Lamborghini ประกาศสิ้นสุดการผลิตซูเปอร์คาร์เครื่อง V12 ที่ได้รับความนิยมสูงสุด Aventador อย่างเป็นทางการ โดยคันสุดท้ายได้ออกจากสายการผลิต พร้อมส่งมอบแก่ลูกค้า นับเป็นการปิดฉากซูเปอร์คาร์เรือธง เครื่องยนต์ V12 แบบ NA ของแบรนด์ที่ทำตลาดยาวนานกว่า 11 ปี และมียอดผลิตรวมถึง 11,465 คัน
ซึ่งคันที่ 11,465 เป็นรถรุ่น Aventador LP 780-4 Ultimae Roadster พร้อมส่งไปยังลูกค้าในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และได้รับนำเสนอตัวถีงสีฟ้าอ่อนพิเศษจาก Ad Personam ซึ่งเป็นบริการคัสตอมพิเศษเหมาะกับแต่ละบุคคล
ทว่าในความเป็นจริงแล้ว ทางบริษัทฯ ได้เคยยุติสายการผลิตไว้ที่ 11,450 คัน ซึ่งเป็นเลขที่สวยทีเดียว แต่ด้วยการที่ 15 คันสุดท้ายเกิดอุบัติเหตุเรือบรรทุกสินค้าจมในมหาสมุทรแอตแลนติกในระหว่างขนส่ง จึงทำให้สารการผลิตกลับมาเปิดชั่วคราวอีกครั้งเพื่อผลิต 15 คันสุดท้ายทดแทนคันที่สูญหายไป
Lamborghini Aventador เปิดตัวครั้งแรกที่งานเจนีวามอเตอร์โชว์ในปี 2011 ที่ผ่านมา ประเดิมด้วยรุ่น LP 700-4 มาพร้อมเครื่องยนต์รุ่นใหญ่สุดอย่างเครื่องยนต์ V12 ทำมุม 60˚ ความจุ 6.5 ลิตร
Stephan Winkelmann ประธานและ CEO ของ Automobili Lamborghini กล่าวว่า “Lamborghini Aventador เป็นผู้พลิกเกมเมื่อเปิดตัว และเป็นรุ่นเรือธงของ Lamborghini ที่ผลิตยาวนานกว่า 11 ปี ซึ่งรถรุ่นนี้เป็นการก้าวกระโดดของสองเจนเนอเรชั่นในแง่ของการออกแบบที่โดดเด่น เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและล้ำสมัย และประสิทธิภาพที่ล้นหลาม”
ตลอดอายุขับของ Aventador ได้สร้างความความสำเร็จในด้านการขายมากกว่ารถ V12 รุ่นก่อน ๆ ของแบรนด์ทุกรุ่น ซึ่งหลังจากผ่านไปห้าปี สามารถทำยอดขายเท่ากับ Murcielago ที่ 5,000 คัน และตอนนี้ก็สามารถยอดขายมากกว่า V12 Lamborghinis รุ่นอื่น ๆ รวมกัน
“เครื่องยนต์ V12 เป็นส่วนหนึ่งของมรดกของแลมโบร์กินีตั้งแต่เริ่มแรกของบริษัท ตั้งแต่ Miura ถึง Diablo, Countach และ Murciélago” Winkelmann กล่าว
แม้ว่าจะเป็นการปิดฉากเครื่องยนต์ V12 แบบ NA ของแบรนด์ แต่ในอนาคตทางบริษัทฯ จะพัฒนาเครื่องยนต์ V12 พ่วงระบบปลั๊กอินไฮบริด รวมถึงเสริมกำลังขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอีกด้วย ประกอบกับ Aventador จะยังคงเป็นองค์ความรู้ นวัตกรรม และประสบการณ์ของการพัฒนาซูเปอร์คาร์ของแบรนด์ ที่จะสานต่อสู่ความท้าทายแห่งอนาคต ประกอบกับ Aventador เองจะเป็นไอคอนนิกแห่งสมรรถนะ และบุคลิกที่ล้ำเหนือกาลเวลาตลอดไป
เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com