BMW ประกาศเปิดตัว All-New Series 5 ยนตรกรรมซีดานหรูเจนเนอเรชั่นที่ 8 รหัส “G60” ที่ได้รับการยกระดับทั้งขนาดที่ใหญ่ขึ้น ทรงพลังขึ้น และล้ำสมัยยิ่งขึ้น เพียบพร้อมด้วยขุมพลังที่มีให้เลือกหลากหลาย และในโฉมนี้ได้เปิดตัวซีดานไฟฟ้า 100% อย่าง BMW i5 มาเสริมทัพซีรี่ย์ i ควบคู่ด้วย
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/BMW-Series-5-10-1.jpg)
BMW Series 5 เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดนี้ ได้รับการขยายขนาดตัวถังให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ด้วยความยาว 5,060 มม. กว้าง 1,900 มม. และสูง 1,515 มม. และระยะฐานล้อ 2,995 มม. ซึ่งความน่าสนใจของระยะฐานล้อนี้ จะมีความยาวกว่า Series 7 (E38) รุ่นฐานล้อมาตรฐานเล็กน้อย และด้วยแพลตฟอร์ม CLAR ใหม่นี้ จึงสามารถรองรับขุมพลังตั้งแต่ ICE ตระกูลไฮบริด และ EV
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/BMW-Series-5-11.jpg)
สำหรับการออกแบบุคลิกใหม่นี้ จะมีแนวทางการออกแบบที่ได้อนุรักษณ์ความปราดเปรียวของกระจังหน้าไตคู่ที่เพียวบาง และไฟหน้าแบบรุ่นก่อนหน้า ซึ่งต่างจากกระจังหน้าไตคู่ในยุคใหม่ที่มีขนาดใหญ่ดูดุดันกว่า ทำให้ Series 5 โฉมใหม่นี้ดูสปอร์ตปราดเปรียว สง่างาม ดุจ “จมูกฉลาม” ทั้งนี้ลูกค้าสามารถเลือกกระจังหน้าแบบเรืองแสงเพิ่มได้ นอกจากนี้ ส่วนของ Hofmeister ที่กระจกหลังและเสา C ก็ได้ปรับดีเทลเล็กน้อย และล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 21 นิ้ว ที่เสริมรูปลักษณ์ให้ดุดันยิ่งขึ้น แต่ในบางรุ่นก็จะได้รับขนาด 19 นิ้วเป็นมาตรฐาน
ออพชั่นภายนอกอื่น ๆ ได้แก่ ไฟหน้า LED และ Adaptive matrix LED และไฟเลี้ยวแบบไม่มีแสงสะท้อน ขณะเดียวกัน แพ็คเกจ M Shadow Line จะได้โคมไฟหน้าที่มีสีเข้มขึ้น
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/BMW-Series-5-12.jpg)
เปิดประตูเข้าสู่ภายใน จะพบกับจอดิจิทัลจอโค้งขนาดใหญ่บนแผนคอนโซลหน้า แบ่งเป็นจอเรือนไมล์ 12.3 นิ้ว และจออินโฟเทนเมนต์ 14.9 นิ้ว อีกทั้งยังได้รับระบบปฏิบัติการ iDrive 8.5 ใหม่ล่าสุด พร้อม QuickSelect ที่จะช่วยรวมทางลัดเพิ่มเติมบนหน้าจอหลักเพื่อการเข้าถึงฟังก์ชั่นที่ใช้บ่อยได้เร็วขึ้น
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/BMW-Series-5-08.jpg)
อีกทั้งตัวจออินโฟเทนเมนต์จะรวบรวมฟีเจอร์ระบบควบคุมภายในรถแบบสัมผัส สั่งการผ่านเสียง และออกท่าทาง พร้อมรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย และยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อเกมผ่านระบบ AirConsole ที่ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถดาวน์โหลดและเล่นเกมได้ แต่จะใช้ได้เฉพาะรถจอดอยู่กับที่เท่านั้น
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/BMW-Series-5-07.jpg)
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ตัวรถมาพร้อมหลังคาแบบ Sky Lounge roof แทนที่หลังคาซันรูฟมาตรฐาน มีความยาว 33 นิ้วและกว้าง 32 นิ้ว ซึ่งนับว่าใหญ่มาก โดยจะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยให้กับผู้โดยสารด้านหลังมากขึ้นเกือบ 90% พร้อมม่านบังแดดที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า แต่ในบางประเทศก็จะได้รับหลังคาซันรูฟแบบมาตรฐานด้วย
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/BMW-Series-5-06.jpg)
สำหรับ Series 5 รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมฟีเจอร์ Active Lane Change สำหรับรถยนต์ที่ติดตั้ง Highway Assistant ที่ตัวรถรองรับการขับขี่แบบแฮนด์ฟรี (แต่ไม่ละสายตา) ด้วยความเร็วสูงสุด 85 ไมล์/ชม. หรือ 137 กม./ชม. และสามารถเปลี่ยนเลนอัตโนมัติได้เพียงแค่ผู้ขับขี่มองกระจกมองข้างที่ต้องการเปลี่ยนเลน โดยระบบจะทำการเตือนรถด้านนอกด้วยไฟเลี้ยว ควบคุมความเร็ว และทำการแซงรถ โดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องเปิดไฟเลี้ยวหรือบังคับพวงมาลัยแต่อย่างใด แน่นอนว่ามันจะทำงานก็ต่อเมื่อสามารถเปลี่ยนเลนได้อย่างปลอดภัย โดยกล้องจะตรวจสอบสภาพแวดล้อมของรถอยู่เสมอ อีกทั้งยังมาพร้อมระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติด้วย
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/BMW-Series-5-13.jpg)
ด้านช่วงล่างรุ่นมาตรฐานจะได้รับดับเบิลวิชโบนที่ล้อหน้า และเพลามัลติลิงค์ที่ล้อหลัง รวมถึงทุกรุ่นได้รับพวงมาลัยสปอร์ตแบบอัตราทดแปรผัน
ขณะที่รุ่น i5 จะได้รับโช้คถุงลมที่ล้อหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และ i5 M60 จะได้รับพวงมาลัยล้อหลังเพิ่ม กับระบบกันโคลงอัจฉริยะที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการควบคุมเหล็กกันโคลงร่วมด้วย
ขุมพลัง BMW Series 5
สำหรับรายละเอียดขุมพลังของ BMW Series 5 โฉมใหม่ จะมีด้วยกันดังนี้
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/BMW-Series-5-16.jpg)
กลุ่มขุมพลัง ICE + Mild Hybrid จะมีทั้ง 530i และ 530i xDrive ที่จะได้รับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 258 แรงม้า (PS) แรงบิด 400 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 – 97 กม./ชม. ในเวลา 5.8 วินาที
กับ 540i xDrive ที่จะได้รับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร TwinPower 380 แรงม้า (PS) แรงบิด 540 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 – 97 กม./ชม. ในเวลา 4.5 วินาที โดยทุกรุ่นจะได้รับระบบไฮบริดแบบ Mild Hybrid ที่ปรับปรุงใหม่ ให้พละกำลังที่ทรงพลังยิ่งขึ้น และจับคู่เกียร์ Steptronic 8 สปีด
สำรับตลาดยุโรป จะมีตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร 520i 190 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร แต่เมื่อเพิ่มระบบ Mild Hybrid ด้วย จะให้กำลังสูงถึง 208 แรงม้า และแรงบิด 330 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ดีเซล 520d ที่ปรับปรุงใหม่เพื่อให้กำลังสูงถึง 197 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/BMW-Series-5-14.jpg)
และกลุ่ม PHEV ที่เผยว่าจะประเดิมด้วยรุ่น 530e ที่จับคู่ระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ กำลังสูงสุด 299 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ทำได้ 6.4 วินาที และความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม.
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/BMW-Series-5-15.jpg)
และ 550e xDrive ซึ่งจะได้รับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร จับคู่ระบบปลั๊กอินไฮบริด กำลังรวมสูงสุด 489 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ทำได้ 4.3 วินาที และเพิ่มความเร็วสูงสุดเป็น 250 กม./ชม. ซึ่งรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดทั้งสองรุ่นจะวางจำหน่ายตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปี 2024 เป็นต้นไป
ขุมพลัง BMW i5
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/BMW-Series-5-02.jpg)
ปิดท้ายด้วยรุ่น BMW i5 ซึ่งเป็นรถซีดานขุมพลังไฟฟ้า จะมีการปรับบุคลิกภายนอก และภายในเล็กน้อย โดยจะสังเกตได้จากกระจังหน้าสีดำ, เพิ่มทัชบาร์ที่ไวต่อการสัมผัสสำหรับระบบอินโฟเทนเมนต์เพิ่ม เป็นต้น ส่วนขุมพลังจะแบ่งออกเป็น 2 รุ่น ได้แก่รุ่น i5 eDrive40 จะได้รับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุด 340 แรงม้า (PS) แรงบิด 400 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0 – 97 กม./ชม. ใน 5.7 วินาที
และ i5 M60 xDrive มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยมอเตอร์ล้อหน้ามีกำลังสูงถึง 261 แรงม้า (PS) ให้กำลังรวมสูงสุด 590 แรงม้า แรงบิด 795 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 – 97 กม./ชม. เหลือเพียง 3.7 วินาที
นอกจากนี้ยังมาพร้อมปุ่ม Boost เพื่อเค้นสมรรถนะเพิ่มอีกเล็กน้อย ครอบคลุมทั้ง M60 ในฐานะอุปกรณ์มาตรฐาน และ eDrive40 พร้อมแพ็คเกจ M Sport
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/BMW-Series-5-03.jpg)
ทุกรุ่นใช้แบตเตอรี่ความจุเท่ากันที่ 84.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับการชาร์จไฟฟ้า AC สูงสุด 11 กิโลวัตต์ กับ DC l^’l6f 205 กิโลวัตต์ หรือสามารถชาร์จด่วนจาก 10 – 80% ได้ภายใน 30 นาที
แม้จะใช้ความจุแบตเตอรี่เท่ากัน แต่ด้วยความต่างของน้ำหนักจากการเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่น ๆ ทำให้รุ่น M60 xDrive ที่หนักถึง 2,380 กก. จะวิ่งได้ไกลเพียง 412 กม./ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ขณะที่รุ่น eDrive40 หนักเพียง 2,230 กก. จึงคาดว่าจะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 475 กม./ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/BMW-Series-5-04.jpg)
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/BMW-Series-5-05.jpg)
ทุกรุ่นมาพร้อมฟีเจอร์ Max Range ที่จะช่วยสงวนพลังงานด้วยการจำกัดความเร็วสูงสุดเพียง 90 กม./ชม. และปิดการทำงานระบบอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ระบบปรับอากาศ และระบบอุ่นเบาะนั่งเพื่อลดการใช้พลังงาน
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/BMW-Series-5-01.jpg)
BMW Series 5 และ BMW i5 จะเริ่มวางจำหน่ายในอเมริกาช่วงเดือนตุลาคมนี้ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 57,900 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 2 ล้านบาท ในรุ่น 530i ถึง 84,100 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 2.91 ล้านบาท ในรุ่น i5 M60 xDrive
เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com และ bmwblog.com