เส้นทางและแนวคิดการทำธุรกิจของ ซีอีโอมากฝีมือ “คุณตอง-วทันยา อมตานนท์” ผู้บริหารธุรกิจ “เต่าบิน (Taobin)” ตู้กดน้ำอัตโนมัติสุดฮอต เผยเป้าหมายไม่ได้ขายแค่เครื่องดื่มแต่ขายความสะดวกสบายให้ลูกค้า แชร์มุมมองของคนรุ่นใหม่ที่พลิกเทคโนโลยีเพื่อสานต่อธุรกิจครอบครัว
1.ปัญหาของการทำงานกับครอบครัว
ปัญหาของการทำงานกับครอบครัวเลยคือประสบการณ์เราสู้เขาไม่ได้อยู่แล้ว ทีนี้จะสื่อสารให้เขาฟังยังไงว่าสิ่งที่เรามีเขาไม่มีนะ ช่วงแรกก็เถียงกันจริงจังเลยค่ะ เพราะเขาว่าเราไม่มีประสบการณ์ เราก็บอกเขากลับไปว่าไอเดียคุณก็โบราณ เพราะฉะนั้นช่วงที่ตองกลับเข้ามาทำงาน มันเลยเป็นการปรับตัวครั้งยิ่งใหญ่ของบริษัท ตรงที่มันมีความละเอียดอ่อนในเรื่องของมาร์เก็ตติ้งมาก
2.โบราณมาก “ตู้เติมเต็ม” ก่อนจะมาเป็น “ตู้เต่าบิน”
เดิมที “ตู้เต่าบิน” ก็ชื่อ “ตู้เติมเต็ม” มาก่อน อาจจะมีบางท่านได้เห็นบ้างนิดนึง มีอยู่ประมาณร้อยกว่าตู้ เป็นตู้ที่นำเข้ามาและก็ลองขายดู ถ้าเห็นแล้วจะแบบไม่คิดว่าเป็นบริษัทเดียวกับเต่าบิน พูดตรงๆ เลย ทั้งโลโก้ ทั้ง UI มันแบบโบราณไม่น่าซื้อ ความจริงแล้วเทคโนโลยีข้างในก็สำคัญ แต่เรื่องของการสื่อสารกับลูกค้าก็สำคัญเหมือนกัน และคิดว่ตรงเนี่ยบริษัทเราขาด แล้วตองมี ก็เลยกลับมาช่วย
3.การทำธุรกิจการปรับตัวเป็นเรื่องสำคัญมาก
ณ ตอนนี้เรื่องของอะแด็พเทชั่น (Adaptation การปรับตัว) ถือเป็นคีย์สำคัญของธุรกิจว่าจะอยู่หรือจะรอด ถ้าเรามองเห็นการเปลี่ยนแปลง เราจะรีแอ็ค (React การตอบสนอง) หรือคาดการมันได้เร็วขนาดไหน จะถูกดิสรัป (Disrupt ปั่นป่วน) ธุรกิจมั้ย องค์กรของเราให้ความสำคัญเกี่ยวกับว่าพยายามสนับสนุนให้พนักงานไม่รู้สึกเฟลกับการคิดอะไรใหม่ๆ ถึงจะเฟลก็ไม่เป็นไร ให้รางวัลกับคนที่คิด
4.ไม่ได้มองว่าแย่งงานคนอื่น มากกว่าขายน้ำคือขายความสะดวกสบาย
มีคนมาถามตลอดเลยเราไปแย่งงานคนอื่นรึเปล่า? แม่ค้าขายน้ำจะโกรธเรามั้ย? ตองตอบว่ามันเป็นเรื่องของการสร้างดีมาน (Demand ความต้องการ) เพราะทุกอย่างมันต้องพัฒนาไปด้วยกันเรื่อย ๆ
อย่างหนึ่งที่รู้สึกสำหรับสิ่งที่เต่าบินขายมากกว่าเครื่องดื่ม คือขายความสะดวกสบายของลูกค้า ในที่ที่เค้าไปไม่ได้หลายๆ ที่ ส่วนใหญ่ตู้เต่าบินจะไปตั้งในที่ที่มันไม่ได้มีร้านขายน้ำอยู่แล้วนะ มีน้อยมากที่แบบมีร้านขายน้ำแล้วเราไปเบียดเค้า เพราะว่าเราก็มองเหมือนกันว่ามันเซฟกับเรากว่าในการที่เราจะไปในที่ที่แบบว่ามีดีมานแต่ว่าไม่มีซัพพลายเพราะก็มีหลายอย่าง ๆ ที่ตองขายไม่ได้ เช่น ขายรอยยิ้ม ขายฟองนม ก็ยังขายไม่ได้เลย แต่พวกเขาทำได้ เพราะฉะนั้นความคาดหวังหรือลูกค้าก็จะต่างกันละ
5.ชาเลนจ์การทำธุรกิจของคนอายุไม่เยอะประสบการณ์ไม่เยอะ
ด้วยความที่เราอายุยังไม่เยอะ ประสบการณ์ก็ไม่ได้เยอะ สิ่งที่ตัดสินใจไปก็ไม่แน่ใจว่าถูกผิดขนาดไหน ยิ่งเวลาบริษัทโตเร็วมาก ๆ มันจะรู้สึกเหมือนไฟลามอยู่ในบ้านตลอดเวลา อุดตรงโน้นไม่ทันตรงนั้นไม่ทัน กว่าจะสร้างระบบเพื่อรองรับกับธุรกิจที่ขยายตัวได้เหนื่อยมาก แต่ก็เป็นความท้าทายในฐานะคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาทำงานในจุดนี้ค่ะ”
ตอนนี้เริ่มกลับมาโฟกัสกับปัจจุบัน อะไรที่แก้ได้ก็แก้ก่อน อะไรที่มันอนาคตก็ค่อยๆ ทำไป
6.อย่าเชื่อตัวเองมากเกินไป
เวลาเจอปัญหาหรืออะไรที่ต้องตัดสินใจที่ค่อนข้างใหญ่ คุณตองเผยว่า ต้องทำดีที่สุดในตอนนั้น คือ Dataset ที่เรามีอะใช้ให้มากที่สุด กับอีกอย่างหนึ่งเลยที่พยายามอย่าใช้มากเกินไป คือ
อย่าเชื่อตัวเองมากเกินไป ต้องเชื่อตัวเองในจุดที่เรารู้ว่าเราเก่งจริงๆ
คำว่าเชื่อตัวเองเนี่ย มันต้องเชื่อตัวเองในจุดที่เรารู้ ว่าเราเก่งจริงๆ มันก็มีหลายๆ อย่างเหมือนกันที่ตองแบบถ้าย้อนเวลากลับไปได้นะ ชั้นจะไม่ทำอย่างนี้
ไอเดียผสมการตลาดจากคนรุ่นใหม่ เกิดเป็นธุรกิจตู้กดน้ำร้อยล้านได้อย่างไร ติดตามเรื่องราว “คุณตอง-เต่าบิน” ได้ในรายการ “DNA TALK บุกคนต้นแบบ” วันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคมนี้ เวลา 17.30 น. ทางช่อง MONO29
