คัดลอก URL แล้ว
“ไฟรั่วในน้ำ” วิธีสังเกตและป้องกัน ไฟรั่ว ในช่วงน้ำท่วม

“ไฟรั่วในน้ำ” วิธีสังเกตและป้องกัน ไฟรั่ว ในช่วงน้ำท่วม

น้ำ เป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดีเยี่ยม และการมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลลงสู่แหล่งน้ำ พื้นผิวเปียก หรือแม้แต่ในสระว่ายน้ำ ถือเป็น อันตรายถึงชีวิต ที่หลายคนมองข้าม ปรากฏการณ์ “ไฟรั่วในน้ำ” สามารถทำให้เกิดอาการช็อก หมดสติ หรือเสียชีวิตได้ในทันที หากเราทราบวิธีการสังเกตและมีมาตรการป้องกันที่ถูกต้อง ก็จะสามารถปกป้องตนเองและคนที่เรารักจากภัยเงียบนี้ได้

สัญญาณบ่งชี้ “ไฟรั่ว” ที่คุณต้องสังเกต (รีบออกจากน้ำทันที!)

การสังเกตเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก หากพบสัญญาณเหล่านี้ ควรรีบออกจากบริเวณน้ำทันที และตัดกระแสไฟฟ้าหลักของพื้นที่นั้น:

ความรู้สึกผิดปกติทางร่างกาย:
– รู้สึกเหมือนมีอะไร ยุบยิบ, แสบแปลบ, หรือรู้สึกเหมือนถูกดูด บริเวณผิวหนังเมื่อสัมผัสน้ำ
– กล้ามเนื้อเกร็ง หรือรู้สึกว่า ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

สังเกตจากผู้คนรอบข้าง:

- ผู้ที่อยู่ในน้ำมีอาการ ชักกระตุก หรือหมดสติโดยไม่มีสาเหตุ
- มีอาการ พยายามว่ายน้ำแต่ไม่สามารถเข้าถึงขอบสระได้

สังเกตจากอุปกรณ์ไฟฟ้า:
– มอเตอร์ปั๊มน้ำ หรือเครื่องทำน้ำอุ่น ส่งเสียงดังผิดปกติ, มีควัน, หรือมีกลิ่นไหม้
– ไฟส่องสว่างใต้น้ำดับ หรือมีอาการกระพริบผิดปกติ

3 มาตรการป้องกัน “ไฟรั่วในน้ำ” ที่ต้องปฏิบัติ

ความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยการติดตั้งและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ:

1.ติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่ว (RCD/เบรกเกอร์กันดูด)

RCD (Residual Current Device) คือ อุปกรณ์ป้องกันที่สำคัญที่สุดในพื้นที่ที่มีความชื้นหรือน้ำ
หลักการทำงาน: อุปกรณ์นี้จะตรวจจับการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าลงดิน หากพบว่ามีการรั่วไหลเกินกว่าค่ากำหนด (โดยทั่วไปคือ $30 \text{ mA}$) มันจะตัดไฟทันทีภายในเวลาไม่กี่มิลลิวินาที ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการป้องกันชีวิต
ข้อแนะนำ: ควรติดตั้ง RCD สำหรับวงจรไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำโดยเฉพาะ เช่น ปั๊มน้ำ, เครื่องทำน้ำอุ่น, ไฟส่องสว่างในสวน หรือระบบไฟฟ้าสระว่ายน้ำ

2.ตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบสายดิน (Grounding System)

3.ใช้และดูแลสภาพอุปกรณ์ไฟฟ้าที่กันน้ำ

ข้อควรระวังพิเศษ: การป้องกันไฟรั่วในช่วงน้ำท่วม

เมื่อเกิดภาวะน้ำท่วม ระดับน้ำที่สูงขึ้นทำให้ความเสี่ยงจากไฟรั่วเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ เนื่องจากน้ำเข้าถึงปลั๊กไฟ, เต้าเสียบ, และอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น:

ตัดไฟหลักทันทีที่น้ำเริ่มเข้าท่วม:

ย้ายอุปกรณ์ไฟฟ้าให้พ้นน้ำ:

หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำใกล้แหล่งไฟฟ้า:

ห้ามสัมผัสเสาไฟหรือสายไฟที่ขาด:

ความปลอดภัยเริ่มจากการใส่ใจ

“ไฟรั่วในน้ำ” คือภัยพิบัติทางไฟฟ้าที่ร้ายแรง การพึ่งพาเพียงการติดตั้งครั้งเดียวไม่เพียงพอ ความปลอดภัยต้องมาพร้อมกับการสังเกตและการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง การลงทุนในเบรกเกอร์กันดูด (RCD) ที่ได้มาตรฐานและการตรวจสอบระบบสายดินเป็นประจำ คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน หากคุณไม่แน่ใจในการตรวจสอบหรือการติดตั้ง ควรปรึกษาช่างไฟฟ้าผู้เชี่ยวชาญที่มีใบอนุญาตเพื่อทำการประเมินระบบไฟฟ้าในพื้นที่เปียกชื้นของคุณอย่างละเอียดถี่ถ้วน


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง