คัดลอก URL แล้ว
8 พลังของการสัมผัส ดีต่อสุขภาพ ดีต่อใจจริงๆ นะ

8 พลังของการสัมผัส ดีต่อสุขภาพ ดีต่อใจจริงๆ นะ

“การสัมผัส” เป็นการแสดงออกที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ที่สำคัญมีประโยชน์อย่างไม่น่าเชื่อ การสัมผัสสามารถช่วยบรรเทาและปลอบประโลมทุกคนได้ ตั้งแต่เด็ก ไปจนถึงผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเจ็บป่วย หรือรู้สึกกังวล จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นมาได้ มีผลงานวิจัยกล่าวถึงประโยชน์ของการสัมผัสด้วย

1.การสัมผัสเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับทารก ในแง่ของชีวิตและความตาย

มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า ทารกที่ขาดการสัมผัสทุกวัน สามารถเสียชีวิตได้ หากพ่อแม่ หรือผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ไม่กอดจูบและสัมผัสทารกเลย ย่อมส่งผลต่อการพัฒนาทั้งทางร่างกายและสุขภาพจิตอย่างรุนแรง ซึ่งนี่อาจเป็นความจริงข้อหนึ่งที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าการสัมผัสที่สำคัญสำหรับมนุษย์นั้นเป็นอย่างไร แต่ในทางกลับกันหากแม่สัมผัสและกอดลูกน้อยอย่างใกล้ชิด จะช่วยให้แม่เข้าใจการแสดงออกของลูกน้อยได้เร็วขึ้น ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและมั่นใจในการเลี้ยงดูลูกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยสร้างความรู้สึกอบอุ่นและไว้ใจแม่ให้กับตัวเด็ก

2.การสัมผัส ทำให้การสื่อสารราบรื่น

การสัมผัสช่วยให้การติดต่อสื่อสารนั้นราบรื่น คุณคงรู้ดีว่าการสัมผัสในการติดต่อสื่อสารหรือติดต่อธุรกิจนั้น ผู้ที่ถูกฝึกสอนมาแทบทุกคนรู้มารยาทเรื่องการจับมือทักทาย เพราะถือว่าเป็นการเริ่มต้นบทสนทนที่ดี และให้ความรู้สึกผ่อนคลายต่อคู่สนทนา นอกเหนือจากนี้ การสัมผัส เช่น การจับมือ ยังสามารถบ่งบอกความรู้สึกนึกคิดของอีกฝ่ายได้เป็นนัยๆ อีกด้วย

3.สร้างความเชื่อใจ เพิ่มระดับฮอร์โมนแห่งความผูกพัน

ช่วยสร้างความเชื่อใจและความรู้สึกปลอดภัย อีกทั้งยังทำให้คนรู้สึกพูดคุยกันได้อย่างเปิดเผย นอกจากนี้การสัมผัสยังช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนแห่งความผูกพัน ที่ช่วยรักษาความรู้สึกเปล่าเปลี่ยว ความเหงา และความโกรธได้ ที่สำคัญมันยังสอนให้เราตระหนักถึงการให้และการรับ ทำให้เรารู้ถึงคุณค่าของการเป็นผู้ให้และผู้รับว่าอบอุ่นแค่ไหน

4.เป็นกุญแจสำคัญต่อสุขภาพจิต

เพราะมนุษยน์คือสัตว์สังคม ดังนั้นความต้องการขั้นพื้นฐานของเราทุกคนก็คือ ต้องการการสัมผัส เช่น การตบหลัง จับมือ กอด หรือจูบทักทาย สิ่งเหล่านี้ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ของความไว้วางใจได้เป็นอย่างดี

5.ทำให้สมองของคุณมีความสุข

การสัมผัสใครสักคน สมองจะหลั่งสารออกซิโตซินออกมาหรือฮอร์โมนแห่งความรัก ซึ่งช่วยทำให้มีความสุข มีปฎิสัมพันธ์ต่อกันได้ดียิ่งขึ้น จนสามารถพัฒนาเป็นความสัมพันธ์เชิงลึก นอกจากนี้สารตัวนี้ยังช่วยลดความดันโลหิตและลดระดับของฮอร์โมนความเครียดได้อีกด้วย

6.ช่วยโน้มน้าวใจ เพิ่มความจริงใจและความน่าเชื่อถือ

การสัมผัสสามารถใช้เพื่อเพิ่มความจริงใจและความน่าเชื่อถือ ดังนั้นในครั้งต่อไปที่คุณต้องการความช่วยเหลือหรือต้องการปิดการขาย ลองสัมผัสกับคนอื่นอย่างสุภาพ คุณอาจโน้มน้าวให้พวกเขาทำสิ่งที่คุณต้องการได้

7.ได้รับพลังงานเชิงบวก

มนุษย์สามารถกระจายพลังงานบางอย่างออกจากตัวได้ เมื่อรับสัมผัสหรือถูกสัมผัสจากเพื่อนหรือคนใกล้ชิด มันสามารถแปรการสัมผัสเป็นพลังงานเชิงบวก หรือเป็นกำลังใจให้ชีวิต เมื่อคุณรู้สึกว่าคุณได้ใช้เวลาไปกับการดูดซับพลังงานเชิงลบ จากหลายๆ ที่ เพียงคุณมองหาเพื่อน หรือใครสักคนที่ไว้ใจในการมอบสัมผัสดีๆ แก่กันและกัน

8.ช่วยในการบำบัดรักษา

การนวดสามารถบรรเทาอาการเจ็บปวด เมื่อล้าได้ นอกจากนี้ การสัมผัสในบางจุดของร่างกายยังช่วยในกระบวนการรักษาโรคบางชนิดได้ด้วย เช่น โรคความดันโลหิตสูง ไมเกรน และโรคเบาหวาน รวมถึงการบำบัดและบรรเทาโครซึมเศร้า และการโอบกอดนั้นยังช่วยให้ผู้ป่วยทางจิตเวชมีอาการที่ดีขึ้นด้วย


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง