Lamborghini ประกาศสิ้นสุดการผลิตซูเปอร์คาร์เครื่อง V12 ที่ได้รับความนิยมสูงสุด Aventador อย่างเป็นทางการ โดยคันสุดท้ายได้ออกจากสายการผลิต พร้อมส่งมอบแก่ลูกค้า นับเป็นการปิดฉากซูเปอร์คาร์เรือธง เครื่องยนต์ V12 แบบ NA ของแบรนด์ที่ทำตลาดยาวนานกว่า 11 ปี และมียอดผลิตรวมถึง 11,465 คัน
![](https://mono29.com/app/uploads/2022/09/Lamborghini-Aventador-02.jpg)
ซึ่งคันที่ 11,465 เป็นรถรุ่น Aventador LP 780-4 Ultimae Roadster พร้อมส่งไปยังลูกค้าในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และได้รับนำเสนอตัวถีงสีฟ้าอ่อนพิเศษจาก Ad Personam ซึ่งเป็นบริการคัสตอมพิเศษเหมาะกับแต่ละบุคคล
ทว่าในความเป็นจริงแล้ว ทางบริษัทฯ ได้เคยยุติสายการผลิตไว้ที่ 11,450 คัน ซึ่งเป็นเลขที่สวยทีเดียว แต่ด้วยการที่ 15 คันสุดท้ายเกิดอุบัติเหตุเรือบรรทุกสินค้าจมในมหาสมุทรแอตแลนติกในระหว่างขนส่ง จึงทำให้สารการผลิตกลับมาเปิดชั่วคราวอีกครั้งเพื่อผลิต 15 คันสุดท้ายทดแทนคันที่สูญหายไป
![](https://mono29.com/app/uploads/2022/09/Lamborghini-Aventador-04.jpg)
Lamborghini Aventador เปิดตัวครั้งแรกที่งานเจนีวามอเตอร์โชว์ในปี 2011 ที่ผ่านมา ประเดิมด้วยรุ่น LP 700-4 มาพร้อมเครื่องยนต์รุ่นใหญ่สุดอย่างเครื่องยนต์ V12 ทำมุม 60˚ ความจุ 6.5 ลิตร
Stephan Winkelmann ประธานและ CEO ของ Automobili Lamborghini กล่าวว่า “Lamborghini Aventador เป็นผู้พลิกเกมเมื่อเปิดตัว และเป็นรุ่นเรือธงของ Lamborghini ที่ผลิตยาวนานกว่า 11 ปี ซึ่งรถรุ่นนี้เป็นการก้าวกระโดดของสองเจนเนอเรชั่นในแง่ของการออกแบบที่โดดเด่น เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและล้ำสมัย และประสิทธิภาพที่ล้นหลาม”
![](https://mono29.com/app/uploads/2022/09/Lamborghini-Aventador-05.jpg)
ตลอดอายุขับของ Aventador ได้สร้างความความสำเร็จในด้านการขายมากกว่ารถ V12 รุ่นก่อน ๆ ของแบรนด์ทุกรุ่น ซึ่งหลังจากผ่านไปห้าปี สามารถทำยอดขายเท่ากับ Murcielago ที่ 5,000 คัน และตอนนี้ก็สามารถยอดขายมากกว่า V12 Lamborghinis รุ่นอื่น ๆ รวมกัน
“เครื่องยนต์ V12 เป็นส่วนหนึ่งของมรดกของแลมโบร์กินีตั้งแต่เริ่มแรกของบริษัท ตั้งแต่ Miura ถึง Diablo, Countach และ Murciélago” Winkelmann กล่าว
![](https://mono29.com/app/uploads/2022/09/Lamborghini-Aventador-06.jpg)
แม้ว่าจะเป็นการปิดฉากเครื่องยนต์ V12 แบบ NA ของแบรนด์ แต่ในอนาคตทางบริษัทฯ จะพัฒนาเครื่องยนต์ V12 พ่วงระบบปลั๊กอินไฮบริด รวมถึงเสริมกำลังขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอีกด้วย ประกอบกับ Aventador จะยังคงเป็นองค์ความรู้ นวัตกรรม และประสบการณ์ของการพัฒนาซูเปอร์คาร์ของแบรนด์ ที่จะสานต่อสู่ความท้าทายแห่งอนาคต ประกอบกับ Aventador เองจะเป็นไอคอนนิกแห่งสมรรถนะ และบุคลิกที่ล้ำเหนือกาลเวลาตลอดไป
เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com