คัดลอก URL แล้ว

Fisker Ronin ซูเปอร์คาร์เปิดประทุนพันแรงม้าที่มอบสีสันของการออกทริปทางไกล

Fisker ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติอเมริกา ได้เผยโฉม Fisker Ronin ว่าที่ซูเปอร์คาร์แบบ “Super GT เปิดประทุน” ขุมพลังไฟฟ้าเวอร์ชั่นโปรโตไทป์ให้แฟน ๆ ได้ชมรายละเอียดตัวถัง พร้อมข้อมูลทางเทคนิคที่สำคัญ พร้อมคาดการณ์ว่าจะเข้าสู่การผลิตในช่วงครึ่งปีหลัง 2025 เป็นต้นไป

ทางบริษัทฯ ได้ระบุว่ารถรุ่นนี้จะ “โฟกัสไปที่ความเพลิดเพลินของผู้ขับขี่มากกว่าเทคโนโลยีระบบขับขี่อัตโนมัติ” แม้ว่าเทคโนโลยีดังกล่าวอาจจะมีแผนบรรจุไว้ก็ตาม ซึ่งได้เปรยว่ารถรุ่นนี้จะสามารถขับจากลอสแองเจลิสไปยัง Napa Valley ด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว หรือขึ้นทางด่วนด้วยความเร็วคงที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความจุของแบตเตอรี่

Fisker Ronin มาพร้อมกับบุคลิก และนวัตกรรมที่มอบความสมบูรณ์แบบให้กับรถ Super GT ระดับไฮเอนด์ อาทิ ตังถังสไตล์รถซีดานหลังคาแข็ง พร้อมประตูแบบ Suicide Door ที่เมื่อเปิดฟังก์ชั่นเปิดประทุนก็จะกลายเป็นโรดสเตอร์แบบ 5 ที่นั่งที่สวยงาม ซึ่งตัวหลังคาระบุว่าผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ เช่นเดียวกับล้อขนาด 23 นิ้ว ที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์เช่นกัน

แม้จะเป็นประตูแบบ Suicide Door แต่ตัวประตูจะแฝงลูกเล่นเพิ่มความสง่างามเหนือระดับด้วยกลไกประตูหน้าแบบปีกผีเสื้อด้วยไฟฟ้า และประตูหลังจะมีบานพับด้านหลังซึ่งจะมีกลไกมือจับเปิดประตูแบบ Pop up นอกจากนี้ ประตูทุกบานและฮาร์ดท็อปคาร์บอนไฟเบอร์แบบพับได้ยังสามารถสั่งการได้จากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟน

สำหรับภายในได้เผยเพียงแค่ว่าจะมาพร้อมกับจออินโฟเทนเมนต์ตรงกลางขนาด 17.1 นิ้ว, แผงคอนโซลเรืองแสง, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมจอเรือนไมล์ในตัว รวมถึงวัสดุตกแต่งต่าง ๆ จะใช้ใช้วัสดุรีไซเคิล และวัสดุที่มีความยั่งยืนที่จัดเต็ม อีกทั้งได้รับประกันว่าห้องโดยสารห้าที่นั่ง และความจุบรรทุกสัมภาระจะให้ความ “ยอดเยี่ยม” ทั้งการโดยสาร และการบรรทุก

Fisker Ronin จะใช้โครงตัวถังอะลูมิเนียมสเปซเฟรมที่พัฒนาเป็นพิเศษซึ่งจะผสานรวมเข้ากับชุดเซลล์แบตเตอรี่ แม้ความจุของแบตเตอรี่ยังไม่ได้รับการเปิดเผย แต่ระยะเป้าหมายที่วางไว้คือวิ่งได้ไกลสุด 600 ไมล์ หรือ 966 กม. อีกทั้งทางบริษัทฯ ยัง ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับขุมพลังไฟฟ้า แต่สัญญาว่าจะให้กำลังรวมมากกว่า 1,000 แรงม้า สามารถมอบอัตราเร่งจาก 0-97 กม./ชม. ใน “ประมาณ 2 วินาที” และความเร็วสูงสุด 275 กม./ชม.

Fisker Ronin จะผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 999 คันเท่านั้น โดยเริ่มเปิดสายการผลิตในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยมีราคาอยู่ที่ 385,000 ดอลลาร์ หรือราว ๆ ซึ่งทางบริษัทจะเปิดจองผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการเท่านั้น

เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง