คัดลอก URL แล้ว
5 ข้อคิด ป้าแป๋ว ป้าแบ็คแพ็ค วัยเก๋าที่ประสบความสำเร็จกับการให้ความสุขตัวเอง

5 ข้อคิด ป้าแป๋ว ป้าแบ็คแพ็ค วัยเก๋าที่ประสบความสำเร็จกับการให้ความสุขตัวเอง

ฮิปเตอร์นักเดินทางวัยเก๋า “ป้าแป๋ว-กาญจนา พันธุเตชะ” เจ้าของเพจท่องเที่ยว “ป้าแบ็คแพ็ค” คนที่ประสบความสำเร็จกับการให้ความสุขตัวเอง ในวัย 69 ปี เธอค้นพบว่าการท่องเที่ยวคือความสุข และขอใช้บั้นปลายชีวิตไปกับการแบกเป้ท่องโลก ไปมาแล้วมากกว่า 40 ประเทศ ฉายเดี่ยวเที่ยวคนเดียวหลังเกษียณกว่า 7-8 ปี และจะขอท่องโลกต่อไปจนกว่าสุขภาพจะไม่ไหว

1.เริ่มเที่ยวคนเดียว เพราะถ้ารอเพื่อนชีวิตนี้คงไม่ได้ไปไหน!

“สมัยวัยทำงานข้าราชการเราก็ไม่ได้มีเป้าหมายวัยเกษียณที่เป็นแบบนี้ รุ่นเก่า ๆ ที่เห็นเท่าที่นึกได้ก็จะกลับไปอยู่บ้าน เข้าวัด เลี้ยงหลาน ทำสวนอะไรแบบนี้ แต่สำหรับป้าคิดว่าเรายังไปไหนมาไหนได้ จะอยู่เฉยไปทำไม งั้นออกไปดูโลกดีไหม อ่านจากหนังสือดูจากคนอื่นไปแล้วก็อยากไปเห็นของจริง

แรกๆ ก็เริ่มไปเที่ยวในเมืองไทยก่อน นั่งรถทัวร์ไปเที่ยวดูนั่นดูนี่ ใช้ชีวิตสโลวไลฟ์ แต่มีช่วงปลายปีทัวร์ของยุโรปหน้าหนาวทัวร์มันจะถูก ก็โทรไปชวนเพื่อน ชวนคนนั้นคนนี้ แต่คือความสนใจไม่ตรงกัน สรุปป้าแป๋วก็หาเพื่อนไปทัวร์ไม่ได้ คือเวลาไปจองทัวร์เนี่ยเค้าต้องจองคู่ บอกทัวร์ว่าช่วยหารูมเมทให้ด้วยได้มั้ย เค้าก็บอกไม่มีต้องหามาเอง

ก็อืม ตั้งคำถามในใจเหมือนกัน ว่าเอ๊ะ! เราไปเองไม่ได้เหรอ ถ้าเราต้องรอรูมเมทเราคงไม่ได้ไป ตลอดชีวิตนี้คงไม่ได้ไปไหน

ด้วยความอยากไปเห็นที่โน่นที่นี่ ที่ที่เราเคยได้ดูจากหนังสือนะ เออไปเห็นเองดีกว่า อยากจะไปหลายที่ที่เราคิดในใจว่าอยากจะไปเห็น ก็ตัดสินใจเดินทางด้วยตัวคนเดียว แล้วก็บอกตัวเองว่า ให้ยอมรับสภาพการเดินทางที่ลำบากนะ อย่าคิดว่ามันจะสะดวกสบายเหมือนอยู่บ้าน แม้แต่ในเมืองไทยบ้านเรายังมีอีกตั้งหลายจังหวัดที่ยังไม่เคยไปเห็น หลังจากนั้นก็สตาร์ทเดินทาง

2.เกษียณแล้วอย่าไปคิดว่าตัวเองไร้ค่า ไปไหนเองไม่ได้

คนที่เกษียณหลายคนมักจะคิดว่า ตัวเองไร้ค่า ไม่มีประโยชน์ ชั้นแก่แล้ว ไปไหนเองไม่ได้ ลูกหลานไม่ดูแล ชั้นน้อยใจ แต่ป้าแป๋วไม่มีความคิดแบบนั้น เธอเผยว่า หลายๆ อย่างที่คนในวัยนี้ก็ต้องเรียนรู้ และไม่ควรจะปิดกั้นตัวเอง เรามีศักยภาพไปไหนมาไหนได้ เพียงแต่เราอย่าบอกตัวเองว่า เราแก่แล้ว ต้องอยู่บ้าน ไม่ควรจะไปไหน บางทีมันก็คิดว่าไม่ถูก คือถ้าเราไปใกล้ก็ได้ เก่งขึ้นแล้วค่อยไปให้ไกลขึ้น ไม่ควรจะจมอยู่ที่บ้านอย่างเดียว เพียงแต่เราถามตัวเองว่า ถ้าเราไปเนี่ยเราจะไปได้มะ ไปไหวมะ สภาพร่างกายโอเคมั้ย จะเช็คเรื่องสุขภาพเนี่ยสำคัญ

3.ชีวิตที่เหลือคงจะอยู่กับการเดินทาง

ชีวิตหลังเกษียณของป้าแป๋วเนี่ย เดินทางมาแล้วกว่า 40 ประเทศ อาทิ เมียนมา มาเลเซีย เวียดนาม อินโดก็ไปแล้ว เมืองจีน ญี่ปุ่น รัสเซีย ทางเอเชียใต้ก็จะ อินเดีย ศรีลังกา และก็ยุโรปใต้ แถวกรีซ แถวอิตาลี และก็ยุโรปเหนือก็หมดแล้วค่ะ ที่ไปมาหลังสุดก็จะเป็นยุโรปกลาง แล้วก็อเมริกา แคนาดา ก็เก็บเกือบหมดเหมือนกัน

ซึ่งการเดินทางกลับทำให้เราชอบและยอมรับว่าชีวิตที่เหลือคงจะอยู่กับการเดินทาง ถ้ายังไหวก็ยังจะไปต่อเรื่อย ๆ เที่ยวแล้วมีความสุข ขอทำให้ชีวิตเราแฮปปี้โดยที่ไม่รบกวนใครก็พอ อย่าเอาอายุมาตีกรอบว่าจะทำไม่ได้ ถ้าอยากเที่ยวก็ไปเลยไม่ต้องรอลูกหรอก ป้าก็เช็คตัวเองประเมินตัวเองเป็นปี ๆ ถ้าปีนี้ไหวก็ไปต่อ

4.อย่าไปหวังพึ่งลูกมาก เค้าก็มีเรื่องต้องรับผิดชอบ ช่วยเหลือตัวเองในส่วนที่ทำได้

ป้าแป๊วคิดเองนะว่า ลูกหรือหลานเค้าก็มีภารกิจ มีงาน มีชีวิตครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ เราจะไปหวังพึ่งเค้ามากก็ไม่ได้ ก็ต้องช่วยเหลือตัวเองในส่วนที่เราทำได้

คิดว่ามันเป็นเรื่องของการพึ่งพาซะมากกว่า แทนที่จะไปไหนมาไหนได้เอง ก็ต้องรอคนนั้นคนนี้ให้ไปส่ง ทั้งที่เราไปเองได้ ก็ไปเลย ไม่ต้องรอใคร

5.ในวัยนี้ไม่มีแล้วความฝัน ทำทุกวันให้ชีวิตแฮปปี้ก็พอ

หากถามถึงความฝันที่อยากทำมีอีกมั้ย? ป้าแป๊วเผยว่า ไม่มีแล้ว มีแต่ว่าชีวิตที่เหลือ คงอยู่กับการเดินทาง ถ้ายังไปได้ก็ยังไปอยู่ อย่างอื่นก็ไม่ฝันแล้ว เพราะมันเลยวัยมาแล้ว ไม่อยากจะรวยกว่านี้ ไม่อยากจะได้อะไรแล้วในชีวิต พอถึงวัยนี้ก็ทำชีวิตในช่วงนี้ให้แฮปปี้ โดยที่ไม่รบกวนใคร ก็โอเคแล้ว ป้าแป๊วยังเผยอีกว่า ถ้ายังเดินได้ก็แสดงว่ายังไม่แก่!

ฟังความคิดและเส้นทางชีวิตของแบ็คแพ็คเกอร์วัยเก๋าแบบเต็ม ๆ กับ “ป้าแป๋ว-กาญจนา” ได้ในรายการ “DNA TALK บุกคนต้นแบบ” วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคมนี้ เวลา 17.30 น. ทางช่อง MONO29


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง