คัดลอก URL แล้ว

McLaren 750S ยกระดับจาก 720S ให้เบาลง แรงขึ้น จัดจ้านทะลุไมล์

McLaren ได้เปิดตัว New McLaren 750S ที่ได้รับการอัปเกรดสมรรถนะใหม่จากรุ่น 720S ด้วยการปรับปรุงทั้งน้ำหนัก ระบบขับเคลื่อน และสมรรถนะใหม่ที่แรงจัดจ้านยิ่งขึ้น โดยจะมีทั้งรุ่นคูเป้ และรุ่นเปิดประทุน หรือ Spider

เริ่มจากการปรับปรุงภายนอกใหม่โดยยังคงมีบุคลิกของ 720S ซึ่งตัว 750S มาพร้อมกับการออกแบบชิ้นส่วนแอโร่พาร์ทใหม่ อาทิ ปีกหลังแบบแอกทีฟใหม่ที่ใหญ่ขึ้นจะเพิ่มแรงกดที่ความเร็วสูง และทำหน้าที่เป็นระบบ DRS เพื่อลดการลากเมื่อเร่งความเร็ว, ออกแบบประตูใหม่เพื่อเพิ่มความสามารถในการระบายอากาศ และการระบายความร้อนโดยรวม และยังมีสปลิตเตอร์ด้านหน้าที่ลึกขึ้นเพื่อลดการยื่นส่วนหน้าโดยไม่จำเป็น

สำหรับภายในนั้น ตัวจอเรือนไมล์ และจอ Head up Display ก็มีการปรับความสว่างขึ้น, จออินโฟเทนเมนต์รองรับ Apple CarPlay เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ McLaren Control Launcher ใหม่ล่าสุด (MCL) ที่จะสามารถตั้งค่าการทำงานของชุดแอโร่พาร์ท เครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อนได้ตามต้องการ, การตกแต่งภายในด้วยวัสดุ Alcantara และยังมีหนัง Nappa ให้เลือกอีกด้วย

McLaren 750S ได้รับการยกระดับขุมพลัง V8 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ “M840T” ด้วยการปรับปรุงแรงดันบูสท์, เปลี่ยนลูกสูบจาก 765LT ที่มีน้ำหนักเบากว่า จนสามารถมอบแรงม้าสูงสุดถึง 740 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ที่ 5,500 รอบ/นาที ซึ่งเพิ่มจากรุ่น 720S ถึง 4 เปอร์เซ็นต์ (720 แรงม้า และ 770 นิวตันเมตร) อีกทั้งยังติดตั้งท่อไอเสียน้ำหนักเบา พร้อมปรับปรุงเสียงท่อไอเสียใหม่ที่ให้คุณได้สัมผัสถึง “การพุ่งสูงขึ้นที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์สูง”

และเมื่อเทียบอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทั้ง 720S และ 750S มีการเปลี่ยนแปลงระดับเสี้ยววินาที จากเดิมทำได้ที่ 2.9 วินาที ส่วนรุ่นล่าสุดทำได้ถึง 2.8 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดเดิมทำได้เพียง 325 กม./ชม. แต่รุ่นใหม่ล่าสุดสามารถทำได้ถึง 332 กม./ชม. เร็วขึ้น และทรงพลังอย่างเห็นได้ชัด

ขณะเดียวกันในรุ่น 750S นั้นก็ยังทำอัตราเร่งที่แตกต่างกันตามประเภทตัวถัง โดยอิงจากอัตราเร่งจาก 0 ถึง 200 และ 299 กม./ชม. โดยในรุ่นคูเป้จะทำได้ตั้งแต่ 7.2 และ 19.8 วินาที และรุ่น Spider ที่ทำได้ตั้งแต่ 7.3 ถึง 20.4 วินาที หรือส่วนต่างตั้งแต่ 0.1 ถึง 0.6 วินาที

แม้จะยังคงเป็นเครื่องยนต์วางกลาง ขับหลัง และใช้ระบบส่งกำลังด้วยเกียร์ออโต้ SSG 7 สปีด แต่ในด้านแชสซี และช่วงล่างได้มีการปรับปรุงใหม่สำหรับรองรับสมรรถนะที่สูงขึ้น และช่วยลดน้ำหนักลงอีกทาง อาทิ ชุดระบบกันสะเทือน PCC III รุ่นล่าสุด, อัปเกรดระบบพวงมาลัยใหม่, ระบบยกเพลาหน้าได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อยกได้เร็วขึ้นถึง 4 วินาที จากเดิม 10 วินาที เบาะคาร์บอนไฟเบอร์รุ่นมาตรฐานที่เบบากว่าเบาะรุ่น 720S ถึง 17.5 กก. และเป็นเบาะแบบยึดอยู่กับที่, ล้ออัลลอย 10 ก้าน ที่เบาเป็นพิเศษ ช่วยให้สามารถลดน้ำหนักลงได้อีก 13.8 กก. เป็นต้น

เมื่อเครื่องยนต์ใหม่ ร่วมกับการปรับปรุงชิ้นส่วนให้มีน้ำหนักเบาลง ส่งผลให้ 750S มีน้ำหนักเบาลงทั้ง 1,281 กก. ในรุ่นคูเป้ และ 1,326 กก. ในรุ่น Spider พร้อมอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักเฉลี่ย 579 แรงม้าต่อตัน นับเป็นโมเดลซูเปอร์คาร์ที่ทรงพลังที่สุดของค่ายเลยทีเดียว แม้ว่าลูกค้าะสามารถเลือกแพ็คเกจลดน้ำหนักเพิ่มอีกได้หลายรายการ เช่น เบาะเบาพิเศษที่เบากว่าเบาะมาตรฐาน 33 เปอร์เซ็นต์, ชุดรางเบาะในฐานะออพชั่นเสริม เป็นต้น

หรือจะเลือกแพ็คเกจที่ช่วยยกระดับให้ 750S มีความใกล้เคียงกับรถแข่งยิ่งขึ้น อาทิ จานเบรกผสมเซรามิก พร้อมคาลิเปอร์โมโนบล็อก, ระบบระบายความร้อนเทคโนโลยีเดียวกับ F1 และตัวเลือกยาง Pirelli P Zero Trofeo R ที่ออกแบบโดยเฉพาะ

สำหรับราคาจำหน่าย McLaren 750S ได้เผยว่า รุ่นคูเป้ จะเริ่มต้นราว ๆ 324,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และรุ่น Spider จะเริ่มต้นราว ๆ 345,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยโดยยังไม่รวมภาษีและค่าขนส่งตั้งแต่ 11.0 และ 11.7 ล้านบาทโดยประมาณ ซึ่งหากจำหน่ายในไทย เมื่อเทียบกับรุ่น 720S ราคาเริ่มต้นที่ 26.5 ล้านบาท ราคาของ 750S จะอยู่ราว ๆ 30 ล้านบาทบวกลบ โดยประมาณ

เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง