KEY :
- องค์กรอิสระในอังกฤษ รายงานผลการศึกษาพบว่า ประชาชนในสหราชอาณาจักรกำลังเผชิญปัญหารายได้ลดลง จากอัตราเงินเฟ้อและค่าพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น แต่การจัดเก็บภาษียังคงไม่ลดลง
- การขึ้นค่าแรง จะส่งผลให้ในอีก 5 ปีข้างหน้า ประชาชนหลายล้านคนจะต้องขยับเกณฑ์การเสียภาษีเป็นขั้นที่สูงขึ้น แต่กลับมีผู้ที่รายได้สูงเพียง 3.5 แสนคนที่จะถูกปรับขึ้นไปเสียภาษีในขั้นสูงที่สุด
- โดยรายได้จากการจัดเก็บภาษีที่เกิดขึ้น คาดว่า จะเพิ่มขึ้นเป็น 37.7% ต่อ GDP ในอีกไม่เกิน 5 ปีข้างหน้า
- ในขณะเดียวกับ การปรับลดสัดส่วนงบประมาณด้านการศึกษา-สุขภาพ ท่ามกลางอัตรเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อมาตรฐานการครองชีพที่มีแนวโน้มลดลง
…
The Resolution Foundation ซึ่งเป็นองค์กรอิสระในสหราชอาณาจักรได้รายงานผลการศึกษาเกี่ยวกับนโยบายการเก็บภาษี กับบริการสาธารณะ และสวัสดิการต่าง ๆ ของสหราชอาณาจักรในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ชาวอังกฤษเผชิญกับสภาวะของการจ่ายภาษีต่าง ๆ ที่สูงขึ้น ในขณะที่มาตรฐานการครองชีพกำลังลดต่ำลงเรื่อย ๆ จากหลาย ๆ สาเหตุด้วยกัน
โดยรายงานได้ระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมา นโยบายด้านเศรษฐกิจที่รัฐบาลของสหราชอาณาจักรได้มีการกำหนดและประกาศออกมานั้น ยังคงแฝงไปด้วยความขลาดกลัว และทำให้ประชาชนต้องทำงานมากขึ้น แต่กลับยากจนลงเรื่อย ๆ ในขณะที่การเสียภาษีก็เพิ่มสูงขึ้น แต่บริการสาธารณะ- สวัสดิการต่าง ๆ กลับถูกลดลง
ซึ่งในขณะนี้ สหราชอาณาจักรเผชิญสภาวะเศรษฐกิจถดทอย จากผลกระทบของวิกฤติด้านพลังงานและเงินเฟ้ออย่างมาก นับตั้งแต่ปี 1970 และมีอัตราการว่างงานเพียง 4.4% เท่านั้น
โดยสหราชอาณาจักรมีการจัดเก็บภาษีเป็นรายได้เข้ารัฐเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และคาดว่า รายได้จากการจัดเก็บภาษีจะสูงถึง 37.7% ของ GDP ประเทศในอีกไม่เกิน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะกลายเป็นสถิติสูงที่สุดในรอบ 70 ปี
เก็บภาษีเท่าเดิม – เงินเฟ้อเพิ่ม – ลดเกณฑ์ลดหย่อนภาษี
ในช่วงปี 2019 – 2020 อัตราภาษีมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นถึง 4.7% หรือคิดเป็นเงินมากเกือบ 4 พันปอนด์ต่อครัวเรือน นโยบายที่รัฐบาลอังกฤษได้ประกาศออกมานั้น ดูเหมือนจะส่งเสริมให้คนทำงานมากขึ้น โดยที่อัตราภาษีที่จัดเก็บยังคงไม่เปลี่ยนแปลง สวนทางกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ และกำลังจะแตะระดับ 11.1% ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในรอบกว่า 40 ปี นับตั้งแต่ปี 1981
สำหรับอัตราการเก็บภาษีของสหราชอาณาจักรในขณะนี้ แบ่งเป็นขั้นบันได เคือ
- ผู้มีเงินได้ไม่เกิน 12,570 ปอนด์ จะได้รับการยกเว้นภาษี
- ผู้มีเงินได้ตั้งแต่ 12,571 – 50,270 ปอนด์ อัตราภาษี 20%
- ผู้มีเงินได้ตั้งแต่ 50,271 – 150,000 ปอนด์ อัตราภาษี 40%
- ผู้มีเงินได้ตั้งแต่ 150,000 ปอนด์ขึ้นไป อัตราภาษี 45%
ในขณะเดียวกัน ได้มีการปรับเกณฑ์การลดหย่อนภาษี จากเดิมที่กำหนดไว้ที่ 150,000 ปอนด์ ลงเหลือที่ 125,140 ปอนด์ ซึ่งนั่นหมายความว่า จะมีประชาชนหลายแสนคนที่จะได้รับการช่วยเหลือด้านภาษีน้อยลง โดยมีการประมาณการไว้ว่า ในทุก ๆ 1 ปอนด์ของที่ได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้และประกันสุขภาพแห่งชาติ ประชาชนที่ได้รับสิทธิเหล่านี้ จะต้องเสียราว 2 ปอนด์ในมาตรฐานหรือนโยบายอื่น ๆ แทน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะส่งผลกระทบต่อรายได้ในครัวเรือนของประชาชน
องค์กรอิสระได้ประเมินว่า การเพิ่มขึ้นของค่าแรงในอีก 5 ปีข้างหน้า ท่ามกลางอัตราภาษีที่ยังคงที่ในขณะนี้ จะส่งผลให้มีประชาชนราว 3.2 ล้านคน กลายเป็นคนที่จะต้องเสียภาษีเป็นครั้งแรก
ในขณะที่อีกกว่า 2 ล้านคน จะถูกขยับขึ้นเกณฑ์ภาษีที่สูงขึ้นในขั้นถัดไป และมีราว 3.5 แสนคนที่จะขยับขึ้นไปเสียภาษีในอัตราสูงที่สุด
ข้อครหา “ขยับภาษีเงินบำนาญ อุ้มคนรวย”
อีกหนึ่งมาตรการที่เกิดขึ้น คือการปรับเกณฑ์การลดหย่อนภาษี สำหรับผู้ที่เข้าระบบการออมเพื่อเกษียณ หรือการออมเงินบำนาญ ซึ่งในปัจจุบันอยู่ที่ 4 หมื่นปอนด์ โดยมีการปรับเพิ่มเป็น 6 หมื่นปอนด์ โดยให้เหตุผลว่า ช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ในประเทศ ไม่ให้เกษียณอายุก่อนกำหนด หรือลดชั่วโมงการทำงานลง
แต่ในขณะเดียวกันสิ่งที่เกิดขึ้น หลายฝ่ายมองว่า นั่นเป็นนโยบายอุ้มคนรวย และผู้มีรายได้สูง ให้ประหยัดภาษีได้เกือบ 2.5 แสนปอนด์ ซึ่งผู้ที่เข้าโครงการออมเงินบำนาญ ในระดับ 6 หมื่นปอนด์นั้น เป็น “กลุ่มผู้มีรายได้สูง 1%” ในประเทศเท่านั้น
ลดงบประมาณ ท่ามกลางเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ในแผนการจัดสรรงบประมาณให้กับมาตรการด้านสุขภาพ, การศึกษา ถูกปรับลดงบประมาณลงราว 10% ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนั่นหมายความว่า สวัสดิการด้านสุขภาพ และการศึกษา กำลังถอยหลังลงจากเดิม
ในขณะที่นโยบายกระตุ้นการลงทุนต่าง ๆ มีเพียงราว 3% ของ GDP เท่านั้น ซึ่งทาง The Resolution Foundation มองว่า อังกฤษต้องการมากกว่านั้น คือ ราว 30% เพื่อให้สหราชอาณาจักรก้าวทันกับประเทศอื่น ๆ อย่างฝรั่งเศส เยอรมนี หรือ สหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับเฉลี่ยราว 12% และการลงทุนที่น้อยเกินไป จะส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตได้ช้า โดยที่มาตรการฐานครองชีพกำลังชะลอตัวลง ในขณะที่รัฐกำลังพยายามให้ประชาชนจ่ายภาษีมากขึ้น และตัดสวัสดิการต่าง ๆ ลง
นอกจากนี้ หลายฝ่ายยังแสดงความกังวลด้วยว่า แผนการขึ้นภาษีนิติบุคคลจาก 19% ไปเป็น 25% จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในประเทศ และเป็นแนวทางที่ผิดพลาด
ข้อมูล :
- https://obr.uk/box/the-uks-tax-burden-in-historical-and-international-context/
- https://www.resolutionfoundation.org/app/uploads/2023/03/Were-going-on-a-growth-hunt.pdf
- https://www.gov.uk/government/publications/health-and-social-care-levy/health-and-social-care-levy
- https://www.gov.uk/income-tax-rates
- https://www.gov.uk/government/speeches/spring-budget-2023-speech