คัดลอก URL แล้ว
Mercedes-Benz GLC สปอร์ตครอสโอเวอร์โฉมใหม่ พร้อมเทคโนโลยีที่เอาใจสาย Off-Road

Mercedes-Benz GLC สปอร์ตครอสโอเวอร์โฉมใหม่ พร้อมเทคโนโลยีที่เอาใจสาย Off-Road

Mercedes-Benz GLC

Mercedes-Benz ประกาศเปิดตัว The new GLC สปอร์ตครสอโอเวอร์หรูเจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการยกระดับทั้งการดีไซน์ใหม่ สปอร์ตโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น ฟีเจอร์อำนวยความสะดวก และความปลอดภัยใหม่ ๆ รวมถึงการยกระดับขุมพลังไฮบริดเต็มรูปแบบที่ให้ประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น

รูปลักษณ์ภายนอกใหม่ สปอร์ตล้ำ แอโร่ไดนามิกที่ดีขึ้นกว่าเดิม

Mercedes-Benz GLC

The new GLC มาพร้อมกับรูปลักษณ์ใหม่ที่สปอร์ตทันสมัยยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าใหม่, ไฟหน้า DIGITAL LIGHT ทรงใหม่, ช่องไอดีใหม่, ไฟท้ายใหม่

รวมถึงการปรับขนาดตัวถังใหม่ให้มีความเตี้ยลง 4 มม ยาวขึ้น 60.96 มม. ด้วยยาวใหม่ 4,716 มม. ฐานล้อยาวถึง 2,888 มม. และความกว้างด้านหน้า กับความกว้างด้านหลังเพิ่มขึ้น 6.09 และ 23.11 มม. จนทำให้ตัวรถมีความโฉบเฉี่ยว โออ่า ดูกว้างขวางยิ่งขึ้น ที่สำคัญ ยังทำให้ห้องสัมภาระท้ายมีความจุเพิ่มอีก 70.7 ลิตร เป็น 620.1 ลิตร

Mercedes-Benz GLC

นอกจากการเปลี่ยนแปลงของขนาดรถแล้ว ยังมีการปรับเส้นสายใหม่เพื่อให้ค่าสัมประสิทธิ์ต้านทานอากาศจากเดิม 0.31 Cd เป็น 0.29 Cd

ภายในที่เปี่ยมไปด้วยฟีเจอร์ล้ำ ๆ หลายรายการ

Mercedes-Benz GLC

ด้านภายในโดดเด่นด้วยจออินโฟเทนเมนต์ขนาดใหญ่ 11.9 นิ้ว และจอเรือนไมล์ 12.3 นิ้ว ที่ได้รับการออกแบบให้ลอยขึ้นจากแผงคอนโซล พร้อมวัสดุตกแต่งสุดหรู ซึ่งสิ่งที่ปรากฎนี้ ล้วนเป็นออพชั่นมาตรฐาน เช่นเดียวกับระบบเชื่อมต่อ Android Auto, Apple CarPlay, แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย และเครื่องสแกนลายนิ้วมือที่บันทึกข้อมูลของผู้ขับขี่ที่จะได้รับพร้อม ๆ กันในทุกรุ่นย่อย

เทคโนโลยี MBUX ได้รับการพัฒนาให้ฉลาดขึ้น ตอบสนองต่อคำสั่งได้ดีขึ้น และมาพร้อมฟังก์ชัน MBUX Smart Home ที่จะเปลี่ยน GLC ให้เป็นศูนย์ควบคุมอุปกรณ์เคลื่อนที่สำหรับบ้านส่วนตัว

ระบบเสียงเซอร์ราวด์ Burmeste ที่เป็นตัวเลือกให้ประสบการณ์การฟังที่ไม่เหมือนใครด้วยลำโพงระดับพรีเมี่ยม 15 ตำแหน่ง กำลังขับทั้งหมด 710 วัตต์

Mercedes-Benz GLC

แต่สิ่งที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟของรุ่นนี้อยู่ที่จอ Head-up Display แบบใหม่ล่าสุด เรียกว่า “Transparent Hood” ที่มาพร้อมกับการฉายข้อมูลการขับขี่จากจออินโฟเทนเมนต์สู่จอบนกระจกหน้ารถ ซึ่งจะระบุข้อมูลเสมือนจริงตั้งแต่เส้นทาง ทิศทาง, สภาพเส้นทางด้านหน้า, ตำแหน่งล้อ และตำแหน่งพวงมาลัย ซึ่งช่วยยกระดับความมั่นใจในการขับขี่แบบออฟโรดได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการแสดงข้อมูลองศาการเอียง หรือระดับน้ำ ซึ่งการที่จะได้ระบบ Transparent Hood ลูกค้าจะต้องซื้อรุ่นระดับบน ๆ หรือตัวท็อป ที่จะได้รับกล้อง 360 องศา

ขณะเดียวกันในรุ่น Pinnacle trim สามารถเพิ่มกล้อง dashcam 720p พร้อมระบบบันทึกภาพ ข้อมูลรถ ความเร็ว และเวลา

ขุมพลังไฮบริด – PHEV ที่ทรงพลังขึ้น

Mercedes-Benz GLC

The new GLC จะมาพร้อมกับขุมพลังไฮบริดในทุกรุ่นย่อย ตั้งแต่ขุมพลัง Mild-Hybrid เครื่องยนต์เบนซิน กับเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ พ่วงระบบมอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ISG

รวมถึงรุ่นบน ๆ จะได้รับขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด ซึ่งรุ่นท็อปสุดจะให้กำลังสูงสุดถึง 381 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ใหระยะทางในการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลสุดถึง 100 กิโลเมตร (WLTP)

Mercedes-Benz GLC

แบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงที่มีความจุสูงสุด 31.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่รองรับชาร์จให้เต็มด้วยเครื่องชาร์จ DC 60 กิโลวัตต์ ที่สามารถชาร์จไฟได้เต็มภายใน 30 นาที ซึ่งเป็นอุปกรณ์ กับเครื่องชาร์จขนาด 11 กิโลวัตต์สำหรับการชาร์จไฟฟ้ากระสแสลับแบบสามเฟสเป็นออพชั่นมาตรฐาน

Mercedes-Benz GLC

ด้านช่วงล่างจะได้รับทั้งระบบกันสะเทือนล้อหน้าแบบโฟร์ลิงค์แบบใหม่ และระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระมัลติลิงค์ ที่ให้ความสบายในการขับขี่ ลดเสียงรบกวนได้มากกว่าเดิม การควบคุมที่คล่องตัว และความเพลิดเพลินในการขับขี่ ขณะเดียวกันก็มีตัวเลือกโช้คอัพถุงลม AIRMATIC พร้อมกับการอัปเกรดพวงมาลัยล้อหลังใหม่ เพื่อปรับมุมบังคับเลี้ยวที่เพลาล้อหลังสูงถึง 4.5 องศา ซึ่งจะช่วยลดระยะวงเลี้ยวลง 80 เซนติเมตร เหลือ 11.0 เมตร

แพ็คเกจเสริมเติมเต็มความสุขและความอุ่นใจในการเดินทาง

Mercedes-Benz GLC

ลูกค้าที่เลือกซื้อ The new GLC จะสามารถเลือกเพิ่มแพ็คเกจเสริม เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ยิ่งขึ้น อาทิ New Parking Package ที่จะได้รับเทคโนโลยี Active Park Assist พร้อมกล้อง 360 องศา, The Driving Assistance package ที่จะได้รับ Adaptive Cruise Control กับระบบช่วยควบคุมพวงมาลัย และระบบเตือนป้ายจราจร, Guard 360 จะได้รับระบบแจ้งเตือนรถโดยรอบแบบ Full-Time พร้อมระบบหลบหลีกรถพ่วง,

ENERGIZING Plus เพิ่มความสะดวกสบายด้วยการตั้งค่าภายในให้เป็นสถานที่ผ่อนคลายขั้นสูง, ENERGIZING COACH แนะนำโปรแกรมฟิตเนสหรือสุขภาพที่เหมาะ ข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพการนอนหลับและระดับความเครียดมารวมไว้ในอัลกอริธึมอัจฉริยะ เป็นต้น, ENERGIZING AIR CONTROL ระบบตรวจสอบคุณภาพอากาศภายในรถยนต์อย่างชาญฉลาดพร้อมระบบฟอกอากาศขั้นสูง และ AIR-BALANCE package มอบประสบการณ์กลิ่นหอมอันละเอียดอ่อนเฉพาะบุคคลภายในห้องโดยสาร – ตามความชอบส่วนตัวและขึ้นอยู่กับอารมณ์

Mercedes-Benz GLC

รายละเอียดสเปคเต็ม ๆ และราคา The new GLC จะเปิดเผยเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้

เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง