ผักกูด ผักพื้นบ้านนานาประโยชน์ ที่สายสุขภาพไม่ควรพลาดบอกเลย! เป็นพืชในตระกูลเฟิร์น มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Diplazium esculentum นำมาปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู อาทิ ยำผักกูด แกงกะทิ และต้มราดน้ำกะทิกินคู่กับน้ำพริกก็แซ่บ!!
แต่ผักกูดไม่ควรรับประทานแบบสดๆ เพราะมีสารออกซาเลตสูง หากรับประทานมากเกินไปจะส่งผลให้เกิดนิ่วในไตได้ ผักกูด เป็นผักที่มีธาตุเหล็กสูงมากที่สุดเป็นอันดับ 1 รองลงมาคือ ใบแมงลัก ผิวมะกรูด ใบกะเพราแดง ไปดูประโยชน์ของผักกูดกัน บอกเลยว่าเวรี่กู๊ดสุดๆ
1.ช่วยบํารุงเลือด
ผักกูด 100 กรัม มีปริมาณธาตุเหล็กถึง 36.3 กรัม ช่วยในการบำรุงเลือด ป้องกันภาวะโลหิตจาง จึงเป็นผักที่เหมาะสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์และผู้ที่บริจาคเลือดเป็นประจำ
2.ลดคอเลสเตอรอล
ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดจึงทำให้ลดภาวะไขมันในเลือดสูง ลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
3.บํารุงสายตา
ผักกูดอุดมไปด้วยแคโรทีน จึงช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง เบต้าแคโรทีนเมื่อย่อยสลายแล้วจะได้เป็นวิตามินเอ ซึ่งจะช่วยในการมองเห็นทำให้ดวงตามีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ชะลอการเสื่อมของจอประสาทตา ลดความเสื่อมของเซลล์ลูกตา ลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจก
4.แก้ไข้ตัวร้อน
ช่วยลดไข้ แก้อาการตัวร้อนเป็นไข้ แก้ร้อนใน และดับพิษร้อนในร่างกาย นำใบของผักกูดมาต้มกับน้ำแล้วดื่มบ่อยๆ จะช่วยแก้ไข้ตัวร้อนและบรรเทาอาการร้อนในได้
5.แก้ท้องผูก
ผักกูดมีกากใยอาหารสูง ช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ได้ช่วยในการกระตุ้นระบบขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก จึงช่วยป้องกันโรคริดสีดวงทวาร ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้
6.ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน
ผักกูดมีฟอสฟอรัสซึ่งเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อกระดูกและฟัน ช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการเหงือกอักเสบ ข้ออักเสบ ที่สำคัญยังมีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะได้ดีมาก
คุณค่าทางอาหารของผักกูด 100 กรัม
ให้พลังงาน 25 กิโลแคลอรี่
แคลเซียม 5 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส 35 มิลลิกรัม
วิตามินเอ 113 ไมโครกรัม
วิตามินบี 1 0.34 มิลลิกรัม
วิตามินบี 2 0.08 มิลลิกรัม
วิตามินซี 15 มิลลิกรัม
วิตามินอี 2.05 มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก 36 มิลลิกรัม
เบต้าแคโรทีน 681 ไมโครกรัม
ไนอะซิน 0.5 มิลลิกรัม
ประโยชน์ ผักกูด มากมายขนาดนี้ มื้อต่อไปใครคิดไม่ออกจะทำเมนูอะไร ลองนำผักกูดไปเป็นวัตถุดิบกัน ได้ประโยชน์ดีๆ ต่อสุขภาพแน่นอน