MINI มิวนิก เผยโฉมสีใหม่ล่าสุดสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า MINI Cooper SE ด้วยโทนสีขาวใหม่ Nanuq White สำหรับรถรุ่นคัสตอมพิเศษ Resolute Edition ที่ให้ความรู้สึกน่ารัก และอบอุ่น
ในภาษา Inuit หรือภาษาชาวเอสกิโม Nanuq แปลว่าหมีขั้วโลก พร้อมกรรมวิธีการลงสีตัวถังแบบพิเศษ เพื่อให้ผู้ขับขี่ และผู้พบเห็นได้นึกถึงขนสีอ่อนของลูกหมีขาวในแถบขั้วโลกเหนือได่อย่างน่าประทับใจ นอกจากนี้ลูกค้าสามารถเลือก Nanuq White แบบโมโนโทน (รวมสีหลังคาและฝาครอบกระจกมองข้าง) หรือเลือกแบบตัวถังสีทูโทนด้วยหลังคาสีดำ
ควบคู่กับการตกแต่งที่เสริมภาพลักษณ์ให้หรูหรา สง่างามในสไตล์ของ Resolute Edition อาทิ ฝากระโปรงหน้าที่มาพร้อมดีคอลแถบสีที่ผสมผสานระหว่างสีโทนดำ พร้อมตรา “RESOLUTE”, ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาสีดำ Tentacle Spoke Black ขนาด 17 นิ้ว บ่งบอกบุคลิกความเป็นรถรุ่นพิเศษที่สวยงามชวนสะกดตา
ภายในยังคงมอบสไตล์ที่หรูหรา ด้วยห้องโดยสารสีดำ ตัดแต่งด้วยชิ้นส่วนแถบสีทองบนแผงคอนโซลหน้า เบาะผ้าลายตารางสีเหลืองเป็นส่วนหนึ่งของชุดอุปกรณ์ MINI Yours Leather Lounge, แผงบุเพดานสีแอนทราไซต์ กระจกป้องกันแสงแดด และพวงมาลัยแบบสปอร์ตหุ้มหนัง Nappa และตรา “RESOLUTE”
ขณะเดียวดัน ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับระบบขับเคลื่อน และเทคโนโลยีการชาร์จก็ยังสร้างความประทับใจแม้ขับขี่ในพื้นที่อุณหภูมิติดลบ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 184 แรงม้า (135 กิโลวัตต์) อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. เพียง 7.3 วินาที ประสิทธิภาพสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ยน 17.6 – 15.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม. (WLTP) และอัตราการปล่อย CO2 ต่ำถึง 0 กรัม/กม.
ควบคู่กับโหมดขับขี่ที่มีมากถึง 3 แบบ ได้แก่ SPORT, MID และ GREEN+ ซึ่งโหมดที่สามนี้ สามารถมอบระยะทางในการเดินทางได้ไกลสุดถึง 234 กิโลเมตร/ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (WLTP)
ด้านออพชั่นอื่น ๆ จะได้รับทั้งระบบ eDrive, ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ MINI Driving Assistant, ระบบช่วยเบรก Active Guard, ระบบเตือนรถออกนอกเลน Lane Departure Warning และระบบ Active Cruise Control (ACC) ที่สามารถรองรับการทำงานด้วยความเร็วตั้งแต่ 30 ถึง 140 กม./ชม. เป็นต้น
สำหรับราคาจำหน่าย MINI Cooper SE Resolute Edition จะเปิดเผยเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป ส่วนจะเข้ามาจำหน่ายในไทยหรือไม่นั้นต้องจับตาดูในโอกาสต่อไป
เครดิตข้อมูลจาก car.watch.impress.co.jp