Lexus เปิดตัวโมเดลใหม่ล่าสุดของโลก All-New LBX ที่ได้รับการต่อยอดแพลตฟอร์ม TNGA “GA-B” จาก Toyota Yaris Cross (สเปคญี่ปุ่น – ยุโรป) สู่รูปแบบของรถคอมแพ็คครอสโอเวอร์หรูที่มีขนาดเล็กกว่า UX Series สำหรับเจาะกลุ่มเป้าหมายเศรษฐีคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความคล่องตัว และเปิดประสบการณ์สัมผัสเสน่ห์ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก – ภายใน เทคโนโลยี จนถึงสมรรถนะการขับขี่จากเลกซัสเป็นคันแรกของคุณ
LBX ย่อมาจากคำว่า “Lexus Breakthrough Crossover” ที่จะมอบประสบการณ์สัมผัสความหรูหรา การขับขี่ที่โดดเด่นในแบบฉบับของ Lexus ไปพร้อม ๆ กับความคล่องตัว ขับสนุก และใช้งานได้อเนกประสงค์ในสไตล์ครอสโอเวอร์ เริ่มจากบุคลิกภายนอกที่ได้รับการแบบใหม่ให้ทันสมัย โดดเด่นสง่างาม อาทิ กระจังหน้า “Unified Spindle” ที่ออกแบบมาใหม่ล่าสุด ด้วยตะแกรงรังผึ้ง และรูปทรงกระจังหน้าที่เข้ากับไฟหน้า LED อย่างลงตัว นอกจากนี้ ยังเสริมความสปอร์ตด้วยการเสริมช่องรับลมที่กันชนด้านล่าง และเมื่อรวมกับฝากระโปรงหน้าที่ดีไซน์พิเศษ ช่องรับลม เส้นสายล้อและตัวถัง จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการลู่ลมที่ดียิ่งขึ้น
มีการเสริมชิ้นส่วนสีดำเงาที่เสา C เพื่อให้ตัวหลังคาดูลอยขึ้น เสริมขอบซุ้มล้อ และชายล่างสีดำเพิ่มความดุดัน, สปอยเลอร์ท้ายแนวเดียวกับหลังคา, ไฟท้าย LED ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแว่นกันแดดซึ่งขับเน้นไหล่ด้านหลังที่เด่นชัด, กันชนท้ายสไตล์สปอร์ต และออกแบบให้ซ่อนท่อไอเสียได้เนียนตา
เข้าสู่ภายในห้องโดยสารจะพบกับการตกแต่งที่ประณีตหรูหรา ทันสมัย และคงความเรียบง่ายเพื่อมอบทั้งความกว้างขวาง โปร่งสบาย และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกยิ่งขึ้น เริ่มจากวัสดุ และการตกแต่งระดับพรีเมี่ยม, ไฟสร้างบรรยากาศภายใน, ตัวเลือกเบาะหนังกึ่งแท้, หนัง Ultrasuede จนถึงหนังวีแกน เป็นต้น
เพียบพร้อมไปด้วยจอเรือนไมล์ขนาด 1.23 นิ้ว จับคู่จอ Head up Display และจออินโฟเทนเมนต์ขนาดใหญ่ 9.8 นิ้ว รองรับระบบ Lexux Link Connect โดยผู้ขับขี่ที่มีสมาร์ทโฟน สามารถรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายได้ทั้ง Apple CarPlay กับ Android Auto และรองรับการอัปเดทซอร์ฟแวร์แบบ over-the-air อีกทั้งลูกค้าสามารถเลือกอัปเกรดชุดเครื่องเสียงของ Mark Levinson พร้อมลำโพง 13 ตัว และซับวูฟเฟอร์
ถึงแม้เป็นรถขนาดเล็ก แต่บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการพัฒนา NVH เพื่อลดทั้งเสียงรบกวนจากภายนอก เสียงรบกวนจากภายในระบบขับเคลื่อน การสั่นสะเทือน และความกระด้าง ด้วยการพัฒนาปรับปรุงแชสซี และตัวถังของแพลตฟอร์ม GA-B วัสดุดูดซับเสียงคุณภาพสูง และการออกแบบตัวถังที่ลู่ลม เป็นต้น อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับระบบความปลอดภัยด้วยการติดตั้ง Lexus Safety System + ADAS suite เป็นอุปกรณ์มาตรฐานควบคู่ด้วย
Lexus LBX มาพร้อมกับขนาดตัวถังที่ประกอบด้วยความยาว x กว้าง x สูง ที่ 4,190 x 1825 x 1560 มม. และระยะฐานล้อ 2580 มม. รวมทั้งขนาดล้อและยางที่มีให้เลือกทั้งขนาด 17 นิ้ว หุ้มยาง 225/60R17 และขนาด 18 นิ้ว หุ้มยาง 225/55R18 ส่วนพื้นที่ความจุห้องสัมภาระท้ายในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้ามีความจุมากถึง 332 ลิตร ส่วนรุ่น AWD
อีกทั้งแพลตฟอร์ม TNGA “GA-B” ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เป็นไปตามมาตรฐานของ Lexus ที่คุณสัมผัสได้ ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะใหม่ที่ดีขึ้น, ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างผู้ขับขี่ และตัวรถ ด้วยการทรงตัว และการตอบสนองที่ดีกว่าเดิม, การเก็บเสียงดีเยี่ยม, ประสิทธิภาพแอโรไดนามิกที่ได้รับการออกแบบอย่างละเอียดพร้อมลักษณะการวิ่งที่ดีขึ้น เพื่อให้เป็นรถยนต์ที่มีความสมบูรณ์แบบ หรูหรา ทนทาน และขับสนุกได้แม้จะเป็นรุ่นเล็กสุดก็ตาม
หัวใจของการขับเคลื่อนของรถรุ่นนี้คือขุมพลังไฮบริดเป็นขุมพลังมาตรฐาน ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร “M15A-FXE” ผสานด้วยอเตอร์ไฟฟ้าที่ปรับปรุงใหม่ ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT และชุดแบตเตอรี่ NiMH ให้กำลังรวมสูงสุด (อิงจากรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า) 136 แรงม้า (PS) และแรงบิด 185 นิวตันเมตร แซงหน้า Toyota Yaris Cross 20 แรงม้า และแรงบิด 65 นิวตันเมตร แรงบิด ซึ่งทำให้ LBX สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 9.2 วินาที
สำหรับระบบขับเคลื่อน จะมีให้เลือกทั้งรุ่นขับสองล้อ ซึ่งจะใช้ระบบกันสะเทือนหลังแบบทอร์ชั่นบีม และขับสี่ล้อ E-Four AWD ซึ่งรุ่นนี้จะมีการเพิ่มมอเตอร์เพลาหลังเพื่อช่วยเพิ่มสมรรถนะ และระบบกันสะเทือนหลังแบบดับเบิลวิชโบน
Lexus LBX มีให้เลือกด้วยกัน 5 รูปแบบมาตรฐาน ได้แก่ COOL, RELAX, ELEGANT, ACTIVE และ URBAN เพื่อให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ และความชื่นชอบของลูกค้าที่หลากหลาย อีกทั้งรูปแบบโทนสีภายนอก สีภายใน วัสดุเบาะนั่ง ลายปัก ลายล้ออัลลอย ก็สามารถเลือกได้หลาหลาย ไปจนถึงรองรับการคัสตอมพิเศษภายใต้โปรแกรม Lexus Bespoke Build สุดเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อลูกค้าที่ต้องการความพิเศษไม่เหมือนใคร
สำหรับกำหนดการวางจำหน่าย Lexus LBX ในญี่ปุ่น จะมีขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้เป็นต้นไป พร้อมกับมีแผนขยายจำหน่ายในยุโรป กับอเมริกาภายในปี 2024 ส่วนราคาอาจจะวางให้ต่ำกว่า UX เพื่อให้เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นในฐานะ “รถเลกซัสคันแรกของคุณ” ซึ่งคงต้องติดตามกันต่อไปในเร็ว ๆ นี้
เครดิตข้อมูลจาก lexus.jp ออ https://car.watch.impress.co.jp/docs/news/1505335.html#33_s.jpg
