คัดลอก URL แล้ว
5 ข้อคิดการทำธุรกิจ “โอวา-ธนาวัฒน์” กะเทยขายข้าวออนไลน์ รายได้หลักล้านต่อปี

5 ข้อคิดการทำธุรกิจ “โอวา-ธนาวัฒน์” กะเทยขายข้าวออนไลน์ รายได้หลักล้านต่อปี

อินฟลูเอนเซอร์เกษตรกร LGBTQ+ “คุณโอวา-ธนาวัฒน์ จันนิม” หรือฉายา “กะเทยขายข้าว” ชาวนาออนไลน์จาก จ.สุรินทร์ เจ้าของเพจ “โอวาข้าวหอมมะลิแท้สุรินทร์100%” ผู้สร้างมิติใหม่ของการขายข้าว สามารถสร้างยอดขายรายได้ปังหลักล้านต่อปี โดย คุณโอวา เผยถึงการทำงานว่า

1.เรื่องของบุญคุณกับเรื่องอิ่มท้องคนละเรื่อง

คำว่าลูกชาวนา จากประสบการณ์ของเราคืออาชีพหนึ่งที่ต้นทุนค่อนข้างต่ำ โดนวางกรอบความคิดให้ตั้งใจเรียนหนังสือ จะได้ไม่ลำบากเหมือนพ่อแม่ โดนวาทกรรมมาตลอดว่า

2.คนอื่นอาจเริ่มต้นจากศูนย์แต่ลูกเกษตรกรเริ่มต้นจากการติดลบ

มีสิ่งเหล่านี้กดเราตลอดเวลา จึงรู้สึกว่าต้องหนีจากตรงนี้ละ ก็คือรายได้มันน้อยแสดงว่ารายได้น้อยโอกาสที่จะเข้าถึงสวัสดิการต่างๆ เข้าถึงการศึกษา เข้าถึงสิ่งต่างๆ มันอาจจะน้อยลงไป จากคนอื่นมาก คนอื่นอาจะเริ่มต้นจากศูนย์แต่ลูกเกษตรกรน่ะค่ะ อาจจะเริ่มต้นจากการติดลบ

และที่บ้านจะบอกว่าโตไปทำยังไงก็ได้แต่อย่าทำนาเหมือนพ่อแม่ แล้วยิ่งเป็นเพศทางเลือกมันยิ่งไม่เหมาะกับการอยู่ชนบท เราก็รู้สึกว่าเราต้องหนีจากตรงนี้แล้วค่ะ จนได้เข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็เปิดโลกได้เป็นตัวของตัวเอง พอเรียนจบมาเป็นพนักงานออฟฟิศ แต่โดนวิกฤตโควิดออกจากงานกลับบ้านจ.สุรินทร์ กลับไปในที่ที่เราเคยหนีมาแล้วหนักกว่าเดิม คือมายเซ็ทของคนต่างจังหวัดในชุมชนของเราตอนนั้น ต้องเข้ามาทำงานในกรุงเทพแล้วส่งเงินมาไปให้พ่อแม่นั้นคือประสบความสำเร็จ

3.ธุรกิจในประเทศนี้คนที่รวยระดับต้น ๆ เขาก็ทำมาหากินกับเกษตรกร

เรามาคิดดูแล้วจริง ๆ ธุรกิจในประเทศนี้คนที่รวยระดับต้น ๆ เขาก็ทำมาหากินกับเกษตรกรนะ เราจึงเริ่มดูสินค้าว่าข้าวของอะไรมีศักยภาพลองทำดูสักตั้งมั้ย ใช้ตัวเราเองเนี่ยแหละเป็นต้นทุน เพราะเราเนี่ยแหละรู้เรื่องนาที่สุดละ เป็นลูกเกษตรกรมา 30 กว่าปี กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ชีวิตก็เคยซึมเศร้าจนเคยจบชีวิตตัวเองมาแล้วด้วยค่ะ เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่สร้างความคิดทำให้มีชีวิตอีกครั้งในวันนี้

4.ความเข้าใจของคนในครอบครัวคือพลังใจที่ดีที่สุด

คุณโอวา เผยว่า ช่วงโควิดตกงานต้องกลับมาอยู่บ้าน คนรอบๆ ตัวตอนแรกไม่เข้าใจทำไมกลับมาอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ทำอะไร ทั้งที่ในความเป็นจริง เค้าแก้รีซูเม่ปรับรีซูเม่เพื่อส่งไปสมัครงานใหม่หลายที่แต่ไม่มีที่ไหนรับ ทำให้เิกดคำถามรอบตัวว่าทำไมเราไม่ทำงาน ทั้งพ่อแม่ทั้งคนรอบข้างไม่เข้าใจ ส่งผลให้เกิดความเครียดและคิดฆ่าตัวตาย จนแม่ได้มาเห็นในวันที่เค้ากินยาฆ่าตัวตาย เห็นแม่ร้องไห้เหมือนจะขาดใจทำให้คิดได้ว่านี่เค้ากำลังทำอะไรอยู่ ก็เรียกสติกลับคืนมาและได้เปิดใจคุยกับพ่อแม่ทำให้ได้เข้าใจกันและพ่อกับแม่ก็บอกไม่เป็นไร นั่นแหละจึงเป็นจุดที่ทำให้โอวาพร้อมยืนอีกครั้ง

ต่อให้คนทั้งหมู่บ้าน หรือคนทั้งโลกไม่เข้าใจเรา แต่ขอแค่มีแม่มีพ่อ ที่แบบว่าอยู่ข้างเราอะ แค่เนี่ย ชั้นพร้อมสู้กับทุกคนบนโลกใบนี้

5.เอาตัวเองเป็นต้นทุน

บ้านขายข้าวสุรินทร์ เอาตัวเองนี่แหละเป็นต้นทุน ไม้ต้องมีหรอกอินฟลูฯ เพราะเราเป็นชาวนาเอง รู้เรื่องนาที่สุดแล้วเป็นลูกเกษตรมา 30 ปี ทำไมจะพีเซนต์ออกมาไม่ได้

สิ่งสำคัญคือเริ่มลงมือทำ เราไม่รู้หรอกว่ามันจะเป็นหลุมเป็นโคลนมีบ่อมีหนาม ถ้าเราไม่ก้าวเข้าไปเราจะไม่รู้

เราต้องลองก้าวดู แต่ก้าวเล็กๆ ไม่ต้องลงทุนเต็ม เพราะเกษตรกรเนี่ยพลาดไม่ได้ ปัจจุบันมีโซเชียลมีเดีย ใช้สกิลตรงนี้มาช่วยซัพพอร์ต เซฟโซนบางทีไม่ต้องรอให้ใครให้ก็ได้ เราสร้างมันเองก็ได้นะคะ

แรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดเป็น “คุณโอวา-กะเทยขายข้าว” จะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในรายการ “DNA TALK บุกคนต้นแบบ” วันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคมนี้ เวลา 17.30 น. ทางช่อง MONO29


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง