กรมส่งเสริมวัฒนธรรประกาศผลการคัดเลือกกิจกรรม “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ประจำปี 2566 บอกเลยว่าบางเมนูไม่คุ้นชื่อ เป็นเมนูที่อาจจะเกือบหายไปแล้ว คนรุ่นใหม่อาจจะไม่ค่อยรู้จัก ลองไปอัปเดตกันว่าเมนูที่ได้รับคัดเลือกนั้นเป็นเมนูที่คุณเคยกินแล้วหรือยัง?
เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2566 กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ออกประกาศ เรื่องผลการคัดเลือกกิจกรรม “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) “รสชาติ…ที่หายไป The Lost Taste” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ของอาหารไทย อาหารท้องถิ่น ที่มีความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตคนไทย รวมถึงการรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศ รวมทั้งเสนอสาระความรู้เกี่ยวกับอาหารไทย และอาหารท้องถิ่น ต่อยอดสมุนไพรไทย สรรพคุณทางเลือกและส่งต่อเป็นภูมิปัญญาที่มีการสืบทอดรุ่นสู่รุ่น อีกทั้งเป็นการส่งเสริมศักยภาพของเครือข่ายวัฒนธรรมในการบริหารจัดการงานวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมท้องถิ่นนั้น
ทั้งนี้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้พิจารณาคัดเลือกกิจกรรม “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” โดยมีรายการอาหารที่ได้รับการคัดเลือกเป็น “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 77 เมนู ดังนี้
ต้มปลาร้าหัวตาล : ชัยนาท ที่มา: กรมส่งเสริมวัฒนธรรม
1.ข้าวตอกตั้ง : กรุงเทพมหานคร
2.แกงมัสมั่นกล้วยไข่ : กำแพงเพชร
3.ยำไกน้ำของ (สาหร่ายแม่น้ำโขง) : เชียงราย
4.ตำจิ๊นแห้ง : เชียงใหม่
5.เมี่ยงจอมพล : ตาก
6.ทอดมันปลากราย : นครสวรรค์
7.แกงแคไก่พื้นเมือง : น่าน
8.หลนปลาส้มพะเยา : พะเยา
9.ยำส้มโอกระทงทองสูตรเมืองชาละวัน : พิจิตร
10.น้ำพริกเม็ดบัวปลาย่าง : พิษณุโลก
11.ปิ้งไก่ข้าวเบือ : เพชรบูรณ์
12.น้ำพริกน้ำย้อย : แพร่
13.ข้าวส้ม โถ่โก้ : แม่ฮ่องสอน
14.ยำปลาแห้ง : ลำปาง
15.แกงฮังเลลำไย อำเภอเมืองลำพูน : ลำพูน
16.ข้าวเปิ๊บสุโขทัย : สุโขทัย
17.อั่วบักเผ็ด : อุตรดิตถ์
18.ข้าวแดะงา : กาฬสินธุ์
19.ปลาแดกบองสมุนไพร : ขอนแก่น
20.คั่วเนื้อคั่วปลา : ชัยภูมิ
21.เมี่ยงตาสวด : นครพนม
เมี่ยงคำ (โคราช) ที่มา : กรมส่งเสริมวัฒนธรรม
22.เมี่ยงคำ (โคราช) : นครราชสีมา
23.หมกหม้อปลาน้ำโขง : บึงกาฬ
24.ขนมตดหมา : บุรีรัมย์
25.แจ่วฮ้อนท่าขอนยาง : มหาสารคาม
26.ตำเมี่ยงตะไคร้ ลำข่าสดใส่มดแดง : มุกดาหาร
27.อั่วกบ (กบยัดไส้) : ยโสธร
28.ข้าวปุ้นน้ำยาปลาหลด : ร้อยเอ็ด
29.ส้าปลาน้ำโขง : เลย
30.ละแวกะตาม : ศรีสะเกษ
31.แกงหวาย : สกลนคร
32.เบาะโดง (น้ำพริกมะพร้าวโบราณ) : สุรินทร์
33.หลามปลาน้ำโขง : หนองคาย
34.เมี่ยงคำลำภู : หนองบัวลำภู
35.อู๋พุงปลา : อำนาจเจริญ
36.ข้าวต้มมัดบัวแดง อำเภอเมืองอุดรธานี : อุดรธานี
37.ลาบหมาน้อย : อุบลราชธานี
38.แกงส้มญวน : กาญจนบุรี
39.ต้มปลาร้าหัวตาล : ชัยนาท
40.ยำส้มโอ : นครปฐม
41.ข้าวตอกน้ำกะทิทุเรียนนนท์ : นนทบุรี
42.เมี่ยงคำบัวหลวง : ปทุมธานี
43.แกงคั่วส้มหน่อธูปฤาษีกับปลาช่อนย่าง : ประจวบคีรีขันธ์
แกงเหงาหงอด : พระนครศรีอยุธยา ที่มาภาพ : กรมส่งเสริมวัฒนธรรม
44.แกงเหงาหงอด : พระนครศรีอยุธยา
45.แกงหัวตาล : เพชรบุรี
46.แกงกะลากรุบ : ราชบุรี
47.ยำปลาส้มฟัก : ลพบุรี
48.แกงรัญจวน : สมุทรสงคราม
49.ต้มยำปลาทูโบราณ : สมุทรสาคร
50.แกงบวน : สิงห์บุรี
51.ปลาหมำสมุนไพรทอดกรอบ : สุพรรณบุรี
52.ปลาแนม : อ่างทอง
53.ต้มส้มปลาแรด : อุทัยธานี
54.ลุกกะทิ หรือน้ำพริกกะทิชองพร้อมผักเคียง : จันทบุรี
55.หมูหงส์ : ฉะเชิงเทรา
56.ปลาคก : ชลบุรี
57.แกงเลียงกะแท่งหอยนางรม : ตราด
58.น้ำพริกป่ามะดัน : นครนายก
59.แกงกะทินางหวาน : ปราจีนบุรี
60.แกงส้มผักกระชับ : ระยอง
61.ขนมย่างจากใจ : สมุทรปราการ
62.น้ำพริกกะสัง : สระแก้ว
63.ลาบหัวปลี : สระบุรี
64.ปลาจุกเครื่อง : กระบี่
65.แกงส้มหยวกกล้วยกับหมูสามชั้น : ชุมพร
66.โกยุก : ตรัง
67.ขนมปะดา : นครศรีธรรมราช
68.อาเกาะ : นราธิวาส
69.ข้าวยำ : ปัตตานี
70.อาจาดหู : พังงา
71.แกงขมิ้น : พัทลุง
72.น้ำซุปเมืองหลาง 9 อย่าง : ภูเก็ต
73.ข้าวยำโจร (ข้าวยำคลุกสมุนไพร) : ยะลา
74.ก็กซิมบี้ : ระนอง
75.ข้าวสตู : สงขลา
76.ข้าวเหนียวเหลืองแกงแพะ : สตูล
77.แกงขมิ้นไตปลาโบราณ : สุราษฎร์ธานี
เมี่ยงคำบัวหลวง : ปทุมธานี
ที่มา : กรมประชาสัมพันธ์, กรมส่งเสริมวัฒนธรรม