“ไพโรจน์ ร้อยแก้ว” เจ้าพ่อตลาดนัดร้อยล้าน ตลาดจ๊อดแฟร์ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในช่วงนี้ จุดเริ่มต้นในวัยเด็กที่อยากเป็นพ่อค้าคนกลาง จนวันนี้ที่เป็นพ่อค้าตลาดนัดร้อยล้าน ทำธุรกิจตลาดนัดมาหลายโปรเจคก์ อาทิ ตลาดนัดรถไฟ ตลาดจ๊อดแฟร์ ฯลฯ ระยะทางกว่าจะมาถึงจุดนี้เค้าผ่านอะไรมาบ้าง และมีหลักในการทำธุรกิจอย่างไร ลองไปสำรวจแนวความคิดของเค้ากัน เผื่อใครอยากนำไปปรับใช้ในการทำธุรกิจ
1.ผมทำธุรกิจด้วยหัวใจ ไม่ใช้ตัวเลขนำทาง
Q: คนส่วนมาก เค้าจะมองว่า คนเราจะประสบความสำเร็จได้ต้องเรียนหนังสือ ต้องมีประสบการณ์ พ่อแม่มีฐานะให้เราสามารถไปต่อยอดได้ แต่คุณจะพูดว่าคุณฟลุ๊ค?
A: ก็อาจจะสบายใจสำหรับคนอื่น ถ้าพูดว่าผมเก่งมันอาจจะดูดีเกินไปอะไรยังงี้ครับ ผมใช้ชีวิตแบบไม่ค่อนข้างจะก้าวกระโดด เป็นสเต็ปบายสเต็ป เพราะเคยลองก้าวกระโดดดูแล้วเวลาล้มมันเจ็บ ก็เลยค่อยเป็นค่อยไป เราทำตลาดโดยที่เราไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับมันเลย
แต่เราเคยเป็นพ่อค้าที่ขายของอยู่ในตลาด เพียงแค่คิดว่า
1.ทำยังไงก็ได้ ไม่ทำอะไรที่มันรู้สึกว่า ไม่เป็นที่พึงพอใจสำหรับพ่อค้า
2.ให้ความสะดวกสบาย
3.ให้ราคาที่แบบว่าไปได้
4.ให้การประชาสัมพันธ์ที่ดีสำหรับเค้า
5.ให้มีคนมาซื้อมาขาย มันก็ค่อยเป็นค่อยไป ผมทำธุรกิจด้วยหัวใจ ไม่ได้เอาตัวเลขนำทาง คิดว่าถ้าเราอยู่ได้ เค้าก็อยู่ได้ ถ้าเค้าอยู่ไม่ได้เราอาจจะว้าเหว่อยู่คนเดียว
2.จ๊อดแฟร์ ชกแบบสั้นๆ ทำให้สนุกได้ทุกวัน
“ผมใช้ชีวิตแบบไม่ก้าวกระโดด ค่อนข้างเป็นสเต็ปบายสเต็ป เพราะเคยลองก้าวกระโดดดูแล้วพอล้มมันเจ็บ ก็เลยต้องค่อยเป็นค่อยไป ตอนเด็กครูถามโตขึ้นอยากเป็นอะไร ตอบไปว่าอยากเป็นพ่อค้า พอโตมาก็เริ่มทำตลาดโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรกับมันเลย รู้อย่างเดียวว่าชอบ
สำหรับการทำตลาดจ๊อดแฟร์ คุณไพโรจน์เผยว่า ใช้หลักแนวคิดว่า ลองชกสั้นๆ ดูบ้าง ทำสั้นยังไงให้ได้เงิน สั้นยังไงให้สนุกทุกวัน เพราะเวลาผมไปดูตลาดที่ต่างประเทศ เรารู้สึกว่ามันต้องทำให้รู้สึกว่ามีความสนุกอะ และสามารถเคลื่อนย้ายไปได้ในหลายที่ ไม่ยิดติดกับสถานที่ เราเลยนึกถึงคำว่า “แฟร์” ขึ้นมา จึงกลายมาเป็น จ๊อดแฟร์
3.ไม่สนคำครหา เชื่อมันในตัวเอง เรียนรู้จากประสบการณ์
โดนว่าเปิดตลาดไม่รอด! แต่ไม่ฟังหรอกเพราะมันไม่จริงไง
คุณไพโรจน์มักจะถูกคนพูดมาตลอด เวลาจะไปเปิดตลาดที่ไหน เค้าจะบอกว่ามันไม่รอดหรอก อย่าทำเลย แต่เค้าก็เชื่อมั่นในตัวเองและคิดว่า
“ผมว่าอันนั้นมันไม่ใช่เรื่องจริง ผมทำสิ่งที่ผมชำนาญไง ถ้าเค้าพูดเรื่องจริงเราก็ฟังไง”
คนเวลาเข้ามาถามว่า เราถนัดอะไรอะ ทำอันนั้นแหละ แต่ต้องหาวิธีเอาไปทำให้มันเป็นเงินได้ บางอย่างสิ่งที่เราถนัดอาจจะไม่ทำเงิน แต่ไอสิ่งที่อยู่ค้างเคียงอะอาจทำเงินให้คุณได้ แต่ต้องเริ่มจากตัวเราเองก่อน แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมทำสำเร็จทุกที่นะ เคยทำขาดทุดก็มี แต่เรารู้ว่าขาดทุนเพราะอะไร ไปไม่รอดเพราะอะไร และต้องยอมรับความจริง พูดเรื่องจริงทุกวัน ผมว่าง่ายที่สุด มัน So Simple เลย
4.ไม่ใช้เงินกับสิ่งที่จ่ายไปแล้ว มันไม่เด้งกลับมา
คุณไพโรจน์เผยเกี่ยวกับหลักการใช้เงินว่า
“ผมไม่ใช้เงินไปกับสิ่งที่จ่ายไปแล้ว มันไม่เด้งกลับมา ยกตัวอย่างง่ายๆ คุณซื้อรองเท้าวินเทจสักคู่นึง อาจจะสามพันห้าพัน คุณเลิกใส่อาจจะไปขายสี่พันห้าพัน อะไรอย่างนี้ ผมจะซื้อในสิ่งที่มันมีมูลค่าในวันข้างหน้า”
เค้ายังเผยอีกว่าแนวคิดการใช้ชีวิตดังกล่าว ไม่มีใครสอน เค้าเรียนรู้ชีวิตจากการดูหนัง อ่านหนังสือ ฟังเพลง หนังเรื่องโปรดคือ A Perfect World
5. “การศึกษา” น่ะสำคัญ แต่ให้เรียนเยอะเหมือน “เป็ด”
ผมใช้ชีวิตจากการดูหนัง ฟังเพลง เพราะผมว่าเป็นการเรียนรู้ที่ราคาถูกมากเลยนะ การศึกษาขั้นพื้นฐานนั้นสำคัญ แต่ผมว่าเขาให้เรียนเยอะไปหน่อย สะเปะสะปะเหมือนเป็ดที่จะว่ายน้ำได้หรือจะบินกันแน่ ปริญญาตรีสำคัญมั้ยแล้วแต่มุมมอง เพราะสุดท้ายก็จบด้วยการใช้ชีวิตนั้นแหละ วันที่ผมไม่มีปริญญามันลำบากนะ เพราะไม่ได้รับการยอมรับ
จากเด็กต่างจังหวัดมาจนวันนี้ผมยังไม่รู้ว่าสิ่งไหนคือความสำเร็จ แต่ถ้าถามว่าอะไรคือความสุข คือการที่ผมได้เห็นรอยยิ้มของลูก รอยยิ้มของภรรยา รอยยิ้มของพ่อค้าแม่ค้าและลูกน้อง
ผมยังพูดกับเพื่อน ๆ อยู่เลย ผมอยากเลิกแล้วนะ อยากเฟดตัวเองออกไปแล้วให้น้อง ๆ ทีมงานทำ แต่โควิดมันทำให้ผมหยุดไม่ได้ผมเลยต้องทำต่อ
สเต็ปต่อไปเราคิดว่าอยากทำต่อที่ต่างประเทศ ต้องวางแผนดี ๆ มีติดต่อมาทั้งประเทศสิงคโปร์และประเทศมาเลเซีย ไม่ยากสำหรับผมเพราะของแบบนี้มันเรียนรู้กันได้ ผมเคยไปฝรั่งเศสโดยที่ไม่รู้จักใครเลย ใช้คำว่าลุยอย่างเดียว พยายามเรียนรู้อยู่เรื่อย ๆ พอทำบ่อย ๆ มันก็จะเกิดความชำนาญ อุปสรรคมันก็เลยไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเรา
เจาะลึกความคิดวิถีพ่อค้าสมัยใหม่ “ไพโรจน์ ร้อยแก้ว” เจ้าพ่อตลาดนัดกลางคืน รับชมแบบเต็ม ๆ ได้ในรายการ “DNA TALK บุกคนต้นแบบ” วันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายนนี้ เวลา 17.30 น. ทางช่อง MONO29
