คัดลอก URL แล้ว

ต่อยอดอาชีพจากสิ่งที่ชอบ รับถ่ายภาพสินค้าลงไอจี รายได้หลักเเสนบาทต่อเดือน

 เมื่อการศึกษาไม่ได้วัดค่าความสำเร็จ  คุณอุ้มสาววัย 26 ปี จบ ม.6 ตัดสินใจไม่เรียนต่อ หันมาเอาจริงเอาจังกับสิ่งที่ชอบ มุ่งมั่นพัฒนาจนต่อยอดเป็นอาชีพ รับถ่ายภาพสินค้าลงไอจี รายได้หลักเเสนบาทต่อเดือน”

คุณอุ้ม พรสวรรค์ ภูเรียนคู่ ”เจ้าของเพจรับถ่ายภาพสินค้า “Aumza Studio” 

จุดเริ่มต้น

ก็คือย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 9 ปีที่เเล้วนะคะ เป็นเเม่ค้าออนไลน์ เเล้วก็บวกกับชอบซื้อกล้องมาถ่ายตัวเอง สมัยนั้นก็จะเป็นกล้องฟรุ้งฟริ้ง พอเป็นเเม่ค้าเเล้วก้เริ่มมาเป็นเเม่ทีมที่จริงจังมากขึ้น เตรียมจะขึ้น VIP ดีลเลอร์ในอนาคตก็เลยอยากที่จะมีภาพช่วยเหลือให้ตัวเเทน ก็เลยใช้กล้องตัวนี้ ที่เป็นกล้องปรุ้งฟริ้งมาถ่ายสินค้า

พอเราถ่ายเสร็จเราก็เลยรู้สึกว่าชอบ เเต่คราวนี้ภาพจะออกเป็นสีชมพู ก็เลยซื้อกล้อง มาใช้งานจริงจัง ก็ใช้กล้องตัวนี้ ถ่ายให้กับทีมเเล้วก็เอาไปเเบ่งปันเพื่อนๆ ในเเบรนด์ จนคนในเเบรนด์ เเละทีมรู้จักเเล้วว่า ภาพสไตล์นี้เป็นภาพของเรานะ เเล้วทุกคนก็รู้จักเรา รู้จักตัวตนเราจากการถ่ายรูปอะค่ะ ก็กลายเป็นว่าถ้ามาอยู่ทีมนี้มีภาพซัพพอท ทีมนี้ถาพสวยค่ะ

เป็นคนชอบถ่ายรูป ?

ชอบถ่ายรูปอยู่เเล้ว เเต่ก่อนที่จะมารับถ่ายภาพก้จะถ่ายอีกเเนวนึง เเบบเจออะไรก็ถ่าย เอาไปตั้งไว้ในคาเฟ่ เอาไปตั้งไว้กับต้นไม้ เเต่พอตอนที่เรามารับถ่ายอะค่ะ ก็จะเปลี่ยนไปอีกสไตล์นึงเลย

อะไรทำให้ตัดสินใจเป็นแม่ค้า ?

ตอนนั้น คือบ้าน ซึ่งก็จะบอกว่าบ้านก็ไม่ได้จนมากเเต่พอมีพอกิน เเต่ว่าด้วยความที่เราอยากจะได้มือถือใหม่หรืออยากได้คอม ก็ต้องรอขอเเม่ เเม่ก็ต้องรอขายข้าวก่อน ด้วยความอยากได้ก็เลยไปเริ่มเป็นตัวเเทนจำหน่ายตั้งเเต่เเต่สมัยที่ยังมีระบบไม่สต๊อก

ฝากเจ้าของเเบรนด์ส่ง เริ่มต้นด้วยเเบบไมใช้เงินทุนเลยค่ะ จนสะสมที่เราเก็บกำไรส่วนต่างอะค่ะ มาเป็นทุนเเล้วก็ค่อยต่อยอดเป็นเเบบสต๊อก

ที่บ้านก็สนับสนุน พอขายของได้เงินจริงจังเลยไม่ได้ขอเงินที่บ้านเลย เขาก็เริ่มมองเห็นเเล้วว่า เรามาทำตรงนี้ เรารับผิดชอบตัวเองได้ จนวันนึงที่ตัดสินใจว่าโอเค หลังเรียนได้ 1 ปี ก็เลยตัดสินใจลาออกมาเลย เพราะว่าอยากที่จะได้เงินอยากที่จะขายของ ทางบ้านก้ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ

ทำไมถึงกล้าตัดสินใจลาออก ?

ก็ตอนนั้นเลือกเรียนในคณะที่ยากสำหรับตัวเอง ก็คือนิติศาสตร์ จำอะไรไม่ค่อยได้เลย ครูสอนอะไรก็จำไม่ได้ก็เลย ซึ่งตอนที่ก่อนจะตัดสินใจ ก็เป็นนักศึกษาปีหนึ่งด้วย เเล้วก็ไปซื้ออุปกรณ์เตรียมออกขายที่ตลาดนัด พอเรารู้สึกว่าเราได้เงินจากตลาดนัด ก็เลยตัดสินใจเลยค่ะว่าจะมาเป็นเเม่ค้าจริงจังเลย

พ่อเเม่ก็บอกว่า เเล้วเเต่เลยว่า เขาก็เหมือนสนับสนุนเรา ตั้งเเต่ตอนที่ขายของเเล้ว พอรู้ว่าเรารับผิดชอบตัววเองได้ เราตัดสินใจไม่เรียน ทางบ้านก้ไม่มีปัญหาเลย

ออกมาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?

พอกินพอใช้เเล้วก็ดูเเลตัวเองได้ เเล้วก็ให้ทางบ้าน ตอนเริ่มต้นที่ให้ทางบ้านก็ 2000-3000 บาทอย่างมาก พอขายออนไลน์ได้เป็นเเม่ทีมใหญ่เลย ได้บ้านได้รถจากการขายออนไลน์เลย สุดท้ายมันมีช่วงโควิด ก็เริ่มรู้สึกว่าการขายออนไลน์อาชีพเดียวไม่ได้เเล้วนะ เราต้องมีอาชีพเพิ่ม

ตอนโควิดมา เราเห็นพ่อค้าเเม่ค้าเริ่มมาขายเยอะขึ้น ช่วงโควิดใหม่ ๆ ขายเยอะมาก เราก็เลยรู้สึกว่า เราอะชอบถ่ายรูปนะ เล้วเราก็ว่างด้วยในช่วงนั้น เลยรับถ่ายภาพอาหารฟรี

ถ่ายฟรีเลย 20-30 ภาพไปเลย เเต่เราก็โพสต์เล่น ๆ ว่า ส่งมาเเล้วนะ เราถ่ายให้ เเต่เรากินด้วยนะ เเล้วทุกคนก็เเบบเเฮปปี้กัน ก็เลยเริ่มฝึกฝนการถ่ายอาหารจากตรงนั้น เเต่จุดเปลี่ยนที่ได้มารับถ่ายภาพจริงจังเลย

พอไปลุยไอจี ซึ่งภาพจะเป็นภาพสามเเถวที่เป็นขนาดหนึ่งต่อหนึ่ง ทำให้มันต้องภาพจำนวนที่เยอะขึ้น เเล้วเราขายใหม่ ๆ โพสต์วันละ 6-9 รูปเลย เเล้วมันจะดันขึ้นฟีดเยอะมาก พออย่างนั้นก็จะได้ฝึกฝนในสไตล์อื่นๆ เพิ่มมากขึ้น เพราะเราต้องใช้จำนวนภาพเยอะ

แล้วก็มีน้องคนนึง ทักมาในไลน์ว่า ชอบผลงานหน้าไอจี พี่รับถ่ายภาพไหม ก็เลยแบบ เราถ่ายภาพมา 9 ปีอะ ในเฟสบุ๊คไม่มีใครถามเลย เเต่ทุกคนเเฮปปี้ในการใช้ภาพเรา เเต่ว่า พอไปลงไอจีเเค่นี้ มันมีคนที่สนใจที่จะมาถ่ายกับเราเลยหรอ ก็เลยตัดสินใจว่าเปิดรับ มาโพสต์หน้าไอจี ว่าเปิดรับถ่ายภาพสินค้านะ ทุกคนก็เห็นผลลงานเราอยู่เเล้ว แค่เดือนเเรกปาไป 70-80 งานเลย

พอโพสต์เสร็จคิวที่ 1 2 3 เข้ามาในระยะเเบบไม่กี่นาที ตอนนั้นรู้สึกดีใจที่สุดเเล้ว พอได้ของมาจริง ๆ เเอบกดดันนิดนึงปกติเราก็จะถ่ายฟรี ถ่ายให้ทุกคนใช้อยู่เเล้ว พอมารับงานจริงจังเราอยากทำให้มันออกมาดี

ก็ทำให้ต้องมีการศึกษา ดูภาพต่าง ๆ เพิ่มเติม ศึกษาตัวสินค้ามากขึ้นว่า เขาอยากพรีเซ้นอะไรในตัวสินค้านั้น ๆ มีลงเรียนเพิ่ม ฝึกฝนเพิ่มจน 6 เดือนที่มันรายได้ 6 หลักอย่างสม่ำเสมอ เราก็เลยตัดสินใจว่าโอเคจะทำอาชีพนะ

ต้องเก่งไหมถึงจะเริ่มทำ ?

ไม่จำเป็นว่าต้องเก่งหรือเรียนมาเฉพาะด้าน เเต่ว่าฝึกฝนเอา อาศัยชั่วโมงในการฝึกฝนเยอะมาก พอเราเปิดรับถ่ายจริง ๆ ประสบการณ์ที่เราฝึกมาจะช่วยในตัวงานได้มาก เริ่มต้นสามารถใช้จากมือถือได้ก่อนเลยค่ะ พอรับถ่ายภาพจากมือถือเสร็จ พอมีงบหน่อยค่อยไปต่อยอดเป็นกล้องมิลเลอร์เลส ตัวเล็ก ๆ ได้

ส่วนฉากเราก็ไปดูมาว่า ภาพไอจี มันจะใช้เป็นผ้าถ่ายรูป เราก็เอ๊ะ มันจะทำยังไงดี ฉากเราก็ยังไม่มีงบที่จะซื้อ ก็เจอราวตาผ้านั่นเเหละค่ะ ก้เอาไปหนีบ เเล้วก็ลากผ้าลงมาค่ะ เเล้วก็เอาของไปวาง อ้าว มันก็เหมือนภาพไอจีที่เราเห็นเลย ก็ได้มาจากจุดนั้น พอมีลูกค้ามากขึ้นก็นั่งเป็นโต๊ะ ก็สบายขึ้น

ตอนนี้ ก็มีเเพลนที่อยากจะมีตึกเเล้วก็ทำเป็นสตูดิโอให้เช่า เเล้วก็ตัวเองก็ทำอีกชั้นนึง

อยากฝากอะไรถึงคนที่ดูอยู่ ?

ความอดทน เพราะว่าบางคนมีประสบการณ์ เเต่พอมาลองทำ ไม่ใช่ได้ลูกค้าต้งเเต่วันเเรกเลย เป็นเดือนสองเดือนสามเดือน บางคนที่เรียนๆ จบไปก็ต้องใช้ระยะเวลาฝึกฝนจนลูกค้าเห็นผลงาน เห็นสไตล์คนถ่าย ต้องรอให้ได้ เเต่ระหว่างที่รอก็คือ อยากให้ฝึกฝนไปด้วย

เนะนำว่าถ้าชอบจริง ๆ ให้ฝึกฝนไปก่อนเลยต่อให้ไม่รู้ก็ตาม เรียนรู้จากยูทูปเเบบฟรีๆ ไปก่อนได้เลย พอฝึกฝน ๆ เข้าเเบบตลอด ฝึกฝนเข้าบ่อยๆ เราจะชินมือ เเล้วเราได้มีโอกาสทีคนเห็นผลงานเรามากขึ้น ชอบผมงานเรามากขึ้น พอลูกค้ามาติดต่อ เราจะมั่นในในตัวผลงานเรามากขึ้น

ความท้อ ความเหนื่อย มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน เมื่อไหร่มันจะสำเร็จสักที เมื่อไหร่มันจะเห็นผล เเต่ส่วนตัวมองว่า จะมีคีเวิร์ดนึงประจำตัวคือ

ระหว่างทางมันคือ การลงมือทำตั้งเเต่ยังไม่เห็นผล ที่ทำได้ทุกวันนี้ ไลฟ์สดทุกวัน เริ่มต้นก็ไม่รู้ว่าปลายทางจะคนดูร้อยสองร้อยคน เเต่สุดท้ายก็ยังทำทุกวัน จนคนมีคนดูไปถึงหนึ่งร้อยคนได้ก็คือเริ่มตั้งเเต่วันที่มีคนสองคน


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง