จากจุดเริ่มต้นการดูแลลูกๆ ด้วยไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร จนเกิดเป็นผลผลิตแห่งความสำเร็จ สู่แชมป์กีฬาแจ็ตสกีระดับโลก ที่สร้างชื่อเสียงและความภูมิใจให้กับครอบครัว และคนไทยเป็นอย่างมาก เรื่องราวของความสำเร็จลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นอย่าง ออก้า นครา, เปิ้ล นาคร และจูน กษมา ศิลาชัย
สอนลูกแพ้ให้เป็นก่อนที่จะชนะ
เวลาซ้อมในออก้าในบึงพี่เปิ้ลจะขับเข้าไปใกล้ และก็สะกิดชนให้เค้าตกน้ำ เราต้องทำให้เค้ารู้สึกเสียใจก่อนที่จะดีใจ เพราะเราเคยแข่งชนะที่ได้หนึ่งๆๆ มาตลอด มาวันนึงได้ที่สอง เราโมโหเว้ย ปาหมวกกันน็อค ด่าช่าง ด่าเรือ ด่าทุกอย่างว่าทำไมได้ที่สองไม่ได้ที่หนึ่ง คือแพ้ไม่เป็น พอมาวันนี้อันดับแรกเราก็เลยสอนลูกว่า ออก้าต้องแพ้ให้เป็นก่อน
กีฬาทำให้ลูกโตขึ้น และช่วยพยุงครอบครัวให้มีกิจกรรมร่วมกัน
พ่อเปิ้ลใช้วิธีโปรยยาให้แม่จูนดูก่อน เพราะตอนแรกแม่จูนไม่อยากให้ลูกลงแข่งเล่นเจ็ตสกี เพราะเห็นว่ายังเล็กเกินไป แต่พ่อเปิ้ลได้พาออก้าไปลงแข่งสนามแรกที่ สปป. ลาว ตอนอายุ 6 ขวบ ซึ่งพ่อเปิ้ลจัดแข่งเองเลย กับเด็กคนจีน ปรากฏออก้าชนะ คือแม่จูนเปลี่ยนความรู้สึก อารมณ์ ทำหน้าที่ซัพพอร์ต เรื่องของการกินการอยู่ อยากได้อะไรเราทำ เพราะว่ามันคือความสุขของลูก กีฬาก็ถือว่าช่วยหลายอย่าง ทำให้เค้าโตขึ้น มีสมาธิมากขึ้น เป็นผู้ใหญ่มีความรับผิดชอบมากขึ้น และกีฬามันช่วยผยุงทั้งครอบครัว ไม่ใช่แค่ว่าเค้าไปแค่สองคน พอเค้าแข่งกันทีเราก็จะยกกันไปทั้งครอบครัว กลายเป็นกิจกรรมของครอบครัวไปแล้ว
นอกจากกีฬาจะเป็นความสุขให้ลูกแล้ว มันยังทำหน้าที่หล่อหลอมให้ลูกเราเติบโตขึ้น เพราะฉะนั้น เราก็แค่เป็นหน่วยซัพพอร์ตที่ดีที่สุด ในทุกๆ เรื่องของเขา
หลักการเลี้ยงลูก เหมือนการใช้ชีวิตกับเพื่อน
เวลาเราอยู่กับเพื่อน เป็นห่วงเพื่อนก็เตือนเพื่อน เมื่อเขามีเรื่องไม่สบายใจเราก็ให้คำปรึกษา และเมื่อเขามีปัญหาเราก็เข้าช่วยเหลือ และก็เตือนแบบแมนๆ ทำแบบนี้ไม่ถูกนะเห้ย ไปแกล้งผู้หญิง ไปแกล้งคนอ่อนแอกว่า
ดูสัมภาษณ์เพิ่มเติม : บุกคนต้นแบบ “บ้านศิลาชัย” เลี้ยงลูกแบบเพื่อน ส่ง “ออก้า” คว้าแชมป์เจ็ตสกีระดับโลก | #DNATALK EP.38