KEY :
- 2 นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ระบุ ถูกเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยโกงค่าเทอม เพราะความไว้ใจ จนทำให้ไม่จบการศึกษา ไม่มีวุฒิใช้สมัครงาน บางรายสูญเงินกว่า 2 แสนบาท
- มีผู้เสียหายเกือบ 60 ราย รวมมูลค่า 2.3 ล้านบาท
…
ในรายการเจาะข่าวเด็ด The Day News Update Special ทางช่อง Mono 29 พิธีกร คุณบ๊อบ ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ ได้พูดคุยกับ คุณพงศกร อมรภัทรศิลป์ และคุณบุปผา จันตะเคียน 2 นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยโกงค่าเทอม เพราะความไว้ใจ จนทำให้ไม่จบการศึกษา ไม่มีวุฒิใช้สมัครงาน บางรายสูญเงินกว่า 2 แสนบาท มีผู้เสียหายเกือบ 60 ราย รวมมูลค่า 2.3 ล้านบาท ขณะทางมหาวิทยาลัยออกมาแจ้งมาตรการเยียวยาแล้ว พร้อมต่อสายพูดคุยกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อให้ข้อแนะนำการดำเนินการตามกฎหมายหลังจากนี้
พิธีกร : น้องตั๋นจบการศึกษาหรือยัง
พงศกร : จบแล้วครับ
พิธีกร : เรียนจบแล้วแต่ยังไม่ได้ใบทรานสคริป
พงศกร : ใช่ครับแล้วก็ไม่ได้วุฒิการศึกษาด้วยเพราะว่าตอนแรกของผมขึ้นว่าไม่ได้จ่ายค่าเทอม
พิธีกร : แล้วไม่ได้จ่ายค่าเทอมตั้งแต่เมื่อไหร่
พงศกร : ของผมตั้งแต่ปี 1 เทอม 2 ครับ
พิธีกร : นั่นแสดงว่าตั้งแต่เข้าไปในมหาวิทยาลัยปีหนึ่งจ่ายค่าเทอมแค่ครั้งเดียว
พงศกร : ใช่ครับ
พิธีกร : แล้วทำไมเราถึงไม่ได้จ่ายค่าเทอม
พงศกร : ก็เจ้าหน้าที่คนนี้เขาบอกว่าไม่ต้องจ่ายเดี๋ยวค่อยมาจ่ายทีเดียว
พิธีกร : เจ้าหน้าที่เป็นคนบอกเอง เจ้าหน้าที่คนนี้คือของมหาวิทยาลัยนะ แล้วเค้าบอกว่าให้จ่ายครั้งเดียวคือยังไง
พงศกร : คือตอนค่าแรกเข้า
พิธีกร : แล้วเราไม่เอะใจเลยหรือว่าไม่จ่ายค่าเทอมแล้วจะเรียนได้อย่างไร
พงศกร : ของผมมันมีกรณีเกี่ยวกับเรื่องเกรดครับ เขาก็ให้เหตุผลว่าถ้าจ่ายไป ถ้าเข้าสู่ระบบแล้ว แล้วเกรดเราไม่ดีมันมีสิทธิ์ที่จะโดนรีไทร์ได้ เราก็เลยยังไม่จ่ายค่าเทอมทำตามที่เจ้าหน้าที่คนนี้บอกครับ
พิธีกร : เค้าแนะนำเราว่ายังไง
พงศกร : เขาแนะนำว่าให้ผมไปลงแก้เกรดกับรุ่นน้อง ลงไปเรียนกับรุ่นน้องตามปกติเลย แล้วค่าเทอมยังไม่ต้องจ่ายเดี๋ยวค่อยมาจ่ายทีเดียว แล้วก็มีชื่อในระบบเข้าเรียน แล้วก็มีสิทธิ์สอบด้วย เหมือนคนที่จ่ายค่าเทอมทั่วไปเลยครับ
พิธีกร : นี่แปลกใจมากนะครับ ถ้าไม่ได้จ่ายค่าเทอมแต่ยังมีชื่อที่อยู่ในระบบ ยังเป็นนักศึกษาอยู่ สามารถเข้าเรียนได้ มีชื่ออยู่ในระบบการเรียนด้วย สามารถเข้าสอบได้ มีใบเกรดออกมาไหม
พงศกร : เกรดไม่ขึ้นในระบบ
พิธีกร : เพราะว่าเกรดมันจะออกมาเป็นรายเทอมถูกไหม แต่ละเทอม ไม่มีเกรดออกมา?
พงศกร : คนอื่นผมไม่แน่ใจ แต่ของผมไม่มี ของผมต้องไปดูที่มหาวิทยาลัยเอง เพราะว่าไม่ได้จ่ายค่าเทอม เกรดก็เลยไม่ได้เข้าไปในระบบ ต้องไปดูที่มหาวิทยาลัย
พิธีกร : พอไปดูที่มหาวิทยาลัย เห็นเกรดตัวเอง
พงศกร : เห็นเกรดอยู่ในคอมพิวเตอร์ของเจ้าหน้าที่คนนี้ครับ
พิธีกร : ซึ่งมันไม่ใช่อินเตอร์เน็ตที่สามารถเข้าได้จากที่ต่างๆ
พงศกร : มันเหมือนเป็นข้อมูลในโฟลด์เดอร์ครับ ที่ยังไม่ได้เอาเกรดของผมลงเข้าสู่ในระบบของมหาวิทยาลัย
พิธีกร : คือมันไม่ออกมาเป็นทรานสคริปนั่นเองถูกไหม เพราะว่าเกรดของคนเราเวลาเรียนมหาวิทยาลัยจะถูกบรรจุอยู่ในทรานสคริปเลย แล้วแต่ละปีมันจะถูกเพิ่มเกรดเข้าไปตามรายวิชาที่มันเฉพาะเจาะจงที่เราต้องเรียนอยู่ แต่ว่าของน้องเป็นแค่เอ็กซ์เซลในคอมพิวเตอร์ให้เห็นเลยว่าน่าจะได้เกรดเท่านี้ แล้วล่าสุดเราเพิ่งจ่ายเงินไป 227,500 บาท ตอนที่จ่ายเขาให้เหตุผลว่าอะไร
พงศกร : ตอนจ่ายคือของผมเรียนจบแล้ว ฝึกงานเสร็จแล้ว อบรมเสร็จแล้ว มันก็ต้องถึงเวลาที่ว่าต้องมาจ่ายค่าเทอมเพื่อที่จะเอาวุฒิการศึกษาเพื่อเรียนจบ เขาก็ได้ทักมาบอกว่าเมื่อไหร่จะมาเคลียร์ค่าเทอม ผมก็เลยได้นัดกับคุณพ่อไว้ว่าจะไปจ่ายที่มหาวิทยาลัย อย่างแฟนผมเนี่ยเขาได้จ่ายตามปกติเลยครับ จ่ายผ่านทางมหาวิทยาลัยไม่ใช่เจ้าหน้าที่คนนี้
พิธีกร : ทำไมแฟนถึงจ่ายผ่านมหาวิทยาลัย แล้วทำไมของเราถึงจ่ายผ่านเจ้าหน้าที่คนนี้
พงศกร : คือระบบของเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยที่เป็นบัญชีของผมมันไม่สามารถเข้าได้ ผมก็เลยได้ทักไปถามเจ้าหน้าที่คนนี้ว่าทำไมผมถึงเข้าระบบไม่ได้ครับ ผมอยากพิมพ์ใบแจ้งหนี้ออกมาเพื่อที่จะไปจ่ายค่าเทอม เขาบอกว่าผมเป็นกรณีที่ไม่ปกติ คืออยากให้เรียนไปก่อน เรียนเพื่อแก้เกรดแล้วค่าเทอมค่อยมาจ่าย เดี๋ยวพี่ทำระบบให้ ก็เข้าไปเรียนและเข้าไปสอบตามปกติได้เลย
พิธีกร : ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าถ้าเราเรียนไปตามคำแนะนำของเขา เขาก็จะทำให้เราเรียนจบได้ เขาไปจัดการในระบบได้หมดเลย ไม่เอะใจเลยเนอะ
พงศกร : ไม่เอะใจ เพราะว่าตอนเวลาผมเข้าไปเรียนหรือเข้าไปสอบชื่อของผมอยู่ในระบบหมดเลย
พิธีกร : มาที่น้องกุ๊กบ้างครับ น้องกุ๊กจบการศึกษาไปกี่ปีแล้วครับ
บุปผา : ประมาณ 3-4 ปีค่ะ เข้าเรียนตอนปี 2557
พิธีกร : เรียนจบไป 3-4ปี ไม่ได้ใบทรานสคริปเลย
บุปผา : ไม่เคยได้อะไรเลยค่ะเคยขอทรานสคริปไปแต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นของจริงหรือเปล่า
พิธีกร : แล้วได้ไหม
บุปผา : ได้ค่ะ แต่ก็เอาไปทำอะไรไม่ได้ เพราะว่ามันก็ขึ้นว่าไม่จบ มันเป็นทรานสคริปแต่มันขึ้นว่าไม่จบ หนูก็งงเหมือนกัน หนูก็ไม่กล้าเอาไปยื่นให้ใคร
พิธีกร : ก็ยังไม่ได้ไปใช้สมัครงานที่ไหนเลย
บุปผา : ไม่ใช้ค่ะ
พิธีกร : ทรานสคริปขึ้นว่าไม่จบ ได้สอบถามกลับไปไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น
บุปผา : พอถามไปเขาก็เหมือนบ่ายเบี่ยงเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาว่า เดี๋ยวทำให้ๆ เทอมหน้าอะไรอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
พิธีกร : ก่อนที่จะรู้ว่าตัวเองเรียนไม่จบ เพราะทรานสคริปขึ้นว่าไม่จบ ก่อนหน้านั้นเจ้าหน้าที่คนชื่อปุ๊กมาทำอะไรกับเรา ทำให้เราไว้เนื้อเชื่อใจเขา
บุปผา : เขารู้ว่าหนูมีปัญหา เพราะว่าหนูดรอปเรียนไปหนึ่งเทอม แล้วตอนที่หนูกลับไปเรียนเขาช่วยเหลือหนูดีมาก อย่างเช่น ให้กลับไปเรียนก่อน เรื่องค่าเทอมเดี๋ยวเราค่อยว่ากันเพราะพี่รู้ว่าเรามีปัญหา แล้วเราก็ทำงานไปด้วย หนูก็คิดว่าดีจังเลยมาช่วยเราแบบนี้
พิธีกร : เขาให้เหตุผลอะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าเขาจะช่วยเราได้
บุปผา : เพราะว่าเขาก็เคยบอกว่าเขาเคยมีรุ่นพี่ เขาช่วยได้เหมือนกัน หนูก็เลยเชื่อใจ
พิธีกร : แล้วรุ่นพี่เคยมาพูดกับเราไหม
บุปผา : ไม่นะคะ เคยแต่ได้ยินเขาเล่าให้ฟังว่าเคยช่วยรุ่นพี่แบบนี้ๆ
พิธีกร : อย่างเช่นเรื่องที่เขาช่วยรุ่นพี่ เขาบอกว่าเขาช่วยยังไง
บุปผา : ก็กรณีคล้ายๆ กับหนูอ่ะ คือดรอปเรียนไปแต่ไม่พ้นสภาพนักศึกษา สามารถกลับมาเรียนได้
พิธีกร : แล้วเราก็กลับมาเรียนในระบบได้จริงๆ ด้วย
บุปผา : ได้จริงๆค่ะ เพราะหนูหายไปหนึ่งเทอมเต็มๆ
พิธีกร : ถ้าตามหลักเกณฑ์ของมหาวิทยาลัย ถ้าหายไปโดยที่ไม่ได้ติดต่อมหาวิทยาลัย ไม่ได้ชำระเงินเลย มันพ้นสภาพนักศึกษาไหม
บุปผา : พ้นค่ะ แต่เราก็สามารถกลับมารักษาสภาพได้ โดยจ่ายเทอมละ 2000 บาท เรียกว่าคงสภาพนักศึกษาไว้อยู่
พิธีกร : แล้วเราจ่าย 2000 บาทไหม
บุปผา : จ่ายค่ะ แล้วอันนั้นเขามีใบเสร็จออกมาให้หนูจริงๆ เป็นใบเสร็จรับเงินของมหาวิทยาลัยจริงๆ
พิธีกร : แต่ว่าอันนี้จ่ายเป็นคงสภาพนักศึกษา ไม่ได้กลับมาเรียนตามปกติ ซึ่งคนที่ดรอปเรียนไปยังคงสภาพนักศึกษาสามารถย้อนกลับมาเรียนได้ อันนี้ก็เป็นเรื่องปกติของมหาวิทยาลัย แล้วเค้ามาให้ความหวังมาช่วยเหลือเราว่าอะไร
บุปผา : จะทำให้กลับมาเรียนได้ไม่ต้องเป็นห่วงพี่จะช่วยเอง
พิธีกร : แล้วเขาช่วยได้จริงๆ
บุปผา : ช่วยได้จริงๆ มีชื่อเข้าเรียนกับรุ่นน้อง แล้วในขณะเดียวกันเราก็เรียนกับรุ่นเราด้วย เราจะเรียนควบเลย ตอนที่หนูเรียนจะเรียนระหว่างรุ่น 57 กับรุ่น 58 ซึ่งเป็นรุ่นน้อง ไปเรียนกับรุ่นน้องบางวิชาควบคู่กัน เขาลงตารางเรียนให้เลย
พิธีกร : รู้สึกไหมว่าทำไมมันง่ายอย่างนี้
บุปผา : ไม่ค่ะ แต่ก็รู้สึกดีใจว่ามีคนมาช่วยเรา และก็เชื่อใจเขาตั้งแต่ตอนนั้นเลย รู้สึกว่าถ้าไม่ได้พี่คนนี้เราคงเรียนไม่จบแน่นอน
พิธีกร : ตอนนั้นที่เขามาช่วยเราปีไหน เราเข้าเรียนปี 2557
บุปผา : เขามาข่วยเราปี 2558 เรากลับมาเรียน
พิธีกร : หลังจากปี 2558 การจ่ายค่าเทอมเราจ่ายปกติไหมครับ
บุปผา : ถ้าเป็นเทอม 1-2 หนูจะจ่ายปกติเพราะว่าหนูกู้เงินเรียน แต่เทอม3 คือซัมเมอร์เราไม่สามารถกู้ได้ เราจะต้องจ่ายเอง 20,000 บาท ซึ่งเราก็มีจ่ายช้าบ้าง พอเราจ่ายช้าเราจะไม่สามารถไปจ่ายในระบบ เช่น ไปจ่ายออนไลน์อย่างที่มหาวิทยาลัยแจ้งได้ เพราะเราไม่สามารถปริ้นใบแจ้งหนี้ออกมาได้ และเมื่อจ่ายช้าจะมีค่าปรับ 2,000 บาทต่อหนึ่งเทอม พี่คนนี้ก็เลยบอกอีกว่ามันสามารถทำยกเว้นค่าเทอมได้ คือถ้าเราจ่ายช้ามีค่าปรับ เราก็ไม่ต้องจ่ายค่าปรับ ก็คือมันได้ประโยชน์ของเรา เราก็รู้สึกว่าดีมากเลยช่วยแนะนำเราไม่ให้เราต้องเสีย 2,000 บาท แล้วครั้งแรกที่หนูเคยจ่ายเขาไป เขาก็เอาไปจ่ายให้จริงๆ แล้วในระบบก็ขึ้นปกติจริงๆ ก็เชื่อใจมาตั้งแต่ปี 2558 เทอม 2
พิธีกร : หลังจากนั้นเอาเงินไปจ่ายผ่านเจ้าหน้าที่ที่ชื่อปุ๊กคนนี้อีกกี่รอบ
บุปผา : ทั้งหมด 4 ครั้งค่ะ ก็จะเป็นปี 2558 – 2560 แต่พอไปจ่ายแล้ว ใบเสร็จได้เป็นกระดาษ A4 สีขาว เขียนว่าใบรับเงินแต่ไม่ใช่ใบเสร็จรับเงินที่ออกโดยทางมหาวิทยาลัย
พิธีกร : แล้วออกโดยใครครับ
บุปผา : ออกโดยตัวเขาเองเป็นใบปลอม แล้วชื่อคนรับเงินก็คือชื่อเขานั่นแหละค่ะ มีตราประทับมหาวิทยาลัยปั๊มบนชื่อเลย ซึ่งมันไม่เหมือนหน้าตาของใบเสร็จรับเงินของมหาวิทยาลัย เพราะของมหาวิทยาลัยจะเป็นเหมือนใบเสร็จรับเงินทั่วไป จะมีลวดลาย แล้วก็มีก๊อปปี้สำเนาสองแผ่น ซึ่งอันนี้ได้แค่กระดาษA4สีขาวใบเดียว แล้วเป็นใบรับเงินไม่ใช่ใบเสร็จรับเงิน ด้านบนมีชื่อมหาวิทยาลัยและด้านล่างมีตราประทับมหาวิทยาลัย เราก็เชื่อค่ะ ตอนแรกหนูจะไม่เอาใบนี้มาเป็นหลักฐานด้วยซ้ำ เพราะคิดว่ามันคือใบจริงมีตราประทับมีลายเซ็นเขาเอง เขาจะกล้าทำขนาดนี้หรือ หนูได้ใบรับเงินแบบนี้มา 2 ใบ ใบละ 20,000 บาท แล้วก็มีน้องสาวอีก 2 ใบเหมือนกันค่ะ เป็นน้องสาวฝาแฝดเรียนคณะเดียวกัน ทุกอย่างเหมือนกันหมด มีปัญหาเหมือนกันหมด แล้วเจ้าหน้าที่ที่ชื่อพี่ปุ๊กก็ช่วยเหลือเหมือนกัน
พิธีกร : ของตั๋นกี่ปีนะที่ไม่ได้จ่าย
พงศกร : ของผมไม่ได้จ่ายเกือบ 3 ปี
พิธีกร : แล้วน้องตั๋นก็ได้รับการประสานงานบอกว่ายังไม่ต้องจ่าย จนกระทั่งงวดสุดท้ายตอนปีสุดท้าย เลยบอกให้จ่ายรวดเดียวแล้วโอนเงินเข้าบัญชีของมหาวิทยาลัย?
พงศกร : ของเจ้าหน้าที่คนนั้นโดยตรงเลยครับ
พิธีกร : ทำไมเราถึงเชื่อใจโอนให้กับเขา ทำไมถึงไม่โอนให้กับมหาวิทยาลัย
พงศกร : ตอนแรกของผมคุณพ่อเป็นคนจ่าย แล้วคุณพ่อก็เอะใจแล้ว คือเจ้าหน้าที่คนนี้เขาบอกว่าได้พกเงินสดมาไหม ซึ่งคุณพ่อผมไม่ได้พกมาเพราะมันเป็นเงินจำนวนเยอะมาก ไม่สามารถเตรียมมาได้ทัน เขาก็เลยให้ข้อเสนอมาว่าให้โอนไปที่บัญชีของเขา แล้วเขาจะกดเงินออกมาและนำไปจ่ายที่มหาวิทยาลัยให้ แล้วให้ออกใบเสร็จให้ก่อน
พิธีกร : คุณพ่อเอะใจแล้วทำไมคุณพ่อถึงยอมโอน
พงศกร : เพราะว่าคุณพ่อก็อยากให้ผมเรียนจบด้วย แล้วก็ถือเป็นความผิดของผมเองด้วยที่บอกพ่อว่าเราไว้ใจเขา
พิธีกร : ได้ข่าวว่าไม่รู้จักกันมาก่อนด้วย
พงศกร : ตั้งแต่แรกไม่รู้จักกันมาเลย ผมเรียนมาปีกว่ายังไม่รู้จักกันมาเลย อยู่ๆ เขาก็ตรงดิ่งมาหาผมแล้วบอกว่าเกรดผมไม่ค่อยดีนะ ถ้าจ่ายค่าเทอมไปก็จะสุ่มเสี่ยงกับการโดนรีไทร์ได้ก็เลยไม่อยากให้ผมจ่ายค่าเทอม ก็เลยแนะนำตามกระบวนการของเขา
พิธีกร : ได้คุยกับคนในกลุ่มที่โดนเหมือนกันไหม
บุปผา : ตอนนี้มี 80 กว่าคนแล้วค่ะ ซึ่งทั้งหมดมีปัญหาเหมือนกันหมดเลย
พิธีกร : มีปัญหาเรื่องของการเรียนเหมือนกัน ดรอปเรียน เกรดไม่ดีเหมือนกัน
พงศกร : มีหลายกรณีครับ มีทั้งโดนค่ารักษาสภาพนักศึกษา หรือจะเป็นค่าอบรม หรือจะเป็นค่าเทอม บางคนก็ได้ยินมาว่าโดนขอยืมเงินเหมือนกัน
พิธีกร : ล่าสุดครับทางอธิการบดีของมหาวิทยาลัยได้ออกแถลงการณ์ออกมา บอกว่า จะดำเนินการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบ หลังจากนั้นจะให้ผู้ที่ทำผิดคนนี้พ้นสภาพ ซึ่งตอนนี้พ้นสภาพไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่เรื่องนี้เป็นประเด็นมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 แล้วก็มีการย้ายเจ้าหน้าที่คนนี้ให้เข้ามาอยู่ที่ส่วนกลาง ในเดือนตุลาคม 2564 และ สุดท้ายพ้นสภาพเมื่อ 31 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา จากนั้นทางมหาวิทยาลัยบอกว่าจะเยียวยานักศึกษาทุกคนที่ได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้น จะจ่ายเงินคืนเป็นค่าเทอมเต็มจำนวนที่นักศึกษาจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่คนนี้ และนักศึกษาทุกคนจะมีสิทธิ์พึงได้ ได้รับใบทรานสคริปและมีชื่อรับปริญญาแน่นอน
ในช่วงที่ 2 ของรายการ พิธีกรยังได้เปิดคลิปเสียงของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวที่ชื่ออลิสา หรือ ปุ๊ก ซึ่งนางสาวบุปผาได้อัดเสียงสนทนาไว้ เพราะเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้โทรหานางสาวบุปผาเมื่อวานที่ผ่านมา
…
บทสนทนาระหว่างนางสาวบุปผา นักศึกษา และเจ้าหน้าที่ผู้ก่อเหตุ
บุปผา : แล้วพี่จะจัดการยังไง
ปุ๊ก เจ้าหน้าที่ผู้ก่อเหตุ : ก็เดี๋ยวพี่จะคุยกับอธิการบดีว่า เดี๋ยวพี่ก็ต้องเป็นคนทำให้พวกหนู จะขอเข้าไปเคลียร์ให้ เพราะว่าพี่จะรู้ปัญหาพวกหนูมากที่สุดถูกต้องไหม
บุปผา : อันนี้หนูไม่รู้พี่ก็ต้องไปจัดการเรื่องของพี่เอาเอง เพราะว่าหนูก็ดำเนินการในเรื่องของหนูไปแล้ว
ปุ๊ก เจ้าหน้าที่ผู้ก่อเหตุ : เออ ก็ไม่เป็นไรพี่ไม่ได้โกรธ ที่โทรมาก็คือจะขอโทษหนูนี่แหละ เข้าใจยัง
บุปผา : แล้วหนูอยากรู้ว่าพี่จะคืนเงินพวกหนูยังไง
ปุ๊ก เจ้าหน้าที่ผู้ก่อเหตุ : คือยังไง ก็คือเดี๋ยวเขาก็จะต้องทำให้หนูจบไง เข้าใจยัง
บุปผา : ไม่ แล้วเรื่องเงินล่ะ
ปุ๊ก เจ้าหน้าที่ผู้ก่อเหตุ : ทำไมต้องคืนอ่ะ ก็เดี๋ยวเขาก็คืนออกให้ไงมหาวิทยาลัยอ่ะ เข้าใจยัง
บุปผา : อ้าว อย่างนี้พี่ก็เอาเงินหนูไปแล้วยกให้มหาวิทยาลัยไปอย่างนี้เหรอ
ปุ๊ก เจ้าหน้าที่ผู้ก่อเหตุ : นี่แกเข้าใจอะไร ถามว่าแกต้องจ่ายถูกต้องไหม พี่ปุ๊กก็ต้องจ่ายให้มหาวิทยาลัย
บุปผา : ใช่ แล้วพี่จะคืนเงินไหมยอดเงิน 2 ล้านกว่าบาทเนี่ย เด็กตั้งหลายคน
ปุ๊ก เจ้าหน้าที่ผู้ก่อเหตุ : ฟังก่อน แต่ละคนเนี่ยพี่จ่ายไปบ้างแล้ว
พิธีกร : เขาอ้างว่าเขาจ่ายไปบ้างแล้วด้วย แต่เมื่อถามว่าจะคืนเงินไหม เขากลับตอบว่าเดี๋ยวพี่ไปเคลียร์ให้ และบอกว่าทำไมต้องคืนเงิน ก็ต้องเอาเงินไปจ่ายมหาวิทยาลัยสิ และจะทำให้น้องๆ เรียนจบได้ แต่คนๆ นี้พ้นสภาพไปตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคมแล้ว ซึ่งบทสนทนาดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 4 สิงหาคม แต่ยังแอบอ้างว่าจะจัดการเรื่องให้กับน้องได้ เรื่องนี้ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลแล้วล่ะครับ ทนายรณณรงค์ ครับ
ทนายรณณรงค์ : เวลาเกิดเหตุการณ์แบบนี้มหาวิทยาลัยปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้นะครับ จะมาโยนความผิดไม่ได้ เพราะน้องๆ นักศึกษาไม่รู้เรื่องอะไรเลย เจ้าหน้าที่คนนี้เองก็เป็นคนที่คอยดูแลประสานงานกับนักศึกษามาโดยตลอด มหาวิทยาลัยแต่งตั้งให้เขาดูแลนักศึกษา เป็นคนดูแลงานบริการมหาวิทยาลัย เมื่อให้เขาดูแลงานบริการ เขาก็อาจจะไปรับฝากเงินจากนักศึกษาเพื่อจะเอาไปจ่ายค่าเทอมก็ได้ แล้วมหาวิทยาลัยทำหลายอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งมหาวิทยาลัยรู้ว่าเขารวบรวมหลักฐานไปยื่นมหาวิทยาลัย ทำไมผ่านมาเป็นปีแต่ทางมหาวิทยาลัยไม่ดำเนินคดีอะไรเขา เด็กไม่ได้ไปเขียนยกเว้นค่าธรรมเนียมค่าเทอมเองช่วงโควิด-19 ถ้าดูตามระเบียบของพระราชบัญญัติที่กฎหมายตัวนี้นะ ข้อบังคับสภามหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา ว่าด้วยการสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีข้อ 24 ข้อที่ 3 ไม่มีค่าธรรมเนียมต่างๆหรือค่าอื่นๆ ที่ค้างชำระตามที่มหาวิทยาลัยเรียกเก็บ นั่นแสดงให้เห็นว่าช่วงที่มีการขอพักชำระ น้องนักศึกษาไม่ได้เป็นคนยื่นเรื่อง เมื่อน้องไม่ได้เป็นคนยื่นแสดงว่ามหาวิทยาลัยเป็นผู้เสียหาย เพราะถูกนำเอกสารไปแอบอ้าง หลอกลวง จำนวน 60 คนก็ 60 เรื่อง
พิธีกร : แนะนำน้องๆ ว่ายังไงดีครับ จากนี้ไป
ทนายรณณรงค์ : ก่อนจะแนะนำน้อง ทางมหาวิทยาลัยต้องรับผิดชอบตัวเองก่อน ไม่ใช่มาโยนให้นักศึกษาทำ มหาวิทยาลัยต้องไปแจ้งความแล้วเอกสารใบเสร็จที่เขาเอาไปยื่นทุกอันมันปลอมหมด เพราะมันไม่ได้มีการมอบอำนาจไปให้ ไม่จำเป็นต้องให้เด็กไปแจ้งความแบบนี้เลยด้วยซ้ำ มาวุ่นวายอะไรกับเด็ก เพราะเด็กก็แค่จ่ายเงินไปตามปกติเพียงแต่จ่ายผิดคน แต่ถ้าให้น้องนักศึกษาเป็นเจ้าทุกข์ไปแจ้งความเอง ผมไม่เห็นด้วย มันต้องเป็นหน้าที่ของมหาวิทยาลัยไปทำให้ ถ้าน้องนักศึกษาจะเป็นเจ้าทุกข์ไปแจ้งเอง แนะนำให้ไปเอาผิดนายกสภามหาวิทยาลัย หรืออธิการบดีมหาวิทยาลัยง่ายกว่า
พงศกร : อยากจะถามทนายรณรงค์ว่าผมควรที่จะฟ้องทางมหาวิทยาลัยจากนี้ไ
ทนายรณณรงค์ : ถ้าทางมหาวิทยาลัยรับผิดชอบเราแล้ว เราก็รับส่วนที่เขารับผิดชอบเอาไว้ แต่ถ้าเราประสงค์ที่จะดำเนินคดีฟ้องมหาวิทยาลัยด้วย เพราะถือว่ามหาวิทยาลัยประมาทเลินเล่อ ปล่อยประละเลยให้บุคลากรมาหลอกนักศึกษาได้ยังไง น้องๆ รวมตัวกันแล้วไปยื่นถึงรัฐมนตรีดีกว่าบอกให้สั่งย้ายเถอะ
พิธีกร : แต่เมื่อวันที่สามสิงหาคมที่ผ่านมาทางมหาวิทยาลัยบอกว่าจะรับผิดชอบหลายอย่างเลยทำให้น้องๆ เรียนจบได้
ทนายรณณรงค์ : แล้วที่ผ่านมาเด็กขาดโอกาสที่จะไปสมัครงาน ความรับผิดชอบอยู่ตรงไหน ค่าเสียโอกาสอยู่ตรงไหน รับผิดชอบเยียวยาแค่นี้หรือ เด็กขาดโอกาสไปตั้งกี่ปี
พิธีกร : น้องกุ๊กมองว่าพอไหม สำหรับความรับผิดชอบแบบนี้
บุปผา : หนูคิดว่าไม่พอสำหรับ 3 ปีที่หนูเสียโอกาสไป หลังจากนี้ก็จะลองปรึกษาคุณทนายดูค่ะ
พิธีกร : ทนายรณณรงค์ครับ ณ ตอนนี้ถ้าจะให้คำปรึกษาทุกคนเลย โดยภาพรวมเขาจะต้องไปจ้างทนายความหรือยังไงครับ
ทนายรณณรงค์ : เราสามารถฟ้องฟรีที่ศาลปกครองกลางได้เพื่อเรียกค่าเสียหายของนักศึกษาแต่ละคน แต่ก่อนหน้าที่จะไปฟ้อง น้องๆ รวมตัวกันไปหาท่านรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงอุดมศึกษาโดยเฉพาะก่อน บอกถึงปัญหากับท่านรัฐมนตรี และให้ท่านตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ เข้ามาตรวจสอบปัญหาภายในว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถ้ามีคนรู้เห็นกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวให้ดำเนินคดีด้วยไม่ใช่โยนปัญหามาให้นักศึกษา
พิธีกร : น้องๆ จะหาทนายความใครดีครับ
ทนายรณณรงค์ : มาหาพี่ได้เลย
พิธีกร : ทนายรณณรงค์รับน้องๆ ให้เข้าไปปรึกษาปัญหาเรื่องนี้ได้นะครับ
ทนายรณณรงค์ : ได้ครับ ไม่มีปัญหาเลย