คัดลอก URL แล้ว

“สวยสยอง! ผู้เสียหายร้องสอบคลินิกเสริมดั้งไร้มาตรฐาน”

“ผู้เสียหายศัลยกรรมจมูกคลินิกดัง กังวลหลังพบใช้ซิลิโคนจากโรงสีข้าว บางรายอักเสบ เป็นหนอง ชี้เสียเงินหลักหมื่นจากโปรโมชั่นหลักพัน เพราะถูกหว่านล้อมขณะทำหัตถกรรม ด้านทนายยัน ฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ 100% ทั้งค่ารักษา และค่าเสียโอกาส”

ในรายการเจาะข่าวเด็ด The Day News Update Special ทางช่อง Mono 29 พิธีกร คุณบ๊อบ ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ พูดคุยกับคุณชัญญภัทร ธนาทิพยภัทร และผู้เสียหายอีก 1 ราย ที่ทำศัลยกรรมจมูกกับคลินิกชื่อดังแห่งหนึ่ง แต่หลังทำแล้วกลับเกิดผลข้างเคียง ที่สำคัญคือเกิดความกังวลว่าซิลิโคนที่ใส่อยู่ อาจเป็นของที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะเคยมีการตรวจพบว่า คลินิกแห่งนี้ใช้ซิลิโคนที่มาจากโรงสีข้าว พร้อมพูดคุยถึงการดำเนินการด้านกฎหมายรวมทั้งการตรวจสอบจริยธรรมทางการแพทย์กับคุณเกียรติคุณ ต้นยาง ทนายความที่เข้ามาดูแลคดีนี้

พิธีกร : ใครบ้างที่ทำศัลยกรรมเป็นครั้งแรกที่แรกเลย
ผู้เสียหายทั้ง 2 คน : ครั้งแรกทั้งสองคนเลย เป็นทำจมูกเหมือนกันค่ะ ไม่เคยทำศัลยกรรมมาก่อนค่ะ

พิธีกร : แล้วตัดสินใจไปทำตอนนั้นเพราะว่าอะไร
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : เพราะว่าเห็นโปรโมชั่นในเพจ Facebook ค่ะ

พิธีกร : เราสนใจเพราะว่าเราอยากจะเสริมจมูกอยู่แล้ว เป็นความตั้งใจเลย?
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : ใช่ค่ะ ตอนแรกก็ตั้งใจจะเสริมจมูกค่ะ เพราะว่าอยากสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองเลยเลือกคลินิก แล้วพอไปเห็น ไปดูรีวิวอะไรหลายๆ อย่างก็เห็นว่าคลินิกนี้มีคนทำค่อนข้างเยอะและน่าเชื่อถือ ก็เลยไปดูโปรโมชั่นในเพจ Facebook ของเขา ปรากฏว่าโปรโมชั่นน่าสนใจ ก็เลยตัดสินใจทำ

พิธีกร : โปรโมชั่นทำจมูกของเขามันแตกต่างจากโปรโมชั่นทำจมูกของคลินิกอื่นๆ แค่ไหนยังไงครับ
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : จริงๆแล้วโปรโมชั่นก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมากกับบางคลินิก แต่ว่าสิ่งที่ชอบก็คือทรงค่อนข้างสวยถูกใจเรา เห็นทรงแล้วก็สวย ชอบ

พิธีกร : แล้วคลินิกอื่นเขามีให้เราดูไหม
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : ก็มีค่ะ แต่ว่าแต่ละคลินิกก็จะมีจุดเด่นหรือว่าทรงจมูกที่ดังๆ ประจำคลินิกของเขา ไม่เหมือนกัน แต่คลินิกนี้ทรงจมูกค่อนข้างที่จะตอบโจทย์เรา แล้วเราค่อนข้างที่จะชื่นชอบ ก็เลยตัดสินใจทำกับคลินิกนี้

พิธีกร : แล้วคุณโบว์ ล่ะครับ ทำไมตัดสินใจทำที่นี่
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : ไปเสิร์ช Googleทำจมูกที่ไหนดี คลินิกนี้ก็ขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ เลย พอเรากดเข้าไปดูประวัติหมอ ประวัติคลินิกมีประสบการณ์มาเป็น 10 ปี มีสาขามากกว่า 30 สาขาทั่วประเทศ เราก็มองว่ารู้สึกมั่นใจ เพราะว่าหมอผ่านการมีประสบการณ์มาเป็น 100,000 เคส ทำให้เรายิ่งมั่นใจ แล้วเราเห็นรีวิวแต่ละคนคือสวยและเป็นทรงจมูกที่เราชอบ เราอยากได้ แล้วก็ประวัติโอเค ทุกอย่างโอเค น่าเชื่อถือ เราก็เลยตัดสินใจที่จะทำที่นี่

พิธีกร : ไม่เคยได้ยินข่าวเลยใช่ไหมครับว่าในอดีตที่ผ่านมาเคยมีปัญหา คนที่ทำจมูกไปแล้ว และมีผลกระทบเหมือนกับที่พวกเราเจออยู่ตอนนี้
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : ก็เคยได้ยินผ่านๆ ค่ะ แต่ว่าตอนนั้นเราก็ไม่ได้กลัว เพราะใจเราไปแล้ว

พิธีกร : เราเห็นแต่ภาพสวยงาม เคยไปค้นหาไหมว่ามีคนออกมาบ่น ออกมาร้องเรียน
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : ไม่เคยค้นหาตรงนั้น เพราะว่าภาพที่เราไปเสิร์ชดูมันมีแต่สิ่งดีงามหมดเลย
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : ไม่เคยค้นหาเหมือนกันค่ะ

พิธีกร : ทุกวันนี้หลังจากไปทำมาแล้วเกิดความทุกข์ น้องน้ำทำตอนไหน
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : 15 พฤษภาคมปีที่แล้ว รอบแรกค่ะ หลังจากนั้นมีปัญหาคือ 14 วันแรกกำหนดตัดไหม แต่หนูไม่สามารถตัดได้เพราะว่าเลือดคั่ง ก็เลยต้องรีดเลือดออกก่อน ซึ่งคนที่มารีดเลือดไม่ใช่หมอนะคะ แต่เป็นพนักงานหน้าเคาน์เตอร์มารีดเลือดให้

พิธีกร : พนักงานหน้าเคาน์เตอร์เหรอครับ ทำได้เหรอ ไม่ต้องใช้หมอมารีดเลือดจากจมูกเราเนี่ยนะ
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : ค่ะไม่ใช่หมอค่ะ ตอนแรกเหมือนผู้จัดการเขาก็เดินมาดูก่อน เขาให้หนูนอนแล้วเขาก็รีดเลือดออกให้ แต่พอกลับมาถึงห้องเขาก็บอกให้เอาไข่ต้มประคบร้อน เลือดมันก็ไหลออกมาแบบในคลิปที่อัดไว้เลย

พิธีกร : ทำไมต้องทำอย่างนี้ครับ
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : เขาบอกว่ามันเป็นการไล่เลือดให้ออกมา

พิธีกร : แล้วความรู้สึกมันเป็นยังไงบ้าง มันเจ็บไหม
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : ปวดค่ะ ปวดมาก ปวดตั้งแต่เขารีดให้แล้ว

พิธีกร : แล้วหมอบอกว่ายังไงครับ
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : ไม่ได้พบหมอค่ะ

พิธีกร : แล้วที่เรากลับไปที่คลินิกแล้วบอกว่ามีอาการบวม ปวด ไม่เจอหมอเลยเหรอ
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : ไม่เจอหมอค่ะ ทุกครั้งที่มีปัญหาไม่เคยเจอหมอเลย ก็จะเจอพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ค่ะ และหลังจากที่ไปตัดไหมแล้วสะเก็ดแผลหลุด แล้วซิลิโคนมันก็ทะลุค่ะ

พิธีกร : ตอนที่ปวดบวมอยู่กับมันนานแค่ไหน
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : ปวดตลอดค่ะตั้งแต่ทำ ปวดทุกวัน จนกระทั่งไปหาหมอ รีดเลือดก็ยังปวดอยู่ แล้วหลังจากรีดเลือดก็ยังปวด

พิธีกร : แล้วทางคลินิกเขาว่ายังไง
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : คลินิกเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะเขาก็ให้ไปตัดไหมปกติ เพราะว่าหลังจากรีดเลือดเสร็จ เขาบอกว่าให้กลับไปพักอีกหนึ่งอาทิตย์เพื่อที่จะรอให้แผลแห้งแล้วก็มาตัดไหม ซึ่งตอนตัดไหมเราก็ปวดนะคะ แต่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะต้องปวดอีกนานไหม เพราะเราก็ไม่เคยทำศัลยกรรมมาก่อน ก็เลยคิดว่ามันคงจะปกติแหละ เราก็เลยไปพักฟื้นหนึ่งอาทิตย์ แล้วกลับมาให้เขาตัดไหมปกติค่ะ หลังจากนั้นเราก็กลับไปพักฟื้นของเรา ทำความสะอาดแผลปกติ แล้วปรากฏว่าสะเก็ดข้างในตรงแผลมันหลุดก็เลยส่องดู เห็นว่ามันมีซิลิโคนขาวๆ โพล่ออกมา

พิธีกร : เราได้ปรึกษาเพื่อนๆ ไหมว่ามีใครไปทำจมูกมา หรือมีคนอื่นที่มีประสบการณ์เรื่องนี้ว่าไปทำมาแล้วมันปวดไหม มันจะต้องเป็นแบบนี้อีกนานแค่ไหน
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : ก็ถามเพื่อนที่เคยทำจมูกค่ะ แต่เคยทำจากคลินิกอื่นนะคะ เขาก็บอกว่าของเขาหายปวดตั้งแต่ 7 วันแรก หลังจากนั้นก็ไม่ได้ปวดอะไรแล้ว

พิธีกร : แล้วกลับไปที่คลินิกไม่เจอหมอด้วย
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : ไม่เจอค่ะ ทุกครั้งที่พนักงานตอบแชทก็จะบอกว่าให้เข้ามาพบคุณหมอ แต่ทุกครั้งที่เข้าไปไม่เคยพบคุณหมอเลยค่ะ

พิธีกร : เห็นบอกว่าเวลาพนักงานตอบแชท มีการนัดวันเลยนะว่าวันนี้คุณหมอเข้าและจะให้เข้ามาเจอคุณหมอคนเดิม ซึ่งคุณน้ำ นำแชทที่คุยกับพนักงานคลินิกเอามาเปิดเผย เพราะว่านี่เป็นหลักฐานเพื่อที่จะให้เราได้เห็นว่าทางคลินิกเขาทำยังไง ทำจมูกกับหมอต่ายถูกไหมครับ รู้ชื่อจริงของหมอไหมครับ
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : ไม่รู้เลยค่ะ รู้แต่ชื่อเล่น

พิธีกร : สุดท้ายไปเจอหมอยุ หมอยุว่ายังไง
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : ก็บอกว่าให้รีบเอาออกค่ะ เพราะว่ามันจะติดเชื้อ ซิลิโคนมันทะลุออกมาแล้ว

พิธีกร : ก่อนที่หมอยุบอกว่าต้องรีบเอาออกนั้น มีการปรึกษากับหมอต่ายด้วย
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : ใช่ค่ะ มีการเหมือนขออนุญาตดูแลเคสให้

พิธีกร : ซึ่งตอนแรกเห็นว่าไม่อยากให้ดูแล
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : ใช่ค่ะ เหมือนหมอต่ายก็ไม่ได้อยากให้ยุ่งกับเคสของเขา แล้วหลังจากนั้นหมอยุก็บอกว่าไม่ได้ ต้องเอาออกแล้ว เพราะว่ากลัวจะติดเชื้อ เพราะของหนูกรีดแผลข้างเดียว แต่มันทะลุไปอีกข้างด้วย ก็เลยต้องรีบเอาออก ตอนที่เอาซิลิโคนออก ตอนที่นอนอยู่ ก็มีหมอยุกับพนักงานผู้ช่วยคุยกันว่าขาซิลิโคนใหญ่ด้วย ก็เลยทะลุออกมา

พิธีกร : สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากเอาซิลิโคนออกแล้วทำอะไรอีกครับ คลินิกนี้เขารับผิดชอบเรามากน้อยแค่ไหน
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : ก็รับผิดชอบตามประกันของเขาว่าถ้าจมูกทะลุ เบี้ยว เอียง สามารถกลับมาทำใหม่กับเขาได้ ต้องอยู่ในระยะเวลา 6 เดือน ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

พิธีกร : ที่ไปซ่อมแซมเอาซิลิโคนออกมา แล้วเขาบอกว่าเดี๋ยวจะใส่เข้าไปใหม่คืออันเดิมไหม
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : เขาบอกว่าอันใหม่นะคะ แต่หนูก็ไม่รู้ว่าเขาเอาอะไรใส่ให้

พิธีกร : เอาซิลิโคนกลับเข้าไปใหม่ ปรากฏว่าทุกอย่างเข้าที่เข้าทางหรือยัง
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : รอบที่สองก็ไม่ได้มีปัญหานะคะตอนที่เอาซิลิโคนใส่เข้าไป แต่ว่าสิ่งที่ผิดปกติตั้งแต่แรกตอนถอดออกก็คือ จมูกมันเหมือนมีติ่งออกมาตรงปลายจมูกตั้งแต่รอบแรกแล้ว แล้วพอเอาซิลิโคนใส่เข้าไปใหม่มันก็เหมือนยิ่งเน้นให้ติ่งนั้นชัดขึ้นไปอีก ซึ่งติ่งนั้นก็ยังอยู่จนถึงทุกวันนี้

พิธีกร : เวลาส่องกระจกแล้วรู้สึกยังไง
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : จริงๆ แล้วหนูทำจมูกเพื่อที่จะสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง แต่พอมาเจอแบบนี้ก็เหมือนกับเป็นการลดทอนความมั่นใจของตัวเองลงไปอีก นอกจากจะมีติ่งออกมาแล้ว จมูกก็ยังเบี้ยวอีกด้วย มันเอียงค่ะ

พิธีกร : ทั้งมีปัญหา แล้วก็บอกว่ามันมีคล้ายๆ เป็นสิวหนอง สิวหนองคือตรงไหนยังไงครับ
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : บริเวณข้างในแผลค่ะ ตรงในจมูกที่เขากรีดค่ะ จะมีเหมือนสิวเป็นตุ่มขาวๆ ข้างในเหมือนเป็นน้ำหนองค่ะ ขึ้นๆ ยุบๆ อยู่อย่างนี้ค่ะ คือ 1 – 2 อาทิตย์ขึ้นมาที พอซักระยะก็ยุบลงไป พอเราได้มีการติดต่อไปทางคลินิก เขาก็บอกว่าให้เข้ามาพบคุณหมอนะ เราก็เข้าไปพบเขาค่ะ แต่ก็ไม่เจอหมอ ไม่เคยเจอหมอเลย

พิธีกร : แล้วถามเขาไหม
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : ก็ถามค่ะ แต่เขาก็บอกว่าเดี๋ยวพี่ดูแผลให้ ไม่เป็นไรหรอก มันก็เป็นแค่ตุ่มสิว ถ้าคนไข้ไม่สบายใจยังไงก็กินยาฆ่าเชื้อได้

พิธีกร : แล้วเขาให้ยาฆ่าเชื้อมาไหม
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : ไม่ค่ะ เขาให้ไปซื้อเอง เขาจะให้ยาเฉพาะตอนที่เขาทำให้เรารอบแรก แต่พอมีปัญหาตามหลังเขาก็ให้ไปซื้อยาเอง

พิธีกร : มาที่คุณโบว์ ชัญญภัทร ผู้เสียหาย คุณโบว์เจอปัญหาอะไรครับ
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : ของโบว์ คือใส่ซิลิโคนเข้าไปตั้งแต่ทำจมูกก็เหมือนคนเป็นภูมิแพ้ตลอดเวลา

พิธีกร : ก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นภูมิแพ้เลย ไม่มีคัดจมูก น้ำมูก ฝุ่นอะไรต่างๆ
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : ไม่เป็นค่ะ ไม่เคยเป็น จะเป็นก็แค่ตอนเราไปเจออากาศที่เย็นมาก 5-6 องศาถึงจะเป็น แต่ถ้าปกติไม่เคยเป็นอะไรเลย

พิธีกร : แล้ว ณ วันนี้ภูมิแพ้
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : จะมีคัดจมูกน้ำมูกตลอดเวลา ทุกวัน

พิธีกร : แล้วเราทำยังไงครับ อาการนี้มันเกิดขึ้นหลังจากที่ไปทำจมูกมา
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : ใช่ค่ะ ทุกวันนี้ก็คือปรึกษาเภสัชกรแถวบ้าน ก็บอกให้เอาน้ำเกลือล้างจมูกบ่อยๆ เพื่อให้จมูกโล่ง

พิธีกร : แล้วช่วยได้ไหมครับ
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : มันก็ช่วยได้ แต่ว่ามันก็ยังเป็นแบบนี้ทั้งวัน ตลอดเวลา

พิธีกร : ได้ไปปรึกษาที่คลินิกไหม ว่าหลังจากทำมาแล้วเจออาการแบบนี้ตลอด
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : ถามค่ะ วันนั้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเข้าไปเจอหมอ ก็ถามหมอ หมอก็บอกว่าช่วงนี้ฝุ่นเยอะ แล้วก็อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ก็อาจจะทำให้คนไข้เป็นได้

พิธีกร : แต่เราเป็นตอนไหน
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : เป็นตั้งแต่เริ่มทำจมูกค่ะ ตอนปลายเดือนสิงหาคม ในช่วงแรกๆที่เป็นเราก็คิดว่าอากาศคงเปลี่ยนแหละก็เลยเป็น แต่พอเริ่มเป็นทุกวัน เราก็เริ่มถามเพื่อนว่าไปทำจมูกมาเป็นแบบนี้ไหม เพื่อนก็ช่วยหาข้อมูล เพราะว่าเพื่อนไม่เป็น แล้วก็ถามคนอื่นที่เคยทำจมูกมาทุกคนก็บอกว่าไม่เป็น จนกระทั่งมาเจอในกลุ่มผู้เสียหายด้วยกัน มีคนที่เป็นเหมือนกันเยอะอยู่ ที่ไปทำที่คลินิกเดียวกัน

พิธีกร : คุณโบว์มีการเข้าไปค้นข้อมูลแล้วก็รวบรวมผู้เสียหาย ปรากฏว่าไม่ได้เป็นแค่คนเดียว แต่เป็นหมู่คณะเลย ตอนนี้ผู้เสียหายกี่คนแล้วครับ
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : ถ้าในกลุ่มผู้ที่ประสงค์จะดำเนินคดีมีอยู่ประมาณเกือบ 50 ราย แต่ถ้าในกลุ่มผู้เสียหายใหญ่เลยทั้งหมดมีเป็นพันคน จากคลินิกเดียวกัน

พิธีกร : แล้วแต่ละคนเสียหายลักษณะใกล้เคียงหรือแตกต่างกันยังไงบ้างครับ
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : ส่วนใหญ่ก็จะมีปัญหาจมูกเบี้ยว เอียง ทะลุ อักเสบ แดง ประมาณนี้กันหมด แล้วก็จะมีอีกกลุ่มซึ่งเป็นส่วนน้อยที่ทำแล้วไม่เป็นอะไรเลย แต่พอเจอข่าวก็ไม่มั่นใจ เพราะว่าทางคลินิกไม่สามารถยืนยันให้ได้ว่าใส่อะไรให้

พิธีกร : 2 เด้งเลยนะครับ ผมเอาประเด็นเรื่องของการทำแล้วมีข้อผิดพลาดก่อน เรื่องของซิลิโคนปลอม ซึ่งก็เป็นข่าวมาตั้งแต่กลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา จนกระทั่งเมื่อวานนี้ก็เป็นข่าวอีกรอบว่าไปตรวจสอบแล้วพบว่าซิลิโคน Mantis ซึ่งโฆษณาว่าใส่แล้วเหมาะสำหรับคนเอเชีย แต่ปรากฏว่าไม่ได้สั่งซื้อ แล้วตอนที่เราไปทำเขาโฆษณาไหมว่ามันเป็นซิลิโคนยี่ห้อ Mantis หรือยี่ห้ออะไรยังไง
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : ตอนที่ไปทำไม่ได้บอก แล้วก็ไม่ได้เห็นอะไรเลย เขาบอกแค่ว่าของเราเป็นพรีเมี่ยม แบรนด์นำเข้าจากอเมริกาเป็นตัวราคาที่แพงที่สุดของคลินิก แล้วก็บวกกับใช้เทคนิคเนื้อเยื่อก้นกบของตัวเอง ราคาเสริมจมูกของเราก็เลยโดดกว่าของคนอื่น

พิธีกร : ของคุณโบว์นอกจากเป็นภูมิแพ้ เห็นบอกว่ามีเรื่องของจมูกเบี้ยวด้วย
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : ใช่ค่ะ รูจมูกไม่เท่ากัน

พิธีกร : คุณโบว์ไปทำกับหมออีกคนหนึ่ง หมออะไรครับ ไม่มีชื่อจริงใช่ไหม
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : ไม่มีชื่อจริงค่ะ เป็นชื่อเล่น หมอยุค่ะ

พิธีกร : เห็นหน้าหมอไหม
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : เห็นค่ะ แต่ว่าเขาใส่หน้ากาก แต่ถ้าเจอกันตอนนี้อีกรอบก็จำไม่ได้เหมือนกันค่ะ เพราะเห็นแบบแว๊บๆ ไม่ได้เห็นแบบชัดเจน

พิธีกร : แล้วทำเบี้ยวเหรอ
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : ใช่ค่ะ คือตอนขึ้นไปทำ ขึ้นเตียงแล้วกำลังจะทำ แล้วเขาบอกว่ารูจมูกของคนไข้ไม่เท่ากัน ถ้าเกิดหมอใส่ซิลิโคนลงไปแล้วต่อให้หมอใส่ตรงคนก็จะเห็นว่ามันเอียง แล้วก็จะเห็นรูจมูกไม่เท่ากันชัดเจนเลย เพราะฉะนั้นคนไข้ควรจะตัดปีกแต่งปลายจมูกเพื่อให้ใส่ซิลิโคนไปแล้วจะได้ไม่มีปัญหา เราก็เลยตกลงตัดปีกแต่งปลายจมูก ถามว่าราคาเท่าไหร่ คุณหมอบอกว่า หัตถการละ 15,000 บาท จ่ายเพิ่มอีก 30,000 บาท

พิธีกร : ตอนไปทำโปรโมชั่นราคาที่เท่าไหร่
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : 8990 บาท

พิธีกร : แต่ราคาไม่จบเท่านี้ คุณโบว์จ่ายทั้งหมดเท่าไหร่
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : 93,149 บาท

พิธีกร : อะไรที่ทำให้เราตัดสินใจต้องทำวันนั้น เพราะว่าจริงๆ ตอนที่ไปทำคือราคาโปรโมชั่นมัน 8990 บาท
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : คือทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามาพูดมันมีเหตุและมีผลประกอบ ทำให้เราเชื่อ ทำให้เราคิดว่าถ้าเราไม่ทำอย่างที่เขาแนะนำเราอาจจะไม่สวย มันอาจจะมีปัญหาตามมาได้ ถ้าเราไม่ทำตามที่เขาแนะนำ

พิธีกร : แล้วราคา 93,149 บาท มาจากไหน
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : จะเป็นค่าซิลิโคนพรีเมี่ยมก้นกบ 60,000 บาท แล้วก็มีตัดปีกแต่งปลาย อันนั้นต่อราคาบอกเขาว่าขอราคาพิเศษเป็นลูกค้ากันไปยาวๆ เขาก็ให้อยู่ที่ 16,000 บาทจาก 30,000 บาท

พิธีกร : หลังจากนั้นทำไมถึงรู้สึกว่าจมูกเบี้ยว
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : ไปเห็นในกลุ่มผู้เสียหายถ่ายรูปกันมุมเสยโชว์ ซึ่งปกติเราไม่เคยส่องดูมุมเสย เราก็เลยลองถ่ายดูบ้าง พอเห็นภาพก็ตกใจ กรี๊ดลั่นบ้าน เพราะรูจมูกไม่เท่ากัน เครียดค่ะ เพราะว่าเรายอมเสียเงิน 16,000 บาท เพื่อให้รูจมูกมันเท่ากันตามที่หมอบอก

พิธีกร : ณ วันนี้สภาพจิตใจเป็นยังไง
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : เครียด แล้วก็เวลาตื่นมาแล้วเราดูหน้าตัวเองเห็นจมูกตัวเองแล้วมันเครียดมาก เพราะไม่รู้ว่าอะไรมันอยู่กับเรา แล้วตอนนี้พอเราฟังข่าวจาก อย. ว่าถ้าได้ซิลิโคนปลอมใส่เข้าไป สารจะค่อยๆ ออกมาและทำให้เราเป็นมะเร็งได้ ยิ่งทำให้เรากังวลว่าตอนนี้มันไปถึงไหนแล้ว

พิธีกร : นอกจากเรื่องของการทำหัตถการต่างๆ มาแล้วแล้วเกิดปัญหานั้นเป็นส่วนหนึ่ง เรื่องของราคาที่ไปเจอก็อีกส่วนหนึ่ง ของคุณน้ำตอนแรกไปทำโปรโมชั่นอยู่ที่เท่าไหร่ครับ
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : 9,000 กว่าบาทค่ะ

พิธีกร : ราคาตอนจบคือ
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : 36,000 บาท

พิธีกร : เพราะว่าหมอก็จะแนะนำว่าอันไหนทำได้ทำไม่ได้ และแนะนำเพิ่มเติมไประหว่างที่นอนรอกำลังจะทำหัตถการแล้ว ก็ต้องตัดสินใจ ณ ตอนนั้นว่าจะทำหรือไม่ แต่ปัญหาที่ตามมาอีกหนึ่งเคสใหญ่ๆ เลย และนำมาสู่การไม่มั่นใจ ณ ตอนนี้เลยคือซิลิโคนของปลอม

ล่าสุดมีการเข้าไปตรวจ ตำรวจไปเจอว่าการซื้อซิลิโคนที่บอกว่ามีการสั่งเข้ามาจากต่างประเทศ ปรากฏว่ามีการสั่งซิลิโคนมาจากโรงสีข้าว ซึ่งเปิดเป็นโกดังในการผลิตซิลิโคนปลอม แล้วไม่รู้เลยว่าที่อยู่ในจมูกของผู้เสียหายทั้งสองท่านเป็นของจริงหรือของปลอม และตรวจสอบยังไง ถ้าซิลิโคนจริงก็จะต้องมีบรรจุภัณฑ์มีซีเรียลนัมเบอร์ต่างๆ ที่เราสามารถตรวจสอบได้
พอหลังจากที่มีการไปบอกว่าที่นี่เอาซิลิโคนโรงสีข้าวมารู้สึกยังไงครับ
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : ก็สงสัยว่าตกลงที่อยู่ในจมูกเรามันคืออะไร เพราะเห็นข่าวครั้งแรกตกใจมาก ก็รีบทักแชทหาคลินิกว่าซิลิโคนที่ใส่ให้นั้นของจริงหรือของปลอม ข่าวที่ออกจริงหรือไม่ ทางคลินิกบอกว่าข่าวที่ออกเป็นเรื่องจริง แต่ว่าซิลิโคนที่ถูกจับได้นั้นเอาไว้ให้แพทย์ฝึกเหลา ไม่ได้เอามาใช้กับลูกค้า ซึ่งซิลิโคนที่ใส่ให้กับลูกค้าคือซิลิโคน Mantis ของจริงมีใบรับรอง แล้วก็ส่งรูปกล่อง รูปใบรับรองของ Mantis มาให้

พอเราฟังแล้วเราก็โอเค แต่ปรากฏว่าตอนเย็นวันนั้นมีข่าวออกอีกว่าไปสัมภาษณ์เจ้าของซิลิโคน Mantis เขาบอกว่าคลินิกนี้ไม่ได้สั่งซื้อซิลิโคนมาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว ก็เอาข่าวนี้ไปถามเขาอีกว่าข่าวออกมาแบบนี้สรุปยังไง เขาตอบแค่ว่าขอบพระคุณมากค่ะ เหมือนขอบคุณที่เราส่งข่าวให้เขาดู เราก็เลยพิมพ์ไปอีกว่าตกลงจริงหรือปลอมที่ใส่ให้ เขาก็บอกว่ารอแถลงการณ์นะคะ ของลูกค้าของจริงแน่นอน รอแถลงการณ์

พิธีกร : แล้วได้ข่าวว่าไปพบหมอด้วยเพื่อจะได้ดูว่ามันมีซีเรียลนัมเบอร์อะไรต่างๆ เพราะเขาอ้างว่าหมอรู้ซีเรียลนัมเบอร์
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : ใช่ค่ะ คือก่อนจะเข้าไปพบหมอมีการทักถามในแชทก่อน แล้วเขาก็เลยขอเบอร์เรา แล้วก็โทรกลับมาหาเรา เราก็บอกว่าอยากรู้ เพราะในเมื่อคุณบอกว่าคุณใส่ซิลิโคน Mantis ให้เรา ซีเรียลนัมเบอร์มันคืออะไร เราอยากรู้ เขาก็บอกว่าในส่วนนี้พวกกล่อง การ์ด เขาเก็บทิ้งไปหมดแล้ว ส่วนซีเรียลนัมเบอร์จะอยู่ที่คุณหมอถ้า ลูกค้าอยากได้ซีเรียลนัมเบอร์ ลูกค้าต้องเข้ามาพบคุณหมอ ก็เลยถามเขาว่าคุณหมอเข้าคลินิกวันไหน ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่คุณหมอเข้าคลินิกพอดีช่วงบ่าย เราก็เลยรีบไปที่คลินิกเลย พอไปถึงเจอหมอก็บอกว่าหมอไม่เคยพูดว่าหมอใช้ซิลิโคน Mantis หมอใช้ซิลิโคนเป็นแท่งเหลาตามลักษณะจมูกของคนไข้แต่ละคนด้วยฝีมือของหมอเอง เราก็เลยบอกว่าแล้วที่ตอบมาในแชทว่าเป็นซิลิโคน Mantis ของจริงให้มาเอาซีเรียลนัมเบอร์กับหมอมันคืออะไร เขาบอกว่ามันน่าจะเกิดจากการสื่อสารผิดพลาด เขาจะไปจัดการกับทางแอดมินส่วนกลางของคลินิก แต่ประโยคที่เขาตอบมาในแชทนั้นผู้เสียหายทุกคนได้รับแบบเดียวกันหมดว่าเป็นซิลิโคน Mantis

พิธีกร : ของคุณน้ำเป็นเหมือนกันไหม
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : ของหนูเขาไม่ได้บอกว่าเป็นซิลิโคน Mantis แต่ว่าตอนแรกที่ทำเขาบอกเลยว่าเป็นของอเมริกานะ

พิธีกร : ทนายโป้งครับ เรื่องนี้มันต้องดำเนินการยังไง มีผู้เสียหายเป็น 1000 คนเลยนะครับ
ทนายความ : อันนั้นอยู่ในกลุ่ม ไลน์โอเพ่นแชท และส่วนที่รวบรวมอยู่กับผม 42 คน แล้ววันนั้นที่พาไป กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) 17 คน ซึ่งส่วนใหญ่ที่ผู้เสียหายไปไม่ครบ 42 คนเพราะว่ายังวิตกกังวล ยังไม่อยากออกมาเจอหน้าผู้คน

เพราะทุกวันนี้เขาไม่มั่นใจในจมูกของเขา บางคนมีบาดแผล บางคนมีปัญหาต้องไปหาหมอ บางคนก็กลายเป็นจิตตกบางคนก็เป็นโรคซึมเศร้า

ตอนนี้พาไปแจ้งความที่ ปคบ.แล้ว เบื้องต้น ปคบ. ก็รับเป็นคดีฉ้อโกงก่อน เนื่องจากยังมีผู้เสียหายอีกหลาย 100 คนที่จะให้ปากคำ ซึ่งพนักงานสอบสวน ท่านผู้กำกับ ปคบ. รับปากกับผมว่าจะดำเนินการสอบสวนให้เสร็จสิ้นภายใน 90 วันเป็นอย่างเร็ว แต่ถ้ามีผู้เสียหายเพิ่มเติมอีกก็ต้องยืดเวลาออกไปอีก ซึ่งเฉพาะ 42 คนในกลุ่มผู้เสียหายของผม ไปสิ้นสุดนัดหมายสอบปากคำเดือนมีนาคมปีนี้ เพราะจะสอบปากคำได้วันละประมาณ 10 ปาก และแต่ละคนใช้เวลาสอบปากคำนาน เพราะว่าข้อมูลของแต่ละคนที่ไปทำเริ่มต้นในการไปเจอโปรโมชั่น ไปเจอในสื่อออนไลน์ ไปเจอโฆษณาประชาสัมพันธ์ การเริ่มต้นเข้าไปใช้บริการ และการที่ถูกคิดราคาเพิ่มในขณะที่ทำหัตถการอยู่นอนอยู่บนเตียง

ส่วนในเรื่องของคดีส่วนที่จะเป็นฉ้อโกงประชาชนหรือไม่นั้น เดี๋ยวพนักงานสอบสวนจะดูว่ามีการแพร่หลายข้อมูลประชาสัมพันธ์และมีผู้เสียหายหลงเชื่อเป็นจำนวนมากหรือไม่ แต่เบื้องต้นที่พนักงานสอบสวนตั้งธงไว้ก่อนว่าเป็นเรื่องของการฉ้อโกง เพื่อหวังให้คุณหมอเข้ามาเจรจา ถ้าหมอเข้ามาเจรจาชดใช้ค่าเสียหายจนเป็นที่พึงพอใจแล้ว ผู้เสียหายก็พร้อมจะถอนคำร้องทุกข์

พิธีกร : ถ้าหมอเจรจาจะจบไหม
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : ค่ะ ถ้าหมอชดใช้ให้ตามที่เราต้องการ

พิธีกร : เมื่อเช้ามีคลิปออกมาแล้ว หมอออกมายืนยันว่าจะดูแลคนไข้ทุกรายไปตลอดชีวิต แบบนี้คิดว่ายังไงเพียงพอไหม สำหรับพวกเราที่เป็นผู้เสียหาย
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : ไม่พอค่ะ เราต้องการเงินที่เราจ่ายไปคืนแล้วเราจะเอาเงินไปทำจมูกใหม่ซึ่งมันจะต้องมีการเจ็บตัวเพิ่ม แล้วก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายค่าเสียเวลาต่างๆ และเสียสุขภาพจิตด้วย

พิธีกร : เพราะฉะนั้นที่หมอบอกว่าจะดูแลไปเรื่อยๆ ทำให้คนสวยได้นั้น ไม่เอา
ชัญญภัทร ผู้เสียหาย : ไม่เอาค่ะ เพราะถ้าวันหนึ่งคลินิกถูกปิดขึ้นมาแล้วใครจะดูแลเรา

พิธีกร : แล้วคุณน้ำอยากได้อะไรตอนนี้
น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย : ก็คืออยากได้เงินที่เราจ่ายไปเต็มจำนวนเหมือนกัน พร้อมกับค่าเสียหาย ค่าเสียเวลา ค่าที่ทำให้เราเจ็บตัวหลายรอบ อย่างกรณีของหนูไปคลินิกหลายครั้งเป็นว่าเล่นมากกว่าไปเรียนด้วยซ้ำ ใช้ชีวิตอยู่กับคลินิกและกลับห้องและไปคลินิกอีกวนอยู่แบบนั้น

พิธีกร : ทนายโป้งอย่างนี้เรียกร้องได้มากแค่ไหน
ทนายความ : ได้ 100% นะครับเพราะว่าเรื่องนี้ในส่วนของคดีแพ่งมันเป็นการละเมิด เรียกค่าเสียหายได้หมดเลย เงินที่เราสูญเสียไป โอกาสที่เราสูญเสียไป แล้วเราต้องไปดูแลรักษาตัว ต้องไปรักษาพยาบาล และสามารถเรียกดอกเบี้ยได้ด้วยนะครับ ทุกกระบวนการขั้นตอนเรียกได้ 100%ครับ มีคำพิพากษาของศาลเป็นบรรทัดฐานแล้วครับ


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง