM 2.5 และควันพิษ
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
• สวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่เสี่ยง
• ตรวจสุขภาพปอดเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงหรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคปอด

“การหมั่นดูแลสุขภาพปอดและตรวจสุขภาพเป็นประจำ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันโรคที่อาจพรากชีวิตโดยไม่รู้ตัว” อ.นพ.ปริญญา เรือนวิไล กล่าว

ขอบคุณที่มา : เรียบเรียง: นางสาวนันทพร ระบิน ภาพ / ข่าว : กลุ่มงานสื่อสารองค์กร งานประชาสัมพันธ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง