[FOLLOW UP] กทม.สั่งปรับเต็มอัตรา 10,000 บ. คุมเข้ม “เทไขมัน” ลงท่อ ต้นตอน้ำท่วมขัง!

นอกจากเศษปูน หิน ดิน ทราย อีกหนึ่งตัวการสำคัญที่เป็นอุปสรรคการระบายน้ำ และเป็นต้นตอน้ำท่วมขังใน กทม. คือ “ก้อนไขมัน” โดยเฉพาะจากร้านอาหารและตามบ้านเรือน ที่ส่วนมากถูกทิ้งโดยไม่ผ่านการดักจับ จนสะสมเป็นก้อนขนาดใหญ่ กีดขวางอุดตันทางระบายน้ำ แต่ล่าสุดปัญหานี้ถูกยกเป็นวาระสำคัญ โดยผู้ว่าฯ กทม. ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี และปรับตามกฎหมายในอัตราสูงสุด 10,000 บาท

…

‘นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีที่ปรากฏตามสื่อว่ามีผู้เทน้ำมันลงท่อระบายน้ำ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นร้านอาหารในพื้นที่เขตจตุจักร โดยฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตจตุจักรได้ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 33 “ห้ามมิให้ผู้ใดเท หรือทิ้งสิ่งปฏิกูล มูลฝอย น้ำโสโครกหรือสิ่งอื่นใดลงบน ถนนหรือในทางน้ำ”

ประกอบกับมาตรา 57 บทกำหนดโทษ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 33 “ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท โดยได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุด 10,000 บาท” ตามคดี เลขที่ 3747/65 ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2565 กรณีมีผู้แจ้งเบาะแส จะได้รับเงินส่วนแบ่งรางวัลนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับตามผลคดีที่ได้เปรียบเทียบปรับ โดยประชาชนทั่วไปสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำผิดได้ทาง Traffy Fondue

กทม. พบ “ไขมันอุดตัน” หน้าตลาดสด ต้นตอระบายน้ำได้ไม่ดี

ย้อนกลับไป วันแรกของปฏิบัติการลอกท่อย่านห้วยขวาง ที่ กทม. ร่วมมือกับทางกรมราชทัณฑ์ เมื่อช่วงกลางเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ผู้ว่าฯ กทม. จากการลงพื้นที่พบว่า ในท่อน้ำส่วนใหญ่ยังมีปัญหาขยะและ “ไขมันอุดตัน” โดยเฉพาะหน้าตลาดสดที่ทำให้น้ำระบายได้ไม่ดี ดังนั้น จะมีการมาตรการในการทำบ่อดักไขมัน เพราะเชื่อว่าจะช่วยลดปัญหาน้ำท่วมขังดีขึ้น

ขณะเดียวกัน นายชัชชาติ เคยขอความร่วมว่า “เมืองจะดีได้ต้องร่วมมือกัน ไม่ได้เอาประโยชน์ส่วนตัว เป็นจิตสาธารณะที่ต้องคิด” โดยในส่วนของร้านอาหารหรือสถานประกอบการต่างๆ ที่มีการระบายน้ำทิ้ง ต้องมีถังดักไขมันก่อนที่จะทิ้งลงท่อระบายน้ำ เพราะตามหลักต้องมีการกรองไขมันก่อนทิ้ง พอทิ้งไปไขมันจับเป็นก้อนแข็ง เกิดเป็นสิ่งสกปรกทำให้เกิดหนู แมลงสาบ รวมถึงทำให้น้ำระบายยาก