KEY :
- จากประเด็นหลวงปู่แสง กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในประเทศไปแล้ว
- นักวิชาการด้านศาสนา ตั้งข้อสังเกต การนำผู้ป่วย ซึ่งเป็นเพราะออกมารับกิจแบบที่เกิดขึ้น ไม่เหมาะสม พร้อมอยากให้มีการตรวจสอบที่มาที่ไปว่า ทำไมถึงนำหลวงปู่ออกมา ซึ่งควรนำหลวงปู่ไปรักษามากกว่า
- อดีตพระไพรวัลย์ ระบุว่า กรณีนี้ คนรอบตัวผิดชัดเจน เพราะคนที่รู้อะไรควร ไม่ควร คือคนรอบตัวหลวงปู่ พระที่อาพาธ ควรพาไปรักษา ไม่ใช่ออกงาน เรื่องที่เกิดขึ้นกับหลวงปู่แสงถือเป็นเรื่องที่แย่มาก
- ทั้งนักวิชาการ และอดีตพระไพรวัลย์ระบุ เรื่องที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้ สำนักพุทธฯ ควรจะต้องมีการดำเนินการตรวจสอบ และดูแลสิ่งเหล่านี้ โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องของเงินบริจาคต่าง ๆ
…
จากประเด็นที่ทีมงานหมอปลา ที่ได้มีการเดินทางไปยังสำนักสงฆ์ดงสว่างธรรม อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร โดยระบุว่า เป็นการไปตรวจสอบพฤติกรรมของพระสงฆ์ที่ประพฤติไม่เหมาะสม ซึ่งในเวลาต่อมาก็ การเผยแพร่คลิปที่ระบุว่า เป็นการจับเนื้อต้องตัวหญิงสาว ของหลวงปู่แสง ญาณวโร
จนกระทั่งเกิดกระแสต่าง ๆ นาน ก่อนที่ในภายหลังกระแสจะตีกลับไปยังหมอปลา และทีมงานที่เดินทางไป เนื่องจากผู้ใกล้ชิดออกมาระบุว่า “หลวงปู่แสง ญาณวโร” มีอาการป่วยโรคอัลไซเมอร์ ทำให้หลายฝ่ายมองว่า การกระทำของหมอปลานั้นไม่เหมาะสม จากในประเด็นนี้ ในรายงาน The Day Update Special ได้พูดคุยกับอดีตพระนักเทศน์ชื่อดัง คุณไพรวัลย์ วรรณบุตร พร้อมแนวทางแก้ปัญหาฉาววงการสงฆ์กับคุณจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการด้านศาสนา
![](https://mono29.com/app/uploads/2022/05/2-7-1024x576.jpg)
นักวิชาการตั้งข้อสังเกต “ประโยชน์ของใคร”
คุณจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการด้านศาสนา ระบุว่า จากการที่ได้คุยกับเหยื่อบางคน ก็ได้ข้อสรุปบางอย่าง ประมาณว่า การจับของหลวงปู่ไม่ใช่จับแบบหื่นกาม หรือมีความกำหนัด แต่การจับนั้นมีความรุนแรงมากกว่ามนุษย์ปกติ ซึ่งเป็นอาการหนึ่งของภาวะอัลไซเมอร์ ยังไม่รวมเรื่องของการเล่นอุจจาระ อาการเหล่านี้เป็นตัวชี้วัดชัดๆ เลยว่าไม่ปกติ เคสนี้เราต้องยอมรับว่ามันไม่ปกติจริงๆ ครับ
ดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์มาเยอะทั้งพระและบุพการีตัวเอง การรักษาก็มีการจ่ายยาบางกลุ่ม ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่ข้องใจคือผู้ดูแลมีความหวังดีกับผู้ป่วยมากแค่ไหนที่ทอดทิ้งการรักษาแบบนั้น แล้วในเอกสารก็ระบุชัดว่า หมอให้มาตรวจซ้ำด้วยเหตุอะไรยังไง ดังนั้นการที่คุณเลือกเพิกเฉย ไม่เอาคนไข้ไปตรวจตามกระบวนการต่อ ผมว่าผิดปกติ เหมือนเจตนาหวังอะไร ดังนั้นความรู้สึกผม ถ้าคุณเจตนาหวังดีต่อคนไข้ต้องเอาไปรักษาให้หาย ไม่ว่าอะไรก็ตาม ไม่ใช่ว่ารักษาแล้วปล่อยต่อส่งญาติพี่น้องมารับยาไปแทน กระบวนการรักษายังไม่ถึงที่สิ้นสุด จู่ๆ ก็หยุดการรักษาไปเอง มันมีประเด็นอะไรที่น่าขบคิดเยอะพอสมควร ถ้าเราหวังดีกับคนไข้จริงๆ หรือถ้าอยากให้คนไข้หาย เขาจะไม่ทอดทิ้งคนไข้แบบนี้
กรณีของ ซิฟิลิส เป็นโรคที่ติดต่อได้ทางสารคัดหลั่ง เนื้อเยื่ออ่อน การดูแลบาดแผลระหว่างผู้เป็นโรคอยู่เดิมแล้วกับบาดแผลของผู้ไม่มีโรคอาจจะติดกันได้ ซึ่งคุณจตุรงค์ ระบุว่า “สำหรับผมแค่ซิฟิลิส อันนี้เป็นเรื่องปกติครับ”
![](https://mono29.com/app/uploads/2022/05/6-7-1024x576.jpg)
พระรอบตัวถือว่า ผิดชัดเจน
อดีตพระไพรวัลย์ ระบุว่า คนที่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ควรต้องทำอะไรหรือไม่ควรต้องทำอะไรดีที่สุดก็คือ คนที่อยู่ใกล้ชิดพระผู้ใหญ่แทบจะทุกเคสเลยในกรณีของพระผู้ใหญ่ ไม่ใช่เฉพาะของหลวงปู่แสง ส่วนใหญ่แล้วลูกศิษย์ไม่ค่อยรู้ความครับ หมายความว่าไม่ค่อยรู้ว่าควรจะต้องให้ครูบาอาจารย์ตัวเองทำอะไร
บางรูปอายุมากแล้วควรจะได้พักผ่อนก็ไม่ให้ท่านพักผ่อน บางรูปมีอาการอาพาธ ควรจะได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องก็ไม่ได้รับการรักษา เอาท่านออกงาน ใช้งาน ผมว่าแย่มากครับ
อย่างกรณีหลวงปู่แสง ถ้าลูกศิษย์รู้ว่าท่านมีอาการเป็นอัลไซเมอร์ หลงๆ ลืมๆ หรือการรับแขกทำไม่ได้เลยนะครับ จะปล่อยให้ท่านมานั่งรับแขกพูดคุยกับญาติโยมแบบนี้ ไม่ควร เพราะว่าโดยภาวะหลงๆ ลืมๆ หลวงปู่จะแสดงกิริยาอาการอะไร ซึ่งมันชวนให้เข้าใจผิดหรือไม่น่าเลื่อมใสสำหรับญาติโยมที่มาหาและไม่รู้ว่าหลวงปู่มีภาวะแบบนี้บ้าง
เคสนี้มันชัดเจนเลย คุณรู้ว่าหลวงปู่เป็นอย่างนี้ คุณยังให้ผู้หญิงเข้าใกล้ แล้วที่น่าเกลียดที่สุดที่อยากตำหนิที่สุดก็คือ พระอุปัฏฐากนะ คุณบอกว่าคุณเป็นพระสายวัดป่าหรือพระปฏิบัติ แต่คุณปล่อยให้มีภาพแบบนี้ออกมาได้ยังไงมันน่าเกลียดมาก
![](https://mono29.com/app/uploads/2022/05/7-6-1024x576.jpg)
ส่วนกรณีการที่สัมผัสแตะเนื้อต้องตัวสากีในครั้งนี้ อดีตพระไพรวัลย์ระบุว่า ข้อพระวินัยมันมีชัดเจนอยู่แล้วว่า อาบัติมีข้อยกเว้นสำหรับภิกษุที่มีสติฟั่นเฟือน ไม่รู้สึกตัว ท่านไม่ถือโทษสำหรับภิกษุที่มีภาวะแบบนี้
ซึ่งในกรณีนี้ พระที่อยู่รอบข้างผิดชัดเจน ที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แม้ในข้อพระวินัยมันอาจจะไม่ได้ระบุน แต่โดยภาพการณ์ที่มันเกิดขึ้น ต้องคาดโทษ หรือว่าต้องมีกระบวนการอะไรบางอย่างที่คุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าจะทำยังไงต่อไป เปลี่ยนพระอุปัฏฐากไหม หาพระอุปัฏฐากที่ไว้ใจได้ที่รู้ข้อพระวินัยดีกว่านี้ไหม
ผู้พิทักษ์/ผู้อนุบาล ไม่มีวุฒิภาวะ
คุณจาตุรงค์ ให้ความเห็นในประเด็นของคนใกล้ชิดหลวงปู่แสงว่า ลักษณะนี้เป็นลักษณะของผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลที่ไม่มีวุฒิภาวะ ทำเพื่อหวังประโยชน์ใคร คุณหวัง welfare หรือคุณหวังผลประโยชน์ให้กับผู้ป่วย หรือคนไข้หรือคุณหวังผลประโยชน์ให้กับตัวพวกคุณเอง อันนี้น่าสงสัยมาก
![](https://mono29.com/app/uploads/2022/05/6-8-1024x576.jpg)
จากคลิปที่มีการล่อซื้อกันในคลิปนั้น เห็นอาการทั้งตัวพระและตัวลูกศิษย์มันก็เห็นได้ชัดเจน ว่าเขารู้อยู่ว่าปัญหาคืออะไร ไม่งั้นไม่ไปยืนคุมเชิงกันแบบนั้น เขารู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถึงต้องส่งผู้ชายอีก 2 คนไปยืนคุมเชิง
ต้องเข้าใจว่า เวลาดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์จะมีปัญหาหนึ่งอย่าง คือเรื่องการขย้ำหรือกำที่ผิดไปจากคนปกติ คือจะใช้แรงที่มากกว่าปกติและก็ชอบขย้ำ ชอบเล่นอะไรที่มันผิดปกติ ผมว่ามันเป็นอะไรที่มันเป็นอีกตัวชี้วัดหนึ่งที่สำคัญ ดังนั้นคืออย่าเป็นผู้หญิงเลย ผู้ชายก็ได้ เอาหมา แมว โยนลงไปก็ได้ อาจตายได้ เพราะขย้ำผิดปกติ เพราะไม่สามารถควบคุมร่างกายได้
เพราะฉะนั้นในความรู้สึกผม ผมว่าเขารู้ครับ เพราะถ้าไม่รู้ไม่ส่งชายฉกรรจ์ไปยืนประกบแบบนั้น เขารู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น โดยตนเองเชื่ออย่างนั้น แต่ถามว่าจะใช่หรือไม่ ถ้ามันมีกระบวนการนำสู่ชั้นศาลจริงๆ ก็คงต้องให้เบิกความว่าคุณหวังอะไร แล้วการที่ส่งคนไปคุมแบบนั้น มันใช่เรื่องการฉลองศรัทธาญาติโยมหรือไม่ หรือเป็นเรื่องการจัดคิวผลประโยชน์ใด ได้เงินบริจาค ลาภสักการะ ซึ่งทางคณะสงฆ์ไม่ว่าจะทางยโสธรหรือมหาสารคาม ทั้ง 2 คณะสงฆ์ควรจะตรวจสอบว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับพระกลุ่มนี้ แล้วพระกลุ่มนี้เอาคนแก่ คนชรา ระดับใกล้ 100 ปีมาทำอย่างนี้เพื่ออะไรมากกว่า
![](https://mono29.com/app/uploads/2022/05/11-5-1024x576.jpg)
ไม่ใช่เรื่องของเสน่หาใด ๆ
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า การจับเนื้อต้องตัวนั้น เป็นเรื่องของเสน่หาหรือไม่ คุณจาตุรงค์ระบุว่า ไม่ใช่ภาพเสน่หา มันคือการจำไม่ได้ว่าให้พระแล้ว หากดูในคลิปหมอปลา จะเห็นว่าท่านทำอะไรแบบรูทีน เห็นคนเยอะก็โยนพระให้ โดยที่ไม่ได้สนใจสิ่งที่คนพูด หรือฟังแล้วอาจจะไม่เข้าใจแล้ว เพราะวิจารณญาณหรือสามัญสำนึกท่านจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
ดังนั้นก็อยากให้วางใจเป็นกลาง ๆ ในเรื่องนี้ ส่วนตัวเชื่อว่า พระอลัชชีมีให้ไล่ล่าอีกเยอะ แต่การที่เราจะมาไล่ล่าคนป่วย ผู้พิการ หรือเยาวชนเนี่ย ก็อยากจะฝากหลายช่องที่ได้ดูรายการวันนี้ว่า กสทช. ก็จับตาดูอยู่ และคงไม่ปลื้ม ไม่อย่างนั้นบางช่องไม่คาดโทษนักข่าวภาคสนาม เพราะว่าจะทำให้เจ้าของช่องเขาซวย เพราะการที่คุณไปแสดงอาการกิริยาอย่างนั้น ไปตัดสินแหล่งข่าวแบบนั้น แล้วใส่เสื้อที่มีโลโก้ของช่องไปทำพฤติการณ์แบบนั้นเนี่ย กสทช.ก็ไม่ได้ปลื้ม
ประเด็นเงิน 57 ล้านบาท ซึ่งมีระบุว่า หลวงปู่เซ็นต์อนุมัติ
ซึ่งในประเด็นนี้ คุณจาตุรงค์ ระบุว่า ไม่ทราบว่า ในขั้นตอนนั้นใช้วิธีอะไร การใช้ปั๊มลายนิ้วมือ หรือการแอบทำธุรกรรมออนไลน์กันเอง แต่ความเป็นไปได้ก็มีหลายช่องทาง หากถามว่าที่ถูกต้องควรจะทำยังไงเนี่ย เจ้าคณะปกครองหรือคณะสงฆ์ท้องที่ควรจะต้องหาใครมาเป็นผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลที่ไว้ใจได้ เพื่อดูแลทั้งสุขภาพ การเงิน ทุกอย่าง ซึ่งต้องเป็นผู้อนุบาลที่ศาลสั่ง ไม่ใช่ใครก็ได้ ต้องไปเสาะหาญาติ แต่หากไม่มีจริงๆ คณะสงฆ์ทั้งยโสธรและมหาสารคาม ควรจะต้องตั้งทนายร้องผู้อนุบาลมาจัดการ หรือสำนักพระพุทธศาสนา ก็ต้องตั้งนิติกรขึ้นมาทำงาน
และในประเด็นเรื่องเงินบริจาค อดีตพระไพรวัลย์ ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันคือ คณะสงฆ์ควรตั้งคณะกรรมการขึ้นมาจัดการพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินโดยตรง ว่าในทางกฎหมายทำอะไรได้บ้าง เช่น
ฟ้องให้หลวงปู่มีภาวะเป็นบุคคลไร้ความสามารถ แล้วก็ทำยังไงก็ได้ให้เงินนั้นตกมาเป็นศาสนสมบัติส่วนกลาง เป็นของวัดไป เพื่อที่จะได้มีคณะกรรมการเข้ามาดูแล แต่ถ้ามันอยู่ในชื่อที่มีอำนาจของหลวงปู่คนเดียว มันจะยุ่งและก็ง่ายต่อการที่จะถูกยักย้ายถ่ายโอนหรือถูกนำไปใช้อะไรที่ไม่ถูกวัตถุประสงค์ของคนที่เขาตั้งใจจะทำบุญด้วยความศรัทธาในหลวงปู่
กรณีที่ศรัทธาท่านก็ศรัทธาไป แต่เวลาที่จะถวายปัจจัยเงินทองหรือจะบำรุงอุปัฏฐากท่าน ไปสนับสนุนไปทำบุญในโครงการที่ท่านสร้างที่เป็นสาธารณะประโยชน์ดีกว่า อย่าไปถวายส่วนตัว พระหลายรูปเสียเพราะรับเงินถวายส่วนตัวมาเยอะแล้ว ถึงตัวท่านไม่เสีย ท่านก็ถูกทำให้เสียโดยกลุ่มลูกศิษย์ในภายหลัง ซึ่งไม่อยากให้มีกรณีแบบนี้
![](https://mono29.com/app/uploads/2022/05/5-10-1024x576.jpg)
กรณีการนำเอาปัสสาวะ – อุจาระ หลวงปู่มากล่าวอ้างเป็นมงคล
ในประเด็นที่มีการพูดถึงอีกประเด็นหนึ่งนั่นคือ การที่มีผู้ศรัทธา และนำของเสียของหลวงปู่ และมีการกล่าวอ้างว่าเป็นวัตถุมงคล วัตถุธาตุ มีความเชื่อมีความศรัทธาถึงขั้นว่าสิ่งต่างๆ ที่ออกมาไม่ว่าจะเป็นอุจจาระ ปัสสาวะ สามารถเอามาบูชา ดื่มกินได้นั้น อดีตพระไพรวัลย์มองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการหลงทางอย่างมาก
วิธีการที่คุณศรัทธาต่อพระครูบาอาจารย์ หรือพระเกจิอะไรก็ตามแต่ที่คุณเชื่อว่าท่านเป็นพระปฏิบัติดี วิธีการศรัทธาที่ถูกสำหรับพุทธ ทำไมเรานับถือพระสงฆ์ เพราะถ้าท่านมีรูปแบบวิถีชีวิตที่ควรแก่การเอาเป็นแบบอย่าง ตั้งสมถะ เรียบง่าย มีศีลธรรม วิธีการศรัทธาแบบศาสนาพุทธต้องศรัทธาแบบนี้ ศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้ไปบูชา ขี้ เยี่ยว เป็นพระธาตุ
เรื่องเหล่านั้นมันเลอะเทอะ เปรอะเปื้อน และแทนที่มันจะเป็นผลดีต่อพระที่คุณศรัทธา มันกลับเป็นผลเสีย และมันก็เป็นสร้างค่านิยมอย่างหนึ่งว่า พระรูปไหนถ้าถูกอ้างว่าเป็นพระปฏิบัติดีก็จะต้องมีเรื่องแบบนี้ตลอดไป อยากให้พระปฏิบัติดีก็เป็นพระปฏิบัติดีโดยส่วนตัวท่าน โดยไม่ต้องมีเรื่องพวกนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วมันจะน่าบูชา น่านับถือ
ของบางอย่างนั้น ถ้าเราปฏิบัติถูกต้อง ไม่มีปัญหาเลย เช่น พระบูชา เราเอามาเพื่อเป็นเครื่องเตือนสติว่าครั้งหนึ่งเคยไปกราบท่าน แล้วท่านให้ของเรามา ของเหล่านี้เราได้มาแล้วทำให้ใจเรานึกถึงท่าน เคารพท่าน แล้วก็ทำตัวดีปฏิบัติดี อันนี้ถูกทาง แต่ไม่ใช่เชื่อว่าเราได้มาแล้วทำให้เราเป็นนู่นเป็นนี่ อันนี้เลอะเทอะ ผิดทาง
โบราณมีการดื่มน้ำปัสสาวะในฐานะของยา แต่ทุกวันนี้เทคโนโลยีเราไปไกลแล้ว
คุณจาตุรงค์ให้ความเป็นในการการดื่มปัสสาวะว่า พระเหล่านี้ชอบไปอ้างคำภีร์โบราณ อินเดียโบราณ อ้างอียิปต์โบราณบ้าง แต่หลายตำรับตำรา เขาใช้ในฐานะยาปฏิชีวนะ เนื่องจากเมื่อ 2000-3000 ปีก่อน ยาปฏิชีวนะไม่มี ก็ต้องใช้วิธีนี้ทดแทน แต่ไม่ได้ใช้ซดเป็นยาบำรุงหรือเป็นอาหารเสริมอย่างที่ออกสื่อกันนะครับ และทุกวันนี้เรามีเทคโนโลยีในการผลิตยาปฏิชีวนะที่ก้าวไกลไปมากแล้ว ทำไมเราจะต้องถอยหลังกลับไปสู่การกินปัสสาวะดอง
ส่วนแพมเพิส ผมเข้าใจว่าเขาต้องการเม็ดสีๆ เพื่อให้เป็นพระธาตุ นั่นมันสารดูดซับความชื้นรึเปล่า แบบนี้เป็นการสร้างความเชื่อ เป็นการหลอกลวง
นักวิชาการเห็นว่า การเปิดเผยดีแล้ว แต่ต้องปรับปรุง
สื่อจะทำอะไรทำไปเถอะ แต่ผมเป็นห่วงสื่อจะมีปัญหากับ กสทช.มากกว่าถ้าเขาเข้ามากวดขัด แต่อย่างไรก็ตามสื่อสามารถทำอะไรก็ได้ ส่วนจะดีกับวงการสงฆ์จริงๆ หรือไม่ สำหรับผมมองว่ามันเป็นอย่างนี้มาตลอดในอดีตเพียงแต่ไม่ได้ถูกนำมาพูดกัน และมันก็จะเป็นอย่างนี้ตลอดไปทั้งวงการสื่อและวงการสงฆ์ ในมุมมองผมการถูกทำให้เปิดเผยดีแล้ว จะได้มาแก้ไขและปรับปรุงกัน ดังนั้นอยากฝากสื่อทุกช่องให้นำเสนอเยอะๆ เพราะอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหันมาทำงานกันมากขึ้น
![](https://mono29.com/app/uploads/2022/05/8-5-1024x576.jpg)