อีกหนึ่งโมเดลใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ไทยฮอนด้าอย่าง All-New Honda LEAD125 กับการพลิกโฉมรถจักรยานยนต์ เอ.ที. สไตล์มินิมอลที่ยกระดับความ “เจ๋ง” อย่างมีนัยยะสำคัญ ด้วยฟีเจอร์ใหม่ ที่ตอบโจทย์สไตล์คนเมือง ได้อย่างครบครัน ทั้งรูปลักษณ์ สมรรถนะ ความประหยัด ความคล่องตัว และความคุ้มค่า ซึ่งหลังจากที่ได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากแฟน ๆ รถจักรยานยนต์เอ.ที.
แต่ก็มีหลาย ๆ คนต่างตั้งคำถามว่า “แล้วต่างจากโฉมปี 2021 อย่างไร?”
ซึ่งทางทีมงาน ได้มีโอกาสสัมผัสกับตัวตนของรถจักรยานยนต์เอ.ที. สไตล์มินิมอล ในกิจกรรม “LIVE A MINIMAL LIFE มินิมอลในแบบที่เป็นคุณ” กับ Honda LEAD125 โฉมใหม่อย่างใกล้ชิด ภายใต้บรรยากาศคาเฟ่และร้านอาหารสไตล์มินิมอลสุดชิค ซึ่งทีมงานก็ได้เห็นถึงความแตกต่างจากโฉมก่อนหน้าที่มากกว่าแค่รูปลักษณ์เพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็น
ตัวถังสีใหม่ พร้อมดีเทลที่เรียบ แต่สง่างาม
จากเดิมจะมี 3 สีให้เลือกด้วยกัน ได้แก่ ขาวครีม-เบาะหนังสีน้ำตาลทูโทน, สีแดง เบาะสีดำ และสีดำ เบาะสีน้ำตาลทูโทน ซึ่งในโฉมใหม่ จะมี 3 สีให้เลือก แต่ให้ความโดดเด่นมากกว่า ไม่ว่าจะเป็น
สีขาวที่ออกโทนงาช้าง กับเบาะสีน้ำตาลทูโทน ที่เข้ากับโครเมียมได้เป็นอย่างดี
สีแดง –เบาะสีน้ำตาลทูโทน ที่มอบความสง่างามแต่ไม่ทิ้งความสปอร์ตแบบเดิม (ความเห็นส่วนตัวดูสวยกว่าสีแดงดำเดิม)
และสีน้ำเงินโทนกรมท่า – เบาะสีดำสุดคูล
ขณะเดียวกัน Honda LEAD125 โฉมใหม่นี้ มาพร้อมกับการตกแต่งแฟริ่งหน้าด้วยการเพิ่มชิ้นส่วนทรง V ชุบโครเมียม, บริเวณไฟเลี้ยวข้างแฟริ่งจะมีโทนสีเข้มกว่าเดิม และบริเวณใต้เบาะด้านหน้าได้เพิ่มชิ้นส่วนสีเงินทำให้รถมีความโดดเด่นอย่างมาก
และหากสังเกตดี ๆ กระจกมองข้างจะมีรูปทรงที่ต่างจากเดิม…เล็กน้อย
สำหรับฟีเจอร์อื่น ๆ อาทิ Crown Shaped Lamp LED Headlight และไฟหน้า Position Lamp, ไฟท้าย LED, Rotation Hook และแร็คท้ายไม่ต่างจากเดิม แต่โดยรวมมีความสวยงาม น่าดึงดูดใจยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ความอเนกประสงค์ที่มากขึ้น ตอบรับไลฟ์สไตล์ดิจิทัล
แน่นอนว่าใน Honda LEAD125 ยังคงมาพร้อมกับพื้นที่ใต้เบาะ U-Box บิ๊กไซส์ขนาด 37 ลิตร ที่ใหญ่ที่สุดในรถ เอ.ที. ขนาด 125 ซีซี สามารถเก็บหมวกกันน็อกเต็มใบได้ถึง 2 ใบ ไม่ว่าจะช้อปปิ้ง ออกทริปกับคนคู่ใจ หรือขนพร็อพจัดกิจกรรมก็ทำได้อย่างเต็มที่
แต่ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ด้วยช่องเก็บของด้านหน้าทรงสูง 12 ซม. ขนาดเหมาะสำหรับใส่สมาร์ทโฟน พร้อมช่องชาร์จไฟสำรองแบบ USB Type A รองรับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลอย่างลงตัว
ยังคงความสะดวกสบายในการเติมน้ำมันด้วยถังน้ำมันด้านหน้าขนาดใหญ่ 6 ลิตร ที่เติมน้ำมันง่ายโดยไม่ต้องเปิดเบาะ และไม่ต้องลงจากรถ
ส่วนเรือนไมล์เรืองแสงพร้อมจอ LCD ยังคงไว้ด้วยการอ่านค่าที่ง่ายในทุกสภาวะการขับขี่ รวมถึงปุ่มควบคุมที่ออกแบบให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เพื่อให้ง่ายในการขับขี่ และใช้เวลาเพลิดเพลินไปกับการเดินทางในเมืองได้เต็มที่
และครั้งแรกใน Honda LEAD125 มาพร้อม Honda Smart Key ที่ใช้งานสะดวกสบาย พร้อมระบบป้องกันการโจรกรรมด้วย
ใหม่ เครื่องยนต์ eSP+ 125 ซีซี ประเดิมครั้งแรกในรุ่นนี้
มาถึงไฮไลท์สำคัญของ Honda LEAD125 กับการมาของเครื่องยนต์ eSP+ ขนาด 125 ซีซี ที่อัปเกรดเพิ่มจาก 2 วาล์ว เป็น 4 วาล์ว พร้อมกับปรับความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก 53.5 ม.ม. x 55.5 ม.ม. (จากเดิม 52.4 ม.ม. x 57.9 ม.ม.) เพื่อให้ได้อัตราส่วนกำลังอัดจาก 11.0 : 1 เป็น 11.5 : 1 ซึ่งจะช่วยเพิ่มผิวสัมผัสระหว่างวาล์ว ทำให้อัตราเร่งเร็วเร็วขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนี้ยังอัปเกรดชุดเพลาข้อเหวี่ยงใหม่ได้เพิ่ม Roller Bearing ตรงบริเวณด้านขวาของข้อเหวี่ยง ช่วยป้องกันให้ไม่เกิดการเผาไหม้ต่อรอบที่สูงจนเกินไป เสริมความแข็งแรง และลดแรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์, ระบบฉีดน้ำมันหล่อลื่นใต้ลูกสูบ หรือ Piston Oil Jet ช่วยลดแรงเสียดทาน และระบายความร้อนในเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น, สายพานคู่ที่มีฟันด้านในและด้านนอก ทนต่อแรงดันจากด้านข้าง และไม่เกิดการแกว่งของสายพาน ช่วยลดแรงเสียดทาน และระบายความร้อนในเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น
ทั้งหมดนี้ จึงมอบสมรรถนะเต็มกำลัง แรงขึ้น ลื่นขึ้น ขับขี่นุ่มนวล ให้ฟิลลิ่งที่สนุกและผ่อนคลาย และที่ขาดไม่ได้ยังมอบความมั่นใจในยุคน้ำมันแพงด้วยอัตราประหยัดน้ำมันสูงถึง 52.6 กม./ลิตร หรือประหยัดกว่าเดิม 2.6 กม./ลิตร
เติมเต็มความประหยัดน้ำมันด้วยระบบหยุดเครื่องยนต์อัตโนมัติ Idling Stop System เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันในระหว่างหยุดรถ
ขับขี่ในเมืองได้อย่างสนุก และอุ่นใจด้วยดิสก์เบรกหน้า พร้อมระบบ Combi Brake ช่วยกระจายแรงเบรกหน้า-หลังให้สมดุล ซึ่งระบบนี้ยังคงส่งมอบจากโฉมเก่าสู่โฉมใหม่ด้วยเช่นกัน
ปรับปรุงมิติตัวรถใหม่ สง่างามทุกลีลา
แม้ว่า Honda LEAD125 โฉมใหม่ยังคงใช้เฟรมรถแบบอันเดอร์โบนเหมือนโฉมเก่า พร้อมขนาดความกว้าง 680 มม. ความสูง 1,130 มม. และน้ำหนักรถเปล่า 114 กก. เท่าเดิม แต่ตัวรถยาวขึ้นเล็กน้อยจาก 182 มม. เป็น 184 มม. (เพิ่ม 2 มม.) และความสูงใต้ท้องรถที่เพิ่มจาก 138 มม. เป็น 140 มม. (เพิ่ม 2 มม. เช่นกัน) ทำให้ตัวรถดูสูง และเพียวขึ้นเล็กน้อย
สำหรับตำแหน่งท่านั่งของฝั่งคนขับสำหรับคนตัวใหญ่กว่า 180 ซม. อาจจะรู้สึกว่าฟิตนิดนึง โดยเฉพาะตำแหน่งวางขา และตำแหน่งจับแฮนด์ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการนั่งขับขี่ทางไกลนาน ๆ ได้ จึงทำให้รถรุ่นนี้เหมาะกับคนที่ตัวเล็ก ๆ หรือสุภาพสตรีเป็นหลัก ส่วนตำแหน่งซ้อนท้าย แม้เบาะหลังจะใหญ่ แต่ช่วงซุ้มล้อหลังก็มีความกว้างพอสมควร
ส่วนช่วงล่างยังคงใช้ระบบกันสะเทือนล้อหน้าเทเลสโคปิค และยูนิตสวิงที่ล้อหลัง พร้อมล้อแม็กหน้า 12 นิ้ว หลัง 10 นิ้ว หุ้มยางหน้า 90/90-12 44J และยางหลัง 100/90-10 56J เท่ากัน ซึ่งลงตัวไปกับตัวรถเอ.ที คลาส 125 ซีซี โดยรวมได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ หรือแม้แต่การควบคุมรถก็ตาม
ราคา
Honda LEAD125 โฉมเก่า 55,500 บาท
All-New Honda LEAD125 58,500 บาท
แม้จะเพิ่มถึง 3,000 บาทโดยประมาณ แต่สิ่งที่ได้รับเพิ่มคือมีฟีเจอร์สมัยใหม่ที่สะดวกสบาย ตอบโจทย์คนมีสมาร์ทโฟน รูปลักษณ์มินิมอลที่สง่างาม ทันสมัยน่าดึงดูดกว่าเดิม และขุมพลังใหม่ที่ให้สมรรถนะดีขึ้น ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม โดยที่ยังคงไว้การใช้งานที่ง่ายสไตล์คนเมือง
Honda LEAD 125 เป็นรถที่ถูกพัฒนาให้มีความมินิมอล เรียบง่าย แต่ดูดี สามารถเข้ากับไลฟ์สไตล์ได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ แถมใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์เกินคุ้ม และจุดเด่นสำคัญอยู่ที่ขุมพลัง eSP+ สี่วาล์วใหม่ล่าสุดที่ให้สมรรถนะที่ดีกว่าเดิม ประหยัดน้ำมันมากขึ้น เมื่อรวมกับตัวรถที่คล่องตัวในการขับขี่ในเมือง ถือเป็นรถจักรยานยนต์เอ.ที. อีกหนึ่งรุ่นที่คุณไม่ควรมองข้าม
ขอขอบคุณภาพประกอบ และกิจกรรมดี ๆ จากทีมงานไทยฮอนด้า มาใน ณ ที่นี้