เดอะวอชิงตันโพสต์อ้างอิงผลสำรวจของคณะแพทย์และผู้ให้บริการดูแลสุขภาพ รายงานว่ากลุ่มบริษัทประกันสุขภาพของสหรัฐฯ ปฏิเสธคำร้องค่าสินไหมทดแทนค่ารักษาพยาบาลของผู้ป่วยหลายสิบล้านรายในแต่ละปีและมีแนวโน้มปฏิเสธเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะหลายผลสำรวจลักษณะเดียวกันพบว่าบรรดาบริษัทประกันสุขภาพของสหรัฐฯ กำหนดว่าคณะแพทย์ต้องได้รับการอนุมัติก่อนดำเนินการรักษาเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการดูแลรักษาผู้ป่วย ซึ่งสมาคมการแพทย์อเมริกันชี้ว่า “เป็นเรื่องร้ายแรง”
แม้หลายรัฐของสหรัฐฯ ผ่านกฎหมายที่พยายามจำกัดแนวปฏิบัติดังกล่าวท่ามกลางความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้นของสาธารณชน แต่กลุ่มบริษัทประกันสุขภาพแก้ต่างให้การปฏิเสธความคุ้มครองและข้อกำหนด “ขออนุมัติก่อน” ว่าเป็นวิธีควบคุมต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และวิธีเหล่านี้สอดคล้องกับข้อบังคับของรัฐบาลกลางและรัฐท้องถิ่น
ด้านกลุ่มปกป้องสิทธิผู้ป่วยระบุว่าสิ่งที่น่าสิ้นหวังมากที่สุดคือกลุ่มบริษัทประกันสุขภาพมักกระทำการโดยปราศจากคำอธิบาย ส่งจดหมายปฏิเสธที่ให้เหตุผลเพียงเล็กน้อย ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์ทราบสาเหตุและความถี่ของการปฏิเสธคำร้องหรือกระบวนการทางการแพทย์อย่างแท้จริง
อนึ่ง ข้อมูลจากสมาคมผู้ตรวจสอบประกันภัยแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่าอัตราการปฏิเสธคำร้องค่าสินไหมทดแทนค่ารักษาพยาบาลทั่วประเทศในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ร้อยละ 14-16