ประเด็นสำคัญ:
- ข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เผยข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด ในประเภทธรุกิจจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล
- การมาของ Tesla สำหรับจำหน่ายในไทย หากเป็นรถนำเข้าจะเป็นรถที่ผลิตจากประเทศใด เช่น อินโดนิเซีย หรือจีน
สร้างความฮือฮาไม่น้อยสำหรับคนรักรถยนต์ไฟฟ้า และผู้ติดตามข่าววงการยานยนต์ เมื่อไม่นานมานี้ได้มีข้อมูลว่า Tesla จะมีแผนทำตลาดในประเทศไทย พร้อมกับได้ทำการจดทะเบียนบริษัทฯ อย่างเป็นทางการแล้ว เตรียมนับถอยหลังเปิดตัวในไทยเร็ว ๆ นี้
จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เผยข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด หมายเลขทะเบียนนิติบุคคล 0105565069229 โดยได้จดทะเบียนเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ด้วยทุนจดทะเบียนกว่า 3 ล้านบาท
ส่วนประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนคือ “45101 การขายยานยนต์ใหม่ชนิดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลรถกระบะรถตู้ และรถขนาดเล็กที่คล้ายกัน” และวัตถุประสงค์ตอนจดทะเบียนคือ “ประกอบกิจการเขายรถยนต์ไฟฟ้า ระบบเก็บพลังงานแบบติดตั้งและอุปกรณ์ที่ใช้กับระบบเก็บพลังงานแบบติดตั้ง ระบบผลิตพลังงานและอุปกรณ์ที่ใช้กับระบบพลังงาน”
สำหรับรายชื่อคณะกรรมการ ประกอบด้วย มร. เดวิด จอน ไฟน์สไตน์, มร. ยารอน ไคลน์ และมร. ไวภา ตเนชา ซึ่งทั้งสามคนเป็นผู้บริหารของเทสล่า และมีสองคนที่บริหารดูแลสาขาในอินเดีย สำหรับสถานที่จดทะเบียนจะอยู่ที่อาคารเอ็มไทย ทาวเวอร์ ออล ซีซั่นส์ เพลส ถนนวิทยุ
ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่า Tesla เตรียมเดินหน้าบุกตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอยย่างเต็มรูปแบบนับตั้งแต่หลังจากที่ภาครัฐส่งเสริมให้ผู้ใช้รถหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นด้วยการลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์, ลดอากรขาเข้าทั้งตัวรถยนต์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนสำหรับประกอบรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ CKD หรือแม้แต่เงินอุดหนุนสำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นผลดีต่อแบรนด์ และผู้บริโภค
ถึงจะมาช้า แต่ก็มาได้ถูกจังหวะ
คำถามสำคัญคือ การมาของบริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด จะมาในรูปแบบใด ทั้งการจัดตั้งโรงงานประกอบรถ หรือเป็นบริษัทผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และหากไทยไม่ได้เป็นผู้ผลิต ผู้บริโภคจะได้รถสเปคอะไร
ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีข่าวว่าทาง Tesla ได้เลือกประเทศอินโดนิเซียเป็นฐานการผลิตแบตเตอรี่ และรถยนต์ไฟฟ้าเนื่องจากประเทศอินโดนีเซียเป็นผู้ผลิตแร่นิกเกิลรายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังอยู่ในระหว่างการเจรจา
หรือจะเป็นสเปคจีนจากโรงงาน Tesla Giga Shanghai ที่ได้บุกเบิกฐานการผลิตในภูมิภาคเอเชีย และกำลังมีแผนขยายฐานการผลิตสำหรับ “ศูนย์กลางการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ซึ่งจะมีกำลังการผลิตสูงถึง 450,000 คัน/ปี (ข้อมูลล่าสุด 4 พฤษภาคม 2022) และอาจจะรองรับการผลิตพวงมาลัยขวาด้วย
น่าจับตาไม่น้อยว่าการมาของ Tesla ในตลาดไทย ที่ไม่ได้มาจากตลาดรถนำเข้าเหมือนเมื่อก่อนจะได้รถที่ผลิตจากประเทศใด ซึ่งจะส่งผลต่อราคาขายปลีกในไทยเป็นอย่างมาก อีกสิ่งที่น่าจับตาไม่แพ้กันคือกลยุทธ์การจูงใจลูกค้าจะสามารถต่อกรกับรถเจ้าตลาดทั้งจากจีน ยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่ทำตลาดและทำการบ้านมาอย่างเข้มข้นมาแล้ว
เครดิตข้อมูลจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ scmp.com