ปัญหาสุขภาพในกลุ่มระบบทางเดินหายใจ เช่น อาการไอ เจ็บคอ ไข้หวัด ซึ่งสามารถพบผู้ติดเชื้อได้ทุกช่วงวัย ที่มักเป็นต้นตอทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ร่วมด้วย และกระหน่ำมาแบบแพ็คเกจทำให้ร่างกายอ่อนแอ เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
โดยเฉพาะอาการไอ เจ็บคอ ซึ่งหากปล่อยให้มีอาการเรื้อรังอาจส่งผลเสียลุกลาม ภญ.จารุวรรณ แสงแจ่ม ผู้อำนวยการร้านขายยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ท็อปส์แคร์ ( Tops Care) ในเครือ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ระบุว่า
ไข้หวัด ไอ เจ็บคอ เป็นอาการเจ็บป่วยที่พบบ่อยในช่วงฤดูฝน ซึ่งหากปล่อยให้มีอาการนานกว่า 1 สัปดาห์ หรือซื้อยาทานเองโดยไม่ปรึกษาเภสัชกรให้ถูกต้อง ก็อาจเสี่ยงต่อภาวะไอเรื้อรัง และติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ก่อให้เกิดโรคหลอดลมอักเสบได้
“90% ของภาวะไอเรื้อรังมีสาเหตุจากเชื้อไวรัสกลุ่มเดียวกับที่ก่อให้เกิดไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคืออาจเกิดภาวะแทรกซ้อน ติดเชื้อจากหลอดลม ลามไปที่ปอด ทำให้ปอดอักเสบได้ ซึ่งมีโอกาสเกิดได้ทุกเพศทุกวัย และยิ่งเสี่ยงสำหรับผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เพราะอาจเกิดโรคแทรกซ้อนอื่นที่อันตรายร้ายแรงยิ่งขึ้น ดังนั้นคนในครอบครัวควรให้ความดูแลอย่างใกล้ชิด
ผู้ป่วยที่มีอาการไอ เจ็บคอ และอาจมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหลอดลมอักเสบ สามารถสังเกตอาการได้เบื้องต้นดังนี้ คือ
- มีไข้ต่ำ หนาวสั่น หรืออาจมีอาการอ่อนเพลีย
- ไอบ่อย อาจมีเสมหะเล็กน้อยหรือไม่มีเสมหะในระยะแรก
- ต่อมาอาจมีเสมหะมากขึ้น
- หายใจลำบาก แน่นหน้าอก
- และอาจมีอาการเจ็บคอ แสบคอ หรือเจ็บหน้าอกได้
ปัญหาสุขภาพแค่อาการไอ เจ็บคอ หลายคนอาจมองแบบผิวเผินว่าอาจจะหายไปได้เองโดยไม่ต้องรักษา แต่ความจริงแล้วอาจเป็นต้นตอโรคไข้หวัดที่ก่อตัวเป็นโรคหลอดลมอักเสบและโรคร้ายแรงอื่นๆ ตามมาได้หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษาให้ทันท่วงที ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือเภสัชกร เพื่อได้รับการรักษาและรับคำแนะนำการใช้ยาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ที่มา : ภญ.จารุวรรณ แสงแจ่ม ผู้อำนวยการร้านขายยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ท็อปส์แคร์ ( Tops Care) ในเครือ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ระบุว่า