เข้าสู่ช่วงฤดูฝน อีกปัญหาที่เจอกันคือพบกับน้ำท่วมขังที่แฝงไปด้วยสัตว์และแมลงตัวร้าย ซึ่งชอบหนีน้ำแอบเข้ามาในบ้าน ก่อให้เกิดอันตรายกับคนในครอบครัวได้ เพื่อความปลอดภัยของคนในครอบครัว ขอแนะนำ วิธีป้องกันและปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อโดนสัตว์มีพิษทำร้าย
พญ.รัตติยา เหลืองอำพนศักดิ์ แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน ศูนย์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวว่า ช่วงหน้าฝนหลีกเลี่ยงไม่ได้กับสัตว์และแมลงมีพิษที่ชอบหนีน้ำเข้ามาแอบตามบ้าน โดยเฉพาะที่รกๆ เป็นที่อาศัยของสัตว์เหล่านี้ พร้อมที่จะทำร้ายเราและคนในครอบครัวได้ทุกเมื่อ จึงควรหมั่นดูแลรักษาความสะอาดบ้าน ปิดช่องทางหรือรูต่างๆ และจัดระเบียบบ้านไม่ให้รก เพื่อไม่ให้สัตว์เหล่านี้เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน สัตว์มีพิษที่พบได้บ่อยๆ เช่น งู แมงป่อง แมลงก้นกระดก และตะขาบ
วิธีป้องกันและปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อโดนสัตว์มีพิษทำร้าย
งู สัตว์มีพิษตัวร้ายอันดับต้นๆ
ที่ชอบหนีน้ำเข้ามาบ้านคน มักชอบซ่อนตัวอยู่ในรองเท้า ก่อนใส่รองเท้าควรเคาะรองเท้าก่อนใส่ หรือโผล่มาจากชักโครก หากพบงูเข้าบ้านควรรีบโทร 199 เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญมาจับงูออกไป เมื่อถูกงูกัดห้ามขันชะเนาะหรือใช้ปากดูดพิษออกมาเด็ดขาด ควรล้างแผลด้วยน้ำสะอาด พยายามอย่าขยับอวัยวะที่ถูกงูกัด เพราะจะเร่งให้พิษกระจายไปตามร่างกายได้เร็วขึ้น จดจำลักษณะงูที่ถูกกัด และรีบไปพบแพทย์ทันที
แมงป่อง สัตว์ที่มีพิษร้ายแรง
เมื่อโดนแมงป่องต่อยจะมีอาการปวดบวมแดงและแสบร้อนตรงบริเวณที่ถูกต่อย ในบางรายมีอาการรุนแรง เช่น หัวใจเต้นเร็ว หายใจเร็ว ความดันโลหิตสูง อาจส่งผลถึงขั้นเสียชีวิตได้ ควรรีบทำความสะอาดบริเวณที่โดนต่อยด้วยน้ำสะอาดและและประคบเย็น ครั้งละประมาณ 10 นาที เพื่อบรรเทาอาการปวดและช่วยให้เส้นเลือดหดตัว พิษจะกระจายตัวได้ช้าลง จากนั้นควรรีบไปพบแพทย์ทันที
แมลงก้นกระดก สัตว์ปีกที่มีพิษแสบร้อน
ช่วงฤดูฝนมักจะพบได้มากตามบ้านเรือน หรืออาคารสูง เมื่อสัมผัสโดนจะมีอาการคัน ปวดและแสบ ผิวไหม้ มีผื่นแดง ตุ่มน้ำ เป็นหนองตามผิวหนังที่สัมผัส ควรรีบทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า หากมีอาการอักเสบรุนแรงให้รีบพบแพทย์ทันที
ตะขาบ สัตว์มีพิษที่พบได้บ่อยตามบ้านเรือน
เมื่อโดนกัดจะมีอาการปวด คัน บวมแดงบริเวณที่ถูกกัด พิษของตะขาบไม่รุนแรงถึงกับทำให้เสียชีวิต ควรทำความสะอาดบริเวณที่โดนกัดด้วยน้ำสะอาด หมั่นประคบน้ำอุ่น ครั้งละ 10 นาที เพื่อลดอาการปวดบวม หรือรับประทานยาแก้ปวดเมื่อรู้สึกปวด หากมีอาการแพ้รุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
ข้อมูลจาก: พญ.รัตติยา เหลืองอำพนศักดิ์ แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน ศูนย์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลหัวเฉียว